หึ่ง “ตั้ง อาชีวะ” เปลี่ยนชื่อฝรั่ง หนีคดีไปนิวซีแลนด์ งานเข้าถูกโจรขึ้นบ้านถี่ยิบ!

MGR Online - สื่อนิวซีแลนด์เผย “ตั้ง อาชีวะ” ผู้ต้องหาหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในไทย บ้านในเมืองปาล์มเมอร์สตัน นอร์ท ทางตอนเหนือของกรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ ถูกขโมยขึ้นนับสิบครั้ง แถมภรรยาให้การตำรวจไม่ได้ เพราะไม่รู้ภาษาอังกฤษ ล่าสุด ติดตั้งกล้องวงจรปิดแล้ว 4 ตัว

วันนี้ (15 มิ.ย.) สำนักข่าว STUFF ของนิวซีแลนด์ รายงานเมื่อ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ผู้ลี้ภัยชาวไทยที่ใช้ชื่อว่า นายสตีเวน เบรนท์วู้ด (Steven Brentwood) ซึ่งระบุว่าเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนเสื้อแดง และหลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาลี้ภัยอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อปี 2557 ประสบปัญหาบ้านพักของเขาในย่านไฮบิวรี (Highbury) เมืองปาล์มเมอร์สตัน นอร์ท (Palmerston North) ถูกขโมยขึ้นบ้านนับสิบครั้งในรอบปีที่ผ่านมา จนต้องตัดสินใจติดตั้งกล้องวงจรปิด 4 ตัว

นายสตีเวนกล่าวว่า ครอบครัวของเขารู้สึกปลอดภัยดีที่นิวซีแลนด์ ยกเว้นแต่ในละแวกบ้านของเขา เมื่อต้องออกไปทำงานในช่วงเช้า โดยให้ภรรยาอยู่ในบ้านพร้อมด้วยลูกชาย และลูกสาวที่เพิ่งคลอด ช่วงเวลาดังกล่าวคนร้ายได้เข้ามาปล้นทรัพย์เกิดขึ้น โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมามีชายสวมเสื้อฮู้ดเข้ามาภายในรั้วบ้าน และพยายามใช้มีดตัดสายกล้องวงจรปิดแต่ไม่สำเร็จ

“ผมออกจากบ้านเกิดเมืองนอนมาเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ แต่ก็เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น ผมมีกล้องวงจรปิดแล้ว จึงพยายามที่จะยังเข้มแข็งอยู่ แต่ภรรยาของผมหวาดกลัวมาก เมื่อผมออกไปทำงาน ซึ่งทำให้ผมกังวลมาก พวกเรากังวลอย่างยิ่งต่อผู้คนที่นี่” นายสตีเวนระบุ

นายสตีเวนระบุว่า ตนไม่มีเงินมากพอที่จะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น และยังมีค่าใช้จ่ายตามมาหลังสิ่งของถูกขโมยไปอีก ที่ผ่านมาคนร้ายได้ขโมยวิทยุ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์พักแรม น้ำมันเชื้อเพลิงอีก 20 ลิตร ของเล่นเด็ก อุปกรณ์เครื่องมือช่าง และยังทำลายกระจกรถยนต์ของเขาอีกด้วย ต้องใช้วิธีติดตั้งไฟสัญญาณไว้ในสนามหลังบ้านเพื่อป้องกันการบุกรุก อย่างไรก็ตาม การบุกรุกก็เกิดขึ้นน้อยลงในสัปดาห์ถัดมา

นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังบั่นทอนกำลังใจแก่ภรรยาชาวไทยของเขาจนหวาดกลัวทุกครั้งที่จะเปิดประตูเมื่อมีคนเคาะประตูขึ้นมา นายสตีเวนเล่าว่า เช้าวันหนึ่งภรรยาโทรศัพท์หาตนเพราะมีเสียงดังที่สนามหลังบ้าน จนต้องกลับจากที่ทำงานเพื่อมาดูแล ซึ่งเธอไม่สามารถให้ปากคำต่อตำรวจได้เพราะภาษาอังกฤษเธอไม่แข็งแรง

ด้านนางลอร์นา จอห์นสัน ประธานองค์กรกู้คืนความเชื่อมั่นผู้ลี้ภัย แห่งอำเภอมานาวาตู (Manawatu) และสมาชิกสภาเมืองปาล์มเมอร์สตัน นอร์ท กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ลี้ภัยมาจากประเทศที่รัฐไม่สามารถปกป้องดูแลพวกเขาได้ ยิ่งมาเจอเหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้านยิ่งทำให้เกิดอาการเครียดอย่างชัดเจน และยิ่งหวาดกลัวยิ่งขึ้นสำหรับผู้ลี้ภัยที่ผ่านประสบการณ์เลวร้ายมามากแล้ว หากยังรู้สึกใหม่ต่อประเทศนิวซีแลนด์ และภาษาอังกฤษยังไม่ใช่ภาษาแรกของประเทศภูมิลำเนา ยิ่งทำให้กระบวนการติดต่อตำรวจหรือต้องทำอะไรยิ่งยากขึ้นไปอีก

ขณะที่โฆษกตำรวจหญิงของเมืองปาล์มเมอร์สตัน นอร์ท ระบุว่า ตำรวจได้รับรายงานกรณีขโมยขึ้นบ้านของนายสตีเวนแล้ว และกำลังทำการสืบสวนอยู่ โดยแนะนำว่าให้ใช้ไฟเซ็นเซอร์เป็นเครื่องมือป้องกันขโมยขึ้นบ้าน เนื่องจากมีราคาถูกและได้ผล

อนึ่ง ผู้สื่อข่าว MGR Online ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า เมืองปาล์มเมอร์สตัน นอร์ท อยู่บนเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ ห่างจากกรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ ไปทางทิศเหนือประมาณ 190 กิโลเมตร



สำหรับ นายสตีเวน เบรนท์วู้ด ที่ระบุว่า หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาลี้ภัยอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อปี 2557 หลายฝ่ายระบุว่า เป็นคนเดียวกับ นายเอกภพ เหลือรา อายุ 27 ปี เจ้าของฉายา “ตั้ง อาชีวะ” ที่เคยปราศรัยร่วมกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในนามแกนนำกลุ่มนักศึกษาอาชีวะเพื่อประชาธิปไตย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อปี 2556 ต่อมาถูกออกหมายจับในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และได้หลบหนีพร้อมแฟนสาวออกนอกประเทศ

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2558 นายเอกภพ ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการมีชีวิตที่สุขสบาย พร้อมแสดงหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ของประเทศนิวซีแลนด์ โดยพบว่าสำนักงานใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาติ (UNHCR) สำนักงานกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ ได้เป็นหน่วยงานที่ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่นายเอกภพ ก่อนเข้ามาพำนักในนิวซีแลนด์ภายใต้ระบบโควตาผู้ลี้ภัย ซึ่งข้อตกลงระหว่างสหประชาชาติกับรัฐบาลนิวซีแลนด์ มีโควตาไปอาศัยในประเทศนิวซีแลนด์ได้ปีละ 750 คน