... รายงาน
กลายเป็นประเด็นเดือดในโลกโซเชียล สำหรับรายการโทรทัศน์ชื่อดัง “อายุน้อยร้อยล้าน” ที่ออกอากาศผ่านเวิร์คพอยท์ทีวี มีเสียงวิจารณ์จากเฟซบุ๊กเพจแห่งหนึ่ง ว่า แค่จ่ายเงิน 1 ล้านบาท ก็ได้ออกทีวี แถมแขกรับเชิญยังต่อยอดด้วยการล่อแมงเม่า ชวนผู้ชมทางบ้านทำธุรกิจ ทั้งขายแฟรนไชส์ ขายคอร์สอบรมที่สูงถึงหลักแสนบาท และธุรกิจแชร์ลูกโซ่แบบเลี่ยงกฎหมาย มีผู้หลงเชื่อแล้วไม่ได้ผลตอบแทนเช่นนั้น เสียหายจำนวนมาก
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบบางบริษัทที่เจ้าของไปออกรายการ กับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าไม่ได้มีรายได้หลักร้อยล้านบาทตามที่กล่าวอ้างจริง
ในภายหลัง “ก้อง อรรฆรัตน์ นิติพน” ผู้บริหาร บริษัท มัชรูม กรุ๊ป จำกัด ต้องออกมาชี้แจง หนึ่งในนั้นคือข้อกล่าวหาที่ว่ารับเงิน ระบุว่า เราเป็นธุรกิจมีเดีย รับเงินจากผู้สนับสนุนรายการ มีทีมงานหลายสิบคนเพื่อทำงานนี้ มีต้นทุนการทำงานเดือนละหลายล้านบาท แต่มีสปอนเซอร์ดีๆ มากมายสนับสนุนในสิ่งที่เราทำ เพราะมีความเชื่อเหมือนกันว่า อาจเป็นแรงใจกระตุ้นให้เกิดนักธุรกิจรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น
เป็นที่ทราบกันดีว่า อายุน้อยร้อยล้าน เป็นรายการสาระบันเทิงเชิงธุรกิจ ผลิตรายการโดย บริษัท มัชรูม เทเลวิชั่น นอกจาก “ก้อง อรรฆรัตน์” แล้ว ยังมี น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์, ยิปโซ อริย์กันตา มหพฤกษ์พงศ์ และ ออม สุชาร์ มานะยิ่ง ดำเนินรายการ มีชื่อเสียงและเป็นที่พูดถึง กระทั่งได้รับโอกาสจากเครือบางกอกโพสต์ นำโดย “สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์” เข้าถือหุ้นในบริษัท มัชรูม เทเลวิชั่น 51% กว่า 150 ล้านบาท แถมยังให้ใช้สตูดิโอที่อาคารบางกอกโพสต์ คลองเตย แบบฟรีๆ อีกต่างหาก
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท มัชรูม กรุ๊ป จำกัด (ชื่อเดิม มัชรูม เทเลวิชั่น) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2547 ทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท คณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วย นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์, นายวรชัย พิจารณ์จิตร, นายเอกฤทธิ์ บุญนิติ, นายธีระเกียรติ จิราธิวัฒน์, นายภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์, นายอรรฆรัตน์ นิติพน, หม่อมหลวงพอยศ กัลยาณะวงศ์, นายพงศธร ฉัตรนะรัชต์ และ นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน
งบกำไรขาดทุน พบว่า ปี 2558 มีรายได้หลัก 136,085,182 บาท รายได้รวม 136,306,589 บาท กำไรสุทธิ 21,593.363 บาท ปี 2559 มีรายได้หลัก 170,944,524 บาท รายได้รวม 171,151,390 บาท กำไรสุทธิ 11,431,421 บาท และปี 2560 มีรายได้หลัก 187,258,613 บาท รายได้รวม 187,315,535 บาท แต่กำไรสุทธิ เหลือเพียง 909,275 บาท ... “เก้าแสนกว่าบาท” เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม “ก้อง อรรฆรัตน์” ให้สัมภาษณ์กับ M2F สื่อเครือบางกอกโพสต์ เมื่อ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ไตรมาสแรกมีรายได้ 65.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 58.1% มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี 4.7 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3.4 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสแรกปีก่อน 12.8% เป้าหมายในปี 2561 จะมีรายได้ 360 ล้านบาท กำไร 40 ล้านบาท และพร้อมนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปี 2562
ขณะที่ มัชรูม กรุ๊ป ได้วางโพสิชั่นเป็นผู้ผลิตและออกแบบคอนเทนต์ในเครือบางกอกโพสต์ ซึ่ง “สุทธิเกียรติ” กล่าวว่า มัชรูมจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อบางกอก โพสต์ โดยจะทำงานร่วมกับหนังสือพิมพ์และนิตยสาร เพื่อนำไปสู่การสร้างแพลตฟอร์มที่ครบวงจรสำหรับข้อมูล ข่าวสาร สื่อต่างๆ และโซลูชั่นทางการตลาด เริ่มจาก สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิทัล ขยายไปทำอีเว้นท์และให้ความรู้การศึกษา
ในช่วงที่ธุรกิจหลักของมัชรูม กรุ๊ป อย่างรายการอายุน้อยร้อยล้าน แม้จุดเริ่มต้นจะมีส่วนที่ดี แต่ส่วนที่ถูกโจมตีในโลกโซเชียล จะแก้ไขปัญหาการสื่อสารในภาวะวิกฤตอย่างไร โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ว่า “รับเงิน” เพื่อให้แขกรับเชิญออกรายการ และในบางธุรกิจไม่ได้ทำเงินจริงๆ อย่างที่พูดในรายการ ย่อมส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ชมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่นับรวมคนที่ไปลงทุนในธุรกิจที่ออกรายการแล้วเจ๊ง ใครจะรับผิดชอบ?