ย้อนรอยคดีดัง หนังเอ็กซ์ “สวิงกิ้ง” ปี 47 จากแม่ค้าขายผลไม้เห็นลูกสาวตัวเองเล่นหนังโป๊ จนต้องร้องกองปราบฯ นำไปสู่ออกหมายจับตั้งแต่พี่เลี้ยง นักแสดงสมทบ ยันช่างภาพ แต่ฝ่ายนายทุนหนีหาย 13 ปีผ่านไปเพิ่งจับ “เจ๊แดง” เมีย “เสี่ยฮะ” ผู้อำนวยการสร้างหนังโป๊ได้ ขณะที่ลูกชายนักแสดงนำ สะพัดศาลถอนหมายจับไปแล้ว
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ตำรวจ สน.บุคคโล สนธิกำลังกับ สน.เพชรเกษม ร่วมกันจับกุมตัว นางนิตยา ทวีชัยไพศาลกุล อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี 2 ฉบับ เมื่อปี 2547 ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อหากำไร หรือเพื่ออนาจาร ได้ที่บ้านเลขที่ 909/280 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังพบเป็นหนึ่งในทีมผู้จัดสร้างภาพยนตร์ลามกอนาจารเรื่อง “สวิงกิ้ง” ที่จำหน่ายในรูปแบบวีซีดีเมื่อปี 2547 หรือเมื่อ 13 ปีก่อน เบื้องต้นนางนิตยาให้การปฏิเสธ และประสานทนายความมาทำเรื่องประกันตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ ออกไปสู้คดี
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2547 แม่ค้าขายผลไม้ย่านวงเวียนใหญ่รายหนึ่งวัย 53 ปี เข้าร้องเรียนกับกองปราบปราม หลังลูกสาววัย 16 ปี หายตัวไปเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2547 โดยแจ้งความไว้ที่ สน.บางยี่เรือ ผ่านไป 4 เดือน กระทั่งวันที่ 26 พ.ย. 2547 มีผู้นำถุงพลาสติกข้างในเป็นวีซีดีมาวางไว้ที่หน้าแผงขายผลไม้ เมื่อนำไปเปิดดูพบว่าเป็นภาพยนตร์ลามกอนาจาร เรื่อง “สวิงกิ้ง” โดยภาพบนหน้าปกหนึ่งในนั้นคือลูกสาวของตน และเมื่อเอาไปให้ญาติช่วยเปิดดูพบว่าเป็นการแสดงร่วมเพศ ระหว่างชาย 2 คน กับหญิง 2 คน ก่อนหน้านั้น ลูกสาวเคยเอารูปถ่ายมาให้ดู บอกว่าเป็นคนซื้อโทรศัพท์มือถือราคาแพงมาให้ แต่เมื่อมารดาบอกว่าให้เอาไปคืนก็หายออกจากบ้านไปเลย
อย่างไรก็ตาม นายอภิเดช หรือ นิด มหึมา อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรูปที่ลูกสาวแม่ค้าขายผลไม้เอามาให้ดู ปฏิเสธว่าเป็นคนชักชวนแสดงภาพยนตร์ลามกอนาจาร เป็นเพียงแค่เพื่อนที่คบหากันเท่านั้น คนละคนกับที่ลูกสาวแม่ค้าขายผลไม้กล่าวอ้าง และเมื่อตรวจสอบตำหนิรูปพรรณอย่างละเอียด พบว่า ไม่ใช่บุคคลที่อยู่ในภาพยนตร์ลามกอนาจาร ขณะเดียวกัน ตัวลูกสาวแม่ค้าขายผลไม้ได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมาทางบ้าน ร้องให้มารดาถอนแจ้งความ และบอกว่าให้เรื่องเงียบก่อนแล้วจะกลับมาเอง
ต่อมาตำรวจได้นำตัวหญิงสาววัย 15 ปี ที่บ้านอยู่ใกล้กันมาสอบสวน หลังไปเป็นนางแบบในร้านอาหารที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ให้การว่าตนและลูกสาวแม่ค้าขายผลไม้ ได้รับการติดต่อจากเอเยนต์คนหนึ่ง ต้องการพรีเซนเตอร์โฆษณา และนัดไปทดสอบหน้ากล้องที่บ้านหลังหนึ่งในซอยโชคชัย 4 กรุงเทพฯ จึงได้พาเพื่อนไป 4 คน แต่ทีมงานกล่าวว่า ตนและลูกสาวแม่ค้าขายผลไม้ผ่านทดสอบ และให้เดินทางไปถ่ายแบบที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง แต่เมื่อไปถึงพบว่าเป็นการถ่ายภาพยนตร์ลามกอนาจาร แสดงการร่วมเพศ
