คืบหน้าสองสาวโดดกรุ๊ปทัวร์เกาหลี หลังไกด์รับรอง ตม.เกาหลีมาเที่ยวจริง จนต้องขอร้องให้กลับไทยไม่งั้นไกด์ถูกขึ้นบัญชีดำ แต่กลับขอทำงานก่อน 3 เดือน ใช้หนี้พ่อขายวัวและกู้นอกระบบ ชาวเน็ตจวกเห็นแก่ตัว ไม่สงสารไกด์บ้างหรือที่ไปตัดอนาคต อย่าอ้างเป็นหนี้เพราะทำตัวเอง
จากกรณีที่ในโซเชียลมีเดียเผยแพร่เรื่องราวที่นายเอริค (นามสมมติ) ไกด์ทัวร์บริษัทแห่งหนึ่ง ได้รับรองลูกทัวร์ 2 คน คือ น.ส.ยุพิน จันทะแสน อายุ 34 ปี และ น.ส.ชุติมา เรืองภัทรเวช อายุ 32 ปี เพื่อนสนิทซึ่งมากับกรุ๊ปทัวร์ หลังถูกกักตัวด่านตรวจคนเข้าเมืองเกาหลี และขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่าตั้งใจมาเที่ยวจริงๆ เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว แต่พบว่าได้หนีออกจากโรงแรม กระทั่งต้องแจ้งผ่านโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้กลับเมืองไทยก่อนครบกำหนดเข้าเมือง 90 วัน ไม่เช่นนั้นตัวไกด์ที่ให้การรับรองกับ ตม.เกาหลีใต้จะต้องถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศตลอดชีพ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.
รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ยุพิณ ได้ติดต่อกับคนสนิท ระบุว่า ได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ใจจริงอยากกลับบ้าน เพราะเป็นห่วงทางบ้าน และทำให้คนอื่นลำบากใจโดยเฉพาะไกด์ แต่ไม่มีค่าตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน จึงอยากจะขอทำงานสัก 3 เดือน ตามที่วีซ่านักท่องเที่ยวอนุญาต เพื่อที่จะได้เงินสักก้อนกลับบ้านไปด้วย เพราะต้องนำเงินไปใช้หนี้ที่บิดาขายวัว และกู้เงินนอกระบบเป็นค่าเครื่องบินมาให้ โดย น.ส.ยุพิณ ได้ฝากผ่านไปถึง นายเอริค ไกด์ที่พาไปว่า ขอเวลาก่อน 3 เดือน เพื่อทำงานหาเงินกลับบ้าน หากนายเอริคยอมรับตรงนี้ ก็จะทำงานก่อน หากไม่ได้ น.ส.ยุพิณ ได้ติดต่อมาทางรู้จักว่า จะตัดสินอย่างไรต่อไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ และมองว่าเห็นแก่ตัว เฉกเช่นเฟซบุ๊ก “Ar-pae.com” เพจข้อมูลการท่องเที่ยว ระบุว่า “รู้สึกทนมาก นี่แยกไม่ออกจริงๆ เหรอ เรื่องวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าทำงาน” และยังมีความคิดเห็นจากชาวเน็ตจำนวนมาก อาทิ
ความเห็นจาก Lyn's (สงวนนามสกุล) “ไม่เห็นใจค่ะ เห็นแก่ตัวมาก คุณกู้เงินมาใช้ไปแล้ว ตอนนี้เดือดร้อน แต่ดันเอาความเดือดร้อนนี้ไปใส่คนอื่นที่เค้าไม่ได้รู้เรื่องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับคุณ แล้วไม่คิดบ้างหรอว่าเค้าก็ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเหมือนกัน เหมือนพยายามเอาตัวรอดแล้วให้คนอื่นมารับเคราะห์แทนทุเรศค่ะ”
ความเห็นจาก Wilaiporn (สงวนนามสกุล) “แจ้งเบาะเเสให้สถานทูตเกาหลีที่ไทย ตามจับกุมค้นหาตัวคนทำผิดได้ไหมเคสแบบนี้ ไม่ได้เอาหน้ากับทางเกาหลีนะ แต่อยากให้เกาหลีและชาติอื่นเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับคนที่มีพฤติกรรมนี้”
