แห่งที่ 2 ในรัชกาลที่ ๑๐ ชาวอุทยานฯ สุดปลื้มปีติที่สุดของการรอคอยเชิญชวนนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมความงาม อธิบดีฯ เดินหน้าเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์อีกหลายแห่ง
วันนี้ (10 พ.ค.) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายทรงธรรม สุขสว่าง ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) นายกมลชัย คชชา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) นายสว่าง กองอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) นายอโนทัย เพียรคงชล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ แม่ตะไคร้ พร้อม จนท.ที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำพิธี
จากนั้นอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เปิดเผยว่า ภารกิจของหน่วยงานคือดูแลทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อนุรักษ์ประมาณ 73 ล้านไร่ มีอุทยานแห่งชาติ 154 แห่ง เนื้อที่ประมาณ 44.5 ไร่ ซึ่งอุทยานแม่ตะไคร้ จ.เชียงใหม่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2560 เป็นอุทยานฯ ล่าสุดลำดับที่ 131
นายธัญญากล่าวอีกว่า อุทยานแห่งนี้มีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญหลายอย่าง เช่น พันธุ์ไม้ของป่านานาชนิด ทิวทัศน์สวยงาม ได้แก่ น้ำตกแม้ตะไคร้ ดอยลังกาหลวง ผาน้ำลอด ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์อีกแห่งจึงได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงโดยมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ด้วยความจำเป็นรักษาผืนป่าให้ยั่งยืนต่อไปนั้น ยังมีอุทยานแห่งชาติเตรียมการอีกหลายแห่งที่น่าจับตามอง เช่น อุทยานแห่งชาติ ลำน้ำกก จ.เชียงราย อุทยานแห่งชาติ ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย อุทานแห่งชาติแห่งชาติ ภูยาผา จ.เลย และอุทยานแห่งชาติ แม่ยวมฝั่งซ้าย (แม่สะเรียง)
สำหรับระยะการดำเนินงานกว่าจะมาเป็นอุทยานแห่งชาติ แม่ตะไคร้ จว.เชียงใหม่ เดิมมีฐานะเป็นวนอุทยานและขอเลื่อนขึ้นเป็นอุทยานฯ เนื่องจากมีความหลากหลาย รวมทั้งมีพื้นที่รับผิดชอบเกินกว่า 10 ตารางกิโลเมตร มาตั้งแต่ พ.ศ. 2534 ผ่านมาหลายรัฐบาล ต้องมีการประชาพิจารณ์จากชุมชนกระทั่งประสบความสำเร็จในปี 2560 ซึ่งใช้เวลานานถึง 26 ปี
ก่อนหน้านี้ อุทยานแห่งชาติ เจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกในรัชกาลที่ ๑๐ และอุทยานแห่งชาติ แม่ตะไคร้ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2