ทีแรกทั้งสองไม่ยอมแสดง แต่ทีมงานเกลี้ยกล่อมว่าจะได้ค่าตัวคนละ 5 หมื่นบาท และภาพยนตร์นี้จะวางขายที่ฮ่องกง ไม่ได้ขายในไทย จึงยินยอมถ่ายทำและแสดงการร่วมเพศกับผู้ชาย 3 คน เริ่มถ่ายทำตั้งแต่บ่ายจนถึงค่ำ ก่อนกลับกรุงเทพฯ ซึ่งตนและลูกสาวแม่ค้าขายผลไม้ได้รับค่าตัวเพียงแค่ 5,000 บาท อ้างว่าทีมงานจะจ่ายให้ที่หลัง แต่ก็ไม่ได้รับ จากนั้น 1 เดือนต่อมา พบว่าภาพยนตร์ที่แสดงจำหน่ายตามแผงวีซีดีเถื่อนทั่วไป ทำให้ตนอับอายมาก จึงหนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และทำอาชีพเดินแบบชุดว่ายน้ำโชว์ลูกค้าร้านอาหาร
จากนั้นตำรวจนำตัวหญิงสาววัย 15 ปี ไปชี้จุดที่บ้านเลขที่ บ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 22/30 ซอยโชคชัย 4 แยก 55 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. พบ นายสินารถ หรือ โน๊ต ทวีชัยไพศาลกุล อายุ 19 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านเป็นคนนำตำรวจตรวจค้น พบห้องกระจกสำหรับใช้ทดสอบหน้ากล้อง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลค่าใช้จ่ายในกองถ่าย และหน้าปกของแผ่นวีซีดีเรตอาร์และเรตเอ็กซ์อีกจำนวนมาก มีนายสุทธิชัย เวชชากร เป็นเจ้าของบ้าน
ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค. ตำรวจพาลูกสาวแม่ค้าขายผลไม้ จากบ้านน้าสาวที่ จ.นครศรีธรรมราช มาสอบปากคำที่กองปราบปราม โดยตำรวจได้นำภาพกล้องวิดีโอบันทึกสถานที่ถ่ายทำ เป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเพชรบุรี ในพื้นที่หมู่ 1 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นคนละแห่งกับที่หญิงสาวที่สอบปากคำก่อนหน้านี้ระบุ สอบปากคำผู้จัดการรีสอร์ต พบว่า เมื่อเดือนกันยายน 2547 มีลูกค้ามาเช่าห้องพัก 2 ห้อง ทั้งคณะมีอยู่ประมาณ 30 คน สังเกตเห็นห้องพักเปิดไฟสว่างผิดปกติ เมื่อเช็กเอาต์จึงตรวจสอบห้องพัก พบถุงยางอนามัยใช้แล้วจำนวนมาก น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น 1 ขวด และพบเตียงชำรุดหักไป 1 หลัง
จากการสอบปากคำลูกสาวแม่ค้าขายผลไม้ ระบุว่า น้าสาวของเพื่อนสมัยที่เรียนชั้นมัธยมศึกษา ชักชวนไปถ่ายภาพนิ่งชุดว่ายน้ำ แต่พบว่าเป็นการถ่ายทำภาพยนตร์ลามกอนาจาร เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงได้ปล่อยไปเลยตามเลย โดยนักแสดงฝ่ายชายในวันนั้น คือ นายแจ็ค รูปพรรณผมยาว สักต้นแขนซ้าย และนายแบงก์ ก่อนจะออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับญาติที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นเวลา 4 เดือน
ต่อมาตำรวจได้ขออนุมัติศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้อง 8 คน มี นายสุทธิศักดิ์ เวชกร หรือ เสี่ยฮะ, นางนิตยา ทวีชัยไพศาลกุล สองผัวเมีย ในฐานะผู้อำนวยการผลิตและผู้กำกับภาพยนตร์, น.ส.ชนาเกษม ทวีชัยไพศาลกุล นางภัคพร หงษ์เสงี่ยม หรือ เก๋ หรือ จีน่า เอเย่นต์ที่ลวงเด็กสาวไปเทสต์หน้ากล้อง นายธนัตถ์ หรือ แจ๊ค ไม่ทราบนามสกุล นายแบงก์ สองดาราชายที่เล่นบทรักกับเด็กสาว และ นายเล็ก กับนายโจ ตากล้องประจำกองถ่ายอีก 2 คน
จากนั้นวันที่ 7 ธ.ค. 2547 ตำรวจจับกุม น.ส.ภัคพร หงษ์เสงี่ยม หรือ เก๋ หรือ จีน่า อายุ 32 ปี อดีตนางแบบนู้ด ซึ่งเป็นผู้ชักชวนหญิงสาวทั้งสองคนเล่นภาพยนตร์ลามกอนาจาร เรื่อง สวิงกิ้ง ได้ที่บ้านพักในตัวเมืองกาฬสินธุ์ เธออ้างว่าไม่ได้หลอกหญิงสาวทั้งสอง แต่รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนกับหลานสาว โดยเด็กสาวทั้ง 2 คนบอกว่าอยากเป็นนางแบบ และต้องการให้พาเข้าวงการ จึงพาไปให้นายเล็กทดสอบหน้ากล้อง ก่อนพาไปถ่ายแบบแต่ไม่ได้บอกว่าที่ไหน