ความเห็นจาก シュンヤ (สงวนนามสกุล) “เห็นแก่ตัวมาก ขายวัว กู้หนี้นอกระบบเพื่อซื้อตั๋ว แล้วมาโกงคนอื่นแบบนี้ มันถูกต้องหรือ อย่างอ้างเพราะเป็นหนี้ เพราะคุณทำตัวเอง และถ้าไกด์ไม่ช่วย คุณก็ไม่ได้หนีแบบนี้หรอก และคนอื่นที่พาสปอร์ตเป็นคนอุดรธานี คนหนองคายคงเข้ายากละ เพราะความเห็นแก่ตัวของคุณ”
ความเห็นจาก Praewpan (สงวนนามสกุล) “นี่คนหรือเป็นกาฝากหรือสัตว์เซลล์เดียว ไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เห็นแก่ตัว ประเทศชาติจะล่มจมเพราะมีคนแบบนี้แหละ ถ้าคุณไม่มีปัญญาหางานทำในไทย ก็ไม่ต้องไปหางานไกลถึงเกาหลีให้คนอื่นต้องเดือดร้อน”
ความเห็นจาก Nateetip (สงวนนามสกุล) “ทำไมชอบสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น คนไทยยิ่งโดน ตม.เกาหลี เพ่งเล็งหนักอยู่แล้ว ข่าวก็ออกโครมๆ ยังกล้าทำอีกเนอะ ทีนี้คนอื่นเค้าจะไปเที่ยวก็ลำบากละ แถมยังสร้างความซวยให้ไกด์เค้าอีก เค้าก็ต้องทำมาหากินเหมือนกัน เห็นแก่ตัวหนักมาก คนอื่นเค้าก็ลำบากเว้ย งานมีให้ทำเยอะแยะ เห็นใจคนอื่นบ้าง”
ความเห็นจาก Patcharapawee (สงวนนามสกุล) “ไม่สงสารพ่อกับแม่บ้างเหรอ ยังมีหน้าขอให้ไกด์เค้ายอมรับข้อตกลงอีก เค้าก็คงโดนแบล็คลิสต์เพราะคุณนั่นแหละ เงินหมดไม่มีเงินซื้อตั๋วกลับ ทางไกด์เค้าก็ได้ยื่นข้อตกลงให้ว่ายินยอมออกค่าตั๋วให้เอง แล้วไหนเงินที่พ่อแม่ต้องขายวัว ให้ไปกับนางไม่ใช่ๆ น้อย เงินไปไหนหมด หรือว่าเอาไปเที่ยวเตร่หมด จนไม่มีเงินกลับ จิตใจทำด้วยอะไร ทำไมเห็นแก่ตัวจัง เราเคยไปเที่ยวเกาหลี จริงๆ ตม. ที่นั่นไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย แต่เพราะคนไทยชอบโดดร่มแฝงตัวไปกับกรุ๊ปทัวร์ หนีไปทำงาน แบบผิดกฎหมาย อีกหน่อยเกาหลีออกวีซ่าสำหรับคนไทยก็คงจะดี จะได้คัดกรองคน”
ด้านเฟซบุ๊ก “เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน” ล็อกอินชื่อดังจากเว็บพันทิป ก็มีผู้แสดงความคิดเห็นประณามการกระทำของสองสาวอย่างดุเดือดเช่นกัน
ความเห็นจาก Sky (สงวนนามสกุล) “ไม่สนใจว่าคนอื่นจะเดือดร้อนเพราะว่าตนเองเลยหรือ คิดแต่ว่าจะหาเงินหางานด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เพราะมีคนแบบคุณ คนไทยที่เขาตั้งใจจะไปเที่ยวจริงๆ ต้องมาซวยมามีปัญหาเพราะคนประเภทคุณทำไว้”
ความเห็นจาก Nonglex (สงวนนามสกุล) “คุณได้ทำลายและทำร้ายคนที่ทำงานสุจริต คุณรู้ไหมกว่าเขาจะได้บัตรไกด์มา เขาต้องอดทนแค่ไหน แต่อาชีพเขาต้องจบ โดนห้ามเข้าประเทศ ขึ้นแบล็คลิสต์ เพราะการกระทำอันไม่ฉลาดของคุณ คิดไหมว่าไกด์ท่านนี้เขาก็มีคนที่ต้องดูแล”
ความเห็นจาก Thanathit (สงวนนามสกุล) “ใครสงสารก็เป็นสิทธิ์ของคุณครับ แต่สำหรับผม ยกเลิกวีซ่า ห้ามเข้าเกาหลี เป็นบทลงโทษที่โคตรเบามาก ต้องให้เสียค่าปรับให้สาสมกับความผิด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่งั้นคนไทยโลกสวยจะทำตามและหาข้ออ้างเพื่อให้ได้ประโยชน์ส่วนตนที่ต้องการ เป็นหนี้แล้วไง คนในสังคมมีอีกมากที่เดือดร้อนกว่าคุณ แต่เขามีความละอายใจที่จะทำผิดมากกว่าคุณอีก ครอบครัวคุณลำบาก ผมสงสาร แต่คุณทำผิดกฎหมาย ผมสมเพช”
ความเห็นจาก Anna (สงวนนามสกุล) “คนอื่นชิบหายไม่เป็นไร ขอให้ตัวเองรอดก็พอ ใจร้ายไปไหมคะ พ่อกับแม่จะภูมิใจไหม ก้อนเงินบนความทุกข์ของผู้อื่นโดยเอาอาชีพของเค้ามาเป็นเดิมพัน”
