ผอ.โรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี แถลงยันแพทย์พยาบาล ดูแลเด็กชายวัย 15 เต็มที่แล้ว ตั้งแต่แรกถึงโรงพยาบาล แต่น้องมีอาการเส้นเลือดในทรวงอกโป่งพอง ซึ่งรักษายากมาก เกินความสามารถของโรงพยาบาล จึงประสานเตรียมส่งตัวไปที่อื่น แต่ผู้ป่วยเสียชีวิตลงก่อน ล่าสุด มีการเผยแพร่เอกสารบันทึกขั้นตอนการรักษา สยบข่าวลือปล่อยเด็กรอจนตาย
วันที่ 22 ก.ค. จากกรณีที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊ก โวยว่าน้องชายของตัวเองมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลชะอำ ไปยังโรงพยาบาลพระจอมเกล้า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดเพชรบุรี แต่พยาบาลให้รอเป็นเวลาหลายชั่วโมง จนเกิดอาการช็อก หมดสติ พยาบาลได้ทำการ CPR จนรู้สึกตัว ถึงได้เข้าเอกซเรย์และรู้ว่าเส้นเลือดใหญ่ในกระเพาะอาหารแตก หลังจากนั้น น้องชายเกิดอาการน็อกอีกหนึ่งครั้ง จึงได้ทำการปั๊มหัวใจ แต่พบว่าเสียชีวิตลง เพราะคำว่ารอคำเดียวเท่านั้น
หลังจากนั้น นพ.ประจักษ์ วัฒนะกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี และ นพ.สาธิต รัตนศรีทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าว ว่า ผู้ป่วยถูกส่งตัวมาถึงเวลา 13.30 น. เข้าตรวจที่แผนกอายุรกรรม ต่อมาเวลา 14.04 แพทย์ส่งเอกซเรย์ เวลา 14.30 ได้ฟิล์ม ส่งให้แพทย์วินิจฉัย ระหว่างรอผลเด็กเป็นลมหมอทำการเจาะเลือด ปฐมพยาบาล เวลา 14.45 ส่งมายังห้องฉุกเฉิน ความดันตกแพทย์ทำการตรวจให้น้ำเกลือเจาะเลือดจากนั้น เข้าซีทีสแกนตรวจคลื่นหัวใจ และทำการซีทีแสกนซ้ำ เนื่องจากมีอาการผิดปกติ
เบื้องต้นแพทย์สงสัยเป็นโรคเส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกโป่งพอง ซึ่งเกินระดับความสามารถของโรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯจะรักษาได้ จึงเตรียมส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่น แต่ปรากฏว่าผู้ป่วยชีพจรหยุดเต้น แพทย์ทำการปั๊มหัวใจ ให้เลือด แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ และเสียชีวิตลงในเวลา 16.38 น.
โดยยืนยันว่า แพทย์ พยาบาล ได้ทำเต็มที่แล้ว แต่อาการเส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก เป็นโรคที่มีความรุนแรงอย่างมาก พบได้น้อย จากสถิติมีอัตรา 5 คน จาก 1,000,000 คน และส่วนใหญ่พบในคนวัย 40 - 70 ปี อีกทั้งรักษาได้ยาก ในพื้นที่นี้มีเพียงโรงพยาบาลศิริราชเท่านั้นที่รักษาได้
ล่าสุด ได้มีการเผยแพร่เอกสารบันทึกขั้นตอนการรักษาของแพทย์โรงพยาบาลพระจอมเกล้าโดยชี้ชัดว่าแพทย์ได้ทำการรักษาตามขั้นตอน ตั้งแต่แรกถึงโรงพยาบาลจนกระทั่งเสียชีวิตลง เพื่อสยบข่าวลือ ที่โลกโซเชียลฯกระหน่ำตำหนิแพทย์และพยาบาลอย่างหนัก