เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ผจญภัยแห่งใหม่ ‘คลองสียัด’ ฟื้นคืนชีพคลองร้าง 40 ปี รองอธิการบดี มธ. ชักชวนพายเรือคายัคอนุรักษ์ต้นน้ำบางปะกง ระบุ หากได้ลองพายเรือสักครั้งจะเลิกทิ้งขยะลงคลอง
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. โครงการมหาวิทยาลัยยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสำนักข่าวสิ่งแวดล้อม (GreenNews) และชุมชนท่ากลอย อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จัดกิจกรรม “SIYAT ADVENTURE KAYAKING พายเรือคายัคคลองสียัด” เพื่อเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแนวผจญภัยแห่งใหม่ ณ คลองสียัด อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ท่ามกลางผู้เข้าร่วมกว่า 200 ราย
สำหรับกิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้าด้วยความคึกคัก มีขบวนเรือคายัคกว่า 60 ลำ ล่องไปตลอดลำคลองระยะทาง 12 กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณใต้อ่างเก็บน้ำคลองสียัดไปจนถึงฝายวังวุ้ง โดยผ่าน 6 หมู่บ้านของ ต.ท่าตะเกียบ ท่ามกลางบรรยากาศความร่มรื่นตลอด 2 ฝั่งคลอง
ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ได่ร่วมกับชุมชนในการผลักดันให้คลองสียัดกลายมาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ด้วยการจัดกิจกรรมพายเรือคายัคแนวผจญภัยบนเส้นธรรมชาติคล้ายล่องแก่ง ระยะทาง 12 กิโลเมตร ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการรักษาแม่น้ำและอนุรักษ์ธรรมชาติ
ทั้งนี้ เนื่องจากคลองสียัดนับเป็นต้นน้ำของแม่น้ำบางปะกง โดยเส้นทางน้ำมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ผ่านคลองสียัด ไหลมาเจอกับคลองระบมบริเวณ อ.สนามชัยเขต จากนั้นจึงผ่านไปยังคลองท่าลาด อ.พนมสารคาม ก่อนที่จะไหลลงแม่น้ำบางปะกงบริเวณ อ.บางคล้า
“ในเรื่องของคลองสียัด แม้จะเป็นคลองๆ หนึ่ง แต่ด้วยเป็นคลองที่เป็นต้นน้ำของคลองท่าลาด และแม่น้ำบางปะกงซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย คนไทยเมื่อก่อนเวลาพูดถึงเรื่องแม่น้ำก็จะพบว่าเราตั้งบ้านเรือนตั้งชุมชนตั้งวัดริมแม่น้ำและใช้เป็นเส้นทางสัญจร นั่นคือ ชีวิตของเรา แต่พอมาเรามีความเจริญมากขึ้น มีถนนหนทาง เราก็ละทิ้งแม่น้ำลำคลอง เปลี่ยนจากหน้าบ้านก็กลายเป็นหลังบ้าน ฉะนั้น การที่เรามาใช้คลองสียัดเป็นเส้นทางพายเรือ คือ การพลิกฟื้นให้คนหันกลับมาสนใจแม่น้ำลำคลองอีกครั้งหนึ่ง เพราะมันเป็นชีวิตของคนไทย” ผศ.ปริญญา กล่าว
ผศ.ปริญญา กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของกิจกรรมมาจากการผลักดันเส้นทางพายเรือที่คลองท่าลาดเมื่อเดือน ก.ย. 2559 ซึ่งประสบผลสำเร็จไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากนั้น จึงได้สำรวจต่อขึ้นมาดูยังพื้นที่ต้นน้ำซึ่งเป็นคลองสียัดแล้วบังเอิญพบกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่มีแนวคิดเดียวกัน จึงเกิดความร่วมมือในการผลักดัน ให้กลายเป็นเส้นทางพายเรือคายัคเชิงอนุรักษ์ที่เป็นแนวผจญภัยแห่งเดียวใน จ.ฉะเชิงเทรา และสวยที่สุดเมื่อเทียบกับทุกที่ที่เคยพายมา
ผศ.ปริญญา กล่าวอีกว่า การพายเรือท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นั้น จะเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยปลุกเส้นทางน้ำให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง และส่งเสริมให้เกิดการรักษาแม่น้ำรวมทั้งอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ เพราะเมื่อผู้คนได้เข้ามาพายเรือแล้วสัมผัสและซึมซับกับธรรมชาติ ก็จะไม่ได้มองคลองเป็นเพียงท่อระบายน้ำหลังบ้านอีกต่อไป
“ผมเชื่อว่า ทุกท่าน ใครที่เคยได้ไปพายเรือจะมีประสบการณ์ตรงกัน ใครที่ลองได้มาพายเรือสักครั้งเขาจะไม่ทิ้งขยะอีกต่อไป ถ้าใครก็แล้วแต่ที่ลองมาพายเรือสักครั้ง เขาจะไม่ปล่อยน้ำเสียลงคลองอีกต่อไป แล้วเราจะทนไม่ได้ที่ต้องเห็นใครทิ้งขยะลงคลอง ว่า ง่ายๆ คือ เราใช้กลยุทธ์ของการพายเรือเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในอดีตคนจะรู้จักคลองสียัดว่าเป็นคลองที่ทำให้เกิดทำลายป่าไม้ของเรา เป็นเส้นทางล่องซุง แต่ปัจจุบันบทบาทคลองสียัดได้เปลี่ยนไปเป็นคลองเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติแล้ว” ผศ.ปริญญา กล่าว
ผศ.ปริญญา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยมีเรือคายัค 20 ลำ พร้อมจัดตั้งเป็นชมรมคายัคที่จะไม่ใช่จุดประสงค์เพื่อการพายเรือท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่เป็นการพายเรือเพื่ออนุรักษ์แม่น้ำลำคลอง และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของชุมชน
นายประเสริฐ พรมภิบาล ผู้ใหญ่บ้านท่ากลอย หมู่ 4 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เส่วนตัวเคยมีแนวคิดตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วว่าอยากทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยว เพราะมีธรรมชาติแม่น้ำลำคลองที่พร้อม แต่หลังจากปรึกษากับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าตะเกียบ ก็บอกว่าจะต้องไปศึกษาดูงานจากที่ที่ทำสำเร็จแล้ว จึงยังไม่เคยเกิดขึ้นเสียที
“จากการช่วยกันผลักดันนี้เอง กำลังทำให้เส้นทางนี้กลายเป็นที่พูดถึงในพื้นที่ และมีกระแสตอบรับที่ดีมากจากหลายหมู่บ้าน เนื่องจากมองว่าแหล่งท่องเที่ยวจะช่วยให้ชาวบ้านมีแหล่งรายได้มากขึ้น สามารถนำพืชผลทางการเกษตรออกมาขายได้มากขึ้น โดยขณะนี้ที่ประชุมผู้ใหญ่บ้านก็กำลังมีการเตรียมความพร้อมกันแล้ว” นายประเสริฐ กล่าว