ต่อมา วันที่ 16 ธ.ค. 2547 ตำรวจจับกุม นายวารินทร์ บางดี หรือ แบงก์ อายุ 25 ปี หนึ่งในนักแสดงนำชาย สอบสวนเบื้องต้นสารภาพว่าเป็นนักแสดงภาพยนตร์ลามกอนาจาร เรื่อง สวิงกิ้ง จริง ก่อนหน้านี้ทำอาชีพหมอนวดอยู่ที่สุขุมวิท 11 ก่อนถูกนายโจ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ชักชวนให้ไปถ่ายทำภาพยนตร์ลามกอนาจาร โดยจะได้ค่าจ้างต่อเรื่องเป็นเงิน 5,000 บาท เมื่อไปถึงรีสอร์ตที่แก่งกระจาน พบว่าถ่ายทำไป 2 เรื่อง ทั้งที่ตกลงว่าจะให้ถ่ายเพียงเรื่องเดียว และได้รับค่าตอบแทนเพียง 5,000 บาทเท่านั้น
กระทั่ง วันที่ 25 ธ.ค. 2547 ตำรวจจับกุม นายวิเชียร ถาอิน อายุ 43 ปี หรือ เชียรน่าน หรือ ทากาชิ ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลังแอบไปทำพิธีเปิดกองถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง มนต์รักสาวรำวง ที่บริเวณคลอง 15 ต.บางปลากด อ.องค์รักษ์ จ.นครนายก ซึ่งนายวิเชียรอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ต้องการไปหานายสุทธิศักดิ์ และ นางนิตยา ซึ่งระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ลามกอนาจาร เรื่อง สวิงกิ้ง ได้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเพื่อชมประสิทธิภาพกล้องตัวใหม่เท่านั้น นอกจากนี้ ยังจับกุมตัว นายเล็ง อุโคตร อายุ 34 ปี ช่างไฟได้อีกด้วย
คดีดังกล่าวจับกุมผู้ต้องหาแล้ว 4 คน คือ น.ส.ภัคพร หงษ์เสงี่ยม นางแบบที่หลอกหญิงสาวทั้ง 2 คนไปเทสต์หน้ากล้อง, นายวารินทร์ บางดี หรือ แบงก์ และ นายวิเชียร ถาอินทร์ ช่างภาพ กระทั่งวันที่ 24 พ.ย. 2548 ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก น.ส.ภัคพร 4 ปี นายวารินทร์ และ นายวิเชียร 2 ปี ก่อนทั้ง 3 จะยื่นอุทธรณ์และขอประกันตัว ต่อมายังมีผู้เสียหายรายอื่นแจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม กระทั่งวันที่ 17 ก.พ. 2549 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก น.ส.ภัคพร อีก 4 ปี นายวารินทร์ อีก 3 ปี และนายวิเชียร อีก 2 ปี
ขณะที่ยังเหลือผู้หลบหนีหมายจับอีก 3 คน คือ นายสุทธิศักดิ์ เวชกรณ์ หรือ “เสี่ยฮะ บ้านหม้อ” นายทุนที่อยู่เบื้องหลัง นางนิตยา ทวีชัยไพศาลกุล อายุ 43 ปี ภรรยาของนายสุทธิศักดิ์, น.ส.ชนาเกษม ทวีชัยไพศาลกุล อายุ 21 ปี บุตรสาว นางนิตยา ทำหน้าที่ผู้กำกับหนัง และ นายธนัตถ์ หรือ แจ็ค ทวีชัยไพศาลกุล อายุ 17 ปี บุตรชายนางนิตยา ซึ่งเป็นพระเอกอีกคน ล่าสุด ทราบว่ารายนี้ศาลได้ถอนหมายจับไปแล้ว
สำหรับภาพยนตร์ลามกอนาจาร เรื่อง สวิงกิ้ง ถ่ายทำเมื่อปี 2547 เป็นเรื่องราวของคู่รัก 2 คู่ไปเที่ยวรีสอร์ต เล่นน้ำริมลำธาร ก่อนแยกย้ายกลับห้อง และมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นหญิงสาวได้ตกลงกันว่าจะแลกคู่นอน แล้วก็มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง โดยที่ฝ่ายชายทั้งสองไม่รู้ตัวมาก่อน หลังตกเป็นข่าวครึกโครม พบว่าถูกเผยแพร่และจำหน่ายในตลาดมืดอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จากราคาขายปลีก 80 - 100 บาท ปรับราคาขายกันแผ่นละ 150 - 200 บาท ถึงขั้นขาดตลาด ต้องมีการสั่งจองล่วงหน้าเลยทีเดียว นอกจากนี้ ในหมู่วัยรุ่นชายยังนิยมไรต์ซีดีเพื่อกระจายต่อ ในยุคที่คอมพิวเตอร์ยังไม่มีอุปกรณ์บันทึกข้อมูลขนาดกะทัดรัดอีกด้วย