กาญจนบุรี - ลุงจรูญ คู่กรณีครูปรีชา หวย 30 ล้านอลเวง เตรียมแจ้งความนายแผน ข้อหาแจ้งความเท็จ พร้อมเผยช่วงที่ถูกรางวัลที่ 1 ไม่อยากบอกใคร หวั่นญาติเยอะ แต่ที่บอกเจ๊เซี๊ยมเหตุเพราะสนิทกันมากว่า 30 ปี
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่บ้านพัก ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ออกมาพบผู้สื่อข่าวที่หน้าบ้าน ด้วยการแต่งการในชุดลำลอง นุ่งกางเกงสามส่วน สวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นทับใน ใส่รองท้าแตะแบบสบายๆ โดยมี นางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาคู่ใจออกมาพบสื่อเพื่อให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ด้วย
โดย ร.ต.ท.จรูญ เผยว่า วันนี้ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าจะเดินทางมาพบ แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่กองปราบจะเดินทางมาพบที่บ้านพัก หรือจะนัดให้ไปพบที่ใด โดยหลังจากพบเจ้าหน้าที่กองปราบแล้วก็จะแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือนายแผน ซึ่งเป็นพยานให้แก่ นายปรีชา ใคร่ครวญ ในข้อหาแจ้งความเท็จ
สำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะมาพบนั้นเป็นพนักงานสอบสวนจากกองปราบ ส่วนจะต้องให้ปากคำเพิ่มอะไรหรือไม่ขณะนี้ยังไม่ทราบ เพราะยังไปพบกับทางเจ้าหน้าที่กองปราบเลย อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าด้วย คาดว่าหากเจ้าหน้าที่ประสานมาอีกครั้งหนึ่งคงจะเดินทางไปพบ หลังจากที่ได้รับประทานอาหารเช้าแล้วเสร็จ
ส่วนกรณีที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า นายแผน นั้นเคยเดินทางมาที่บ้านของตนนั้น เป็นเรื่องจริง ซึ่งนายแผน ได้เดินทางมาที่บ้านตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งขณะนั้น นายแผน ขับรถยนต์มากับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อมาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องทนายความ เพราะครั้งแรกตนไม่มี และไม่รู้จักกับทนายความ ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า นายแผน รู้จักกับทนายความเยอะ จึงจะให้นายแผน เป็นคนหาทนายความให้ ซึ่งวันที่ปรึกษากันตัวนายแผน ก็ได้เข้าไปนั่งคุยกันภายในบ้านด้วย
โดยหลังจากที่ นายแผน ออกข่าวครั้งแรก สื่อมวลชนได้เบลอใบหน้า จึงจำไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่เมื่อนายแผน ไปร้องขอความเป็นธรรมที่ คสช.เมื่อวานนี้ สื่อไม่ได้เบลอหน้า เมื่อดูข่าวจึงรู้ว่านายแผน นั้นคือใคร และครั้งแรกนายธนาคารเองก็แนะนำให้เราไปหาทนายษิทรา แต่เรายังติดต่อไม่ได้ ก็เลยจะให้ นายแผน เป็นผู้ติดต่อทนายให้ แต่พอมาถึงวันรุ่งขึ้นทนายษิทรา ได้โทร.ติดต่อกลับมา เราจึงโทร.ไปบอกเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าไม่ต้องแล้ว เพราะทนายษิทรา โทร.ติดต่อกลับมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ นายแผน มาให้การแบบนี้เป็นเพราะสาเหตุอะไร หมวดจรูญ ตอบว่าไม่ทราบเหมือนกัน ให้สื่อคิดเอาเองดีกว่า และไม่รู้จักกับ นายแผน เป็นการส่วนตัว แต่ที่เขามาเพราะเขาเป็นคนขับรถให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งในวันดังกล่าวก็ได้มีการคุยกับนายแผน บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะคุยแต่เรื่องทนายความ แต่สุดท้ายก็มาได้ทนายษิทรา ซึ่งทนายษิทรา เป็นทนายคนที่ 2 สำหรับทนายคนแรกนั้นลูกสาวหามาให้ เพราะทนายเป็นเพื่อนกันกับลูกสาว ซึ่งทนายที่เป็นเพื่อนของลูกสาวก็มาทำหน้าที่ได้ไม่นานนัก
“ยืนยันไม่ได้ก้มเก็บลอตเตอรี่ตามคำให้การของนายแผน เพราะผมซื้อมากับมือ สำหรับเรื่องคดีในใจลึกๆ แล้วก็ไม่อยากให้ยืดเยื้อ ผมอยากให้มันจบเร็วๆ แต่จะจบได้หรือไม่ได้ก็คงจะตอบไม่ได้ สำหรับเรื่องเงินที่ถูกอายัดไว้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอถอนอายัดแต่อย่างใด คงต้องปล่อยให้เป็นไปแบบนั้นไปก่อน เพราะยังไงเราก็ไม่ได้รีบใช้เงิน ส่วนกรณีที่ทางทนายษิทรา โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะมายืนยันให้ รวมทั้งยืนยันเรื่องของนายแผน ด้วย ว่าวันนั้นมีใครมาที่บ้านบ้าง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่กองปราบก็คงจะไปสอบสวนเพิ่มเติม”
