“ทนายษิทรา” มือทำคดีลุงจรูญ แฉ “นายแผน” เป็นคนขับรถให้ผู้จัดการ-เจ้าหน้าที่ธนาคาร มาที่บ้านลุงจรูญเมื่อ 1 ธ.ค. 2560 แต่กลับไปให้การตำรวจภาค 7 ว่าไม่รู้จักกัน ท้าอยากฟ้องก็บอกมาเลย เชื่อมีแบ็กดีถึงเปิดหน้าชน มาทีหลังโฉ่งฉ่างเยอะ แต่ลุงจรูญเห็นแล้วร้องอ๋อจนได้
วันนี้ (14 มี.ค.) คดีแย่งสิทธิครอบครองเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านบาท หรือคดีหวย 30 ล้าน จากกรณีที่ตำรวจกองปราบปรามเตรียมออกหมายเรียกนายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือแผน ที่อ้างว่าเป็นผู้เห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจก้มเก็บลอตเตอรี่ได้ที่หน้าศาลพระพรหมในตลาดเรดซิตี้ จ.กาญจนบุรี มารับทราบข้อหาร่วมกันให้การเท็จ เช่นเดียวกับนายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครู และนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและให้ประกันตัวไปก่อนหน้านี้ จากนั้นเมื่อวันที่ 12 มี.ค. นายแผนได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีศาลอาญา อ้างว่าให้การต่อตำรวจภูธรภาค 7 แล้วถูกตำรวจสอบสวนกลางกับกองปราบปรามบังคับให้การใหม่ว่า “คลับคล้ายคลับคลา” เพื่อไม่ให้ติดคุก ก่อนถูกออกหมายจับ จากนั้นวันที่ 13 มี.ค.นายแผนไปร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอความเป็นธรรมและขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน สถานที่สอบสวนในคดีดังกล่าว
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า เมื่อนายแผนเปิดหน้าชก ตนและ ร.ต.ท.จรูญ ก็ไม่มีปัญหา เรื่องที่นายแผนจะไปร้องเรียนตนต่อสภาทนายความ หรือไปแจ้งความเอาผิดตนกับนายพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวช่องอมรินทร์ทีวี ก็เชิญเลย แค่บอกว่านายแผนเคยไปบ้าน ร.ต.ท.จรูญมาก่อน ถ้าไม่เคยไปก็ปฏิเสธมาเลย นายแผนออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรก เห็นโผล่แค่ขา ต่อมาปิดหน้าอำพราง พอเมื่อวานเปิดหน้าโชว์เพราะคิดว่าได้กุนซือดี แต่ ร.ต.ท.จรูญและคนในบ้านจำได้ทันทีว่านายแผนเคยมาบ้าน ร.ต.ท.จรูญมาก่อน มากับผู้จัดการธนาคารกรุงไทย ตอนที่ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยแนะนำให้มาหาตน ร.ต.ท.จรูญยังงงมาตลอดว่าพยานที่เห็น ร.ต.ท.จรูญเก็บหวยแล้วหาว่าออกลีลาคนบ้าตะโกนกลางตลาดว่าหวยใครหล่นนั้นเป็นใครกันแน่ ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักเลย แต่อีกฝ่ายกลับจำได้อย่างกับเป็นดาราดัง พอเปิดหน้ากากออกมา บอกได้เลยว่านึกไม่ถึงจริงๆ
“สรุปแล้วนายแผนรู้รายละเอียดเรื่องหวยจากผู้จัดการธนาคาร และได้ข้อมูลจากการมาบ้าน ร.ต.ท.จรูญ และอยู่นานเป็นชั่วโมง สาเหตุที่ไม่ยอมเปิดหน้ามานานก็คงเพราะสาเหตุนี้แหละ คงกลัวครอบครัว ร.ต.ท.จรูญจะร้องอ๋อเมื่อเห็นหน้าเข้า ขอให้แผนทำใจดีๆ ไว้ ได้กุนซือดีไม่ต้องกลัว เดี๋ยวกองปราบฯ เขาสอบทุกประเด็นแน่ ให้นายแผนกลับไปดูคลิปวันที่ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงข่าวหลายๆ รอบ ทั้ง ผบช.ภ.7 รอง ผบช.และ รอง ผบก.กาญจนบุรี แถลงว่าอย่างไรบ้าง ให้ย้อนไปดูคุณจอมขวัญ (หลาวเพ็ชร) สัมภาษณ์ รอง ผบช.ภ.7 ดูให้ขึ้นใจ แล้วนายแผนไปให้การให้ดีๆ ถ้าใครแถลงข่าวปรักปรำนายแผนก็ให้นายแผนฟ้องเลย นายแผนรู้หรือไม่ว่าถึงนายแผนจะเปลี่ยนคำให้การหรือไม่ ก็ไม่ได้มีผลอะไรเลย ตำรวจภาค 7 แถลงข่าวชัดเจนว่านายแผนทำอะไรไปบ้าง ให้นายแผนกลับไปปรึกษากับผู้แถลงข่าววันนั้นให้ดี” นายษิทรากล่าว
นายษิทรากล่าวว่า ตนเชื่อมั่นทางกองปราบปรามที่จะสอบสวนที่มาที่ไปของนายแผนได้ไม่ยาก ทีเด็ดบางอย่างขออุบไต๋ไว้ก่อน พยานปากนี้เล่นไม่ยาก มาทีหลังแต่โฉ่งฉ่างเยอะ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้ทีมตำรวจภูธรภาค 7 หลงเชื่อได้ง่ายขนาดนั้น คดีนี้แปลก พนักงานสอบสวนคนทำกับมือได้สารภาพแล้วว่ามันมิชอบอย่างไรบ้าง แต่คนฮึดสู้ดันเป็นชาวบ้านที่ไม่รู้กฎหมาย ก็ไม่ว่ากัน ถ้ามีเสบียงมากก็ขอให้สู้ต่อไป แต่ตนเชื่อว่ามีแสนหมดแสน มีล้านหมดล้านแน่นอน
นายษิทรายังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า นายแผนไม่ใช่คนของธนาคาร แต่เป็นคนของบริษัทแห่งหนึ่งที่มาขับรถให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร ข่าวล่าสุดนายแผนอาจจะโดนไล่ออก แต่นายแผนได้บอกคนใกล้ชิดว่าไม่เป็นไร “นาย” จะรับผิดชอบชีวิตให้ ตนอยากจะบอกด้วยความหวังดีว่า นายที่ว่ารับผิดชอบแค่ตอนมีประโยชน์กับเขาเท่านั้น พอหมดประโยชน์เขาก็ไม่สนใจนายแผนแล้ว ถึงเวลานั้นก็ต้องเผชิญโชคเอง สรุปว่าผู้จัดการ รองผู้จัดการ นายแผน และเจ้าหน้าที่อีก 1 คน มาที่บ้าน ร.ต.ท.จรูญ ในวันที่ 1 ธ.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ธนาคารทุกคนที่มาด้วย พร้อมจะให้การเป็นพยานกับกองปราบฯ ว่านายแผนไม่ได้พูดความจริงว่าไม่เคยรู้จัก ร.ต.ท.จรูญมาก่อน และที่บอกว่าเห็นข่าวจึงรู้ว่ามีคดีหวยหาย ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะระหว่างนั่งมาในรถได้คุยเรื่องเงินที่ ร.ต.ท.จรูญถูกอายัด โดยผู้จัดการยังได้บอกว่าสงสารคุณลุง เหมือนโดนกลั่นแกล้ง ดังนั้นที่นายแผนพูดจึงโกหกทั้งสิ้น