บรรยากาศประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (29 ส.ค.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 300 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล อดีตรองเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) น้อมนำจากคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สามข้อมาใช้ในชีวิตส่วนตัวและการทำงานในฐานะข้าราชการ ได้แก่ ความพอเพียง ความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ของตัวเอง และความรู้รักสามัคคี โดยเจ้าตัวเผยว่า มีโอกาสได้มากราบพระบรมศพสามครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มามีทั้งความเสียใจที่พระองค์เสด็จสวรรคต แต่อีกด้านหนึ่งเชื่อว่าพระองค์จะได้ทรงพักผ่อนบนสวรรคาลัย เพราะในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทุ่มเทพระวรกายทรงงานหนักต่างๆ มาโดยตลอดเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ตัวเองจึงมองพระองค์เป็นแบบอย่าง รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติให้เห็นเป็นตัวอย่าง ทั้งเรื่องความกตัญญูต่อสมเด็จย่า ความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ โดยเฉพาะก่อนที่ตัวเองจะเกษียณจากหัวโขนที่มีอยู่ ยอมรับว่าค่อนข้างกังวลใจพอสมควร ว่าหลังจากนี้จะอยู่อย่างไร แต่เมื่อมองไปที่ซึ่งพระองค์ถือว่าสูงสุด แต่ทรงดำเนินพระชนม์ชีพอย่างสามัญชนก็ทำให้ยิ่งมั่นใจมากขึ้น
“ในฐานะที่เคยรับราชการในหน่วยงาน ปปง. ยอมรับว่า ตัวเองไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซนต์ แต่ตัวเองก็มีหลักที่ยึดปฏิบัติประจำตัวมีสามประการ ข้อแรกความพอเพียง ถึงแม้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่การงานที่โอเค แต่เราก็ต้องรู้จักความพอเพียง ขณะเดียวกันยังต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต โดยเฉพาะหน่วยงาน ปปง. ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หากไม่มีความซื่อสัตย์แล้วจะทำให้การทำงานปัญหาแน่นอน จริงๆ แล้วไม่เฉพาะแค่หน่วยงานนี้เท่านั้น ตัวเองเชื่อว่าทุกๆ องค์กรจำเป็นต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต อีกข้อที่ขาดไม่ได้คือเรื่องความสามัคคี ด้วยความเชื่อว่าคนเราทำงานต้องมีเพื่อนพ้อง เราไม่สามารถทำงานได้โดยไม่มีพวกพ้อง อันนี้คือความจริง แต่กระนั่นหมายความว่าต้องร่วมกันทำสิ่งดีๆ นี่ก็คือความสามัคคี ดังนั้น ไม่วาจะเป็นเรื่องอะไรก็จะผ่านไปได้ด้วยพลังความสามัคคี อย่างที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงสอนไว้นั่นเอง นอกจากนี้ ในขณะที่ตัวเองทำงานนั้น ก็จะมีหนังสือประจำตัวหนึ่งเล่มชื่อว่า หลักคำสอนของพ่อ ทุกครั้งที่ต้องไปบรรยาย จะหยิบหนังสือเล่มดังกล่าวขึ้นอ่าน แล้วหาหลักคำสอนหรือข้อคิดใดๆ เพื่อไปแบ่งปันให้ผู้ฟัง เผื่อว่าจะได้นำไปปฏิบัติตาม” อดีตข้าราชการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เผย