ขณะนี้ไม่ได้มีความวิตกกังวลอะไร เพราะว่ายังไงเสียเราก็รู้อยู่แก่ใจของเราเองอยู่แล้วว่าเราทำอะไร เราผิดเราถูกเรารู้อยู่แล้ว สำหรับนายแผน ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร แต่เป็นคนของบริษัทที่มาทำหน้าที่ขับรถให้แก่เจ้าหน้าที่ธนาคารเทานั้น
ส่วนกรณี เจ๊พัช เจ๊บ้าบิ่น และเจ๊เกียว ยังยืนยันเช่นเดิมว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของครูปรีชา อยากจะพูอะไรกับพยานฝั่งโน้นบ้าง ลุงจรูญ ตอบว่า ก็ต้องปล่อยไปตามความต้องการของเขา เพราะเรื่องแบบนี้เราคงไปห้ามใครเขาไม่ได้หรอก ผมไม่เกรงหรอก ถ้าความจริงปรากฏ เพราะผมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าผมผิดหรือผมถูก ซึ่งผมเชื่อว่าฝ่ายโน้นก็รู้อยู่แก่ใจด้วยเหมือนกัน
สำหรับกรณีที่มีคนที่ชื่อเจ๊เซี๊ยม ที่อยู่อำเภอบ่อพลอย ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าจริงๆ แล้วมีความสนิทสนมกับเจ๊เซี๊ยม มาก สนิทกันมานานกว่า 30 ปี เท่ากับอายุของลูกคนโต และรู้จักกันตั้งแต่ยังเป็นตำรวจอยู่ที่อำเภอบ่อพลอย การที่เจ๊เซี๊ยม ออกมาพูดแบบนี้เราก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน ว่าเขาคิดอย่างไร ทั้งๆ ที่เราก็รู้จักกันมาตั้งนาน และเมื่อพอเรามาได้ยินเขาพูดออกมาในลักษณะเช่นนั้นเราก็ยังไม่เข้าใจเขาอยู่ดีว่าเขาทำไมถึงทำอย่างนั้นกับเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วเจ๊เซี๊ยม รู้หรือไม่ว่าเราถูกรางวัลที่ 1 ลุงจรูญ ตอบว่ารู้ เพราะเป็นคนโทร.ไปบอกเขาเอง บอกแค่คนเดียวเท่านั้น แต่หลังจากถูกรางวัลที่ 1 กว่าจะบอกก็นานพอสมควร ครั้งแรกเราตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่บอกใครเลย จะให้ทุกคนค่อยๆ รู้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีญาติเยอะ กลัวญาติเยอะ แต่บอกเขาเป็นคนแรกก็เพราะเป็นคนที่สนิทมานาน แต่ก็คงจะไม่ฝากบอกไปถึงเจ๊เซี๊ยม อีกแล้ว เพราะว่าต่างคนก็ต่างจิตใจกัน ส่วนเจ๊เซี๊ยม จะเข้าไปร่วมขบวนการหรือไม่นั้น ตรงนี้คงไม่ขอตอบดีกว่า เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดแบบไหน
และอาจจะเป็นไปได้ว่า ขณะที่ ครูปรีชา โทรศัพท์ไปคุยกับเจ๊เซี๊ยม ระหว่างคุยครูปรีชา ได้แอบอัดคลิปเสียงเอาไว้ และถึงแม้ว่าจะมีการอัดเสียงหรือไม่อัดเสียงก็ตาม เมื่อเจ๊เซี๊ยม พูดออกมาแบบนั้นก็ทำให้ความรู้สึกของเราไม่ดี แค่เจ๊เซี๊ยม คิดความรู้สึกของเราก็ไม่ดีแล้ว และยังเอาอีก 2 คนมาโยงได้ยังไง เราก็ไม่รู้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน และทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ว่า “แก้ข่าวให้นะครับ นายแผน ไม่ใช่คนของธนาคาร แต่เป็นคนของบริษัทนึงที่มาขับรถให้ จนท.ธนาคาร ข่าวล่าสุด นายแผน อาจจะโดนไล่ออก แต่นายแผน ได้บอกคนใกล้ชิดว่าไม่เป็นไร “นาย” จะรับผิดชอบชีวิตให้ ผมอยากจะบอกด้วยความหวังดีว่า เขาน่ะรับผิดชอบแค่ตอนมีประโยชน์กับเขาเท่านั้นล่ะ พอหมดประโยชน์เขาก็ไม่สนใจแผนแล้วล่ะ ถึงเวลานั้นก็ต้องเผชิญโชคเอง
สรุปว่า ผู้จัดการ รองผู้จัดการ นายแผน และ จนท.อีก 1 คน มาที่บ้านคุณลุงจรูญ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ธนาคารทุกคนที่มาด้วย พร้อมจะให้การเป็นพยานกับกองปราบว่า นายแผน ไม่ได้พูดความจริง ว่าไม่เคยรู้จักคุณลุงจรูญ มาก่อน และที่บอกว่าเห็นข่าวจึงรู้ว่ามีคดีหวยหาย ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะระหว่างนั่งมาในรถได้คุยเรื่องเงินที่คุณลุงถูกอายัด โดยผู้จัดการยังได้บอกว่าสงสารคุณลุง เหมือนโดนกลั่นแกล้ง ดังนั้น นายแผน จึงโกหกทั้งสิ้น