ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) จัดสัมมนาเครือข่ายผู้รักสัตว์ “สวัสดิภาพสัตว์จะเป็นอย่างไรในยุค 4.0” เพื่อร่วมกันแสดงบทบาท ความคิดเห็น ถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ในด้านต่างๆ อันจะเกิดประโยชน์ทำให้เกิดการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ strong>
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ นายกสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ นายสัตวแพทย์ยันต์ สุขวงศ์ พร้อมเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ได้จัดงานสัมมนาเครือข่ายผู้รักสัตว์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 8 ประจำปี 2560 ในหัวข้อ “สวัสดิภาพสัตว์จะเป็นอย่างไรในยุค 4.0” โดยมีองค์กรเครือข่ายผู้รักสัตว์ ทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วทั้งประเทศเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
โดยผู้ที่เข้าร่วมสัมมนา เช่น องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สมาคมสงเคราะห์สัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบังคับการตำรวจน้ำ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มูลนิธิเพื่อนช้าง ด่านกักสัตว์ ปศุสัตว์จังหวัดต่างๆ
นอกจากนั้น ยังมีศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ สวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สหกรณ์เครือข่ายโคเนี้อ ล้านนาด็อก ชมรมปลาทะเลไทย เป็นต้น โดยร่วมประชุมสัมมนาระหว่างวันที่ 3-4 มิถุนายน ณ โรงแรม เคปราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
นายธีระพงศ์ เปิดเผยว่า “สมาคมฯ ดำเนินงานด้านป้องกันการทารุณกรรมและการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์มาโดยตลอด กว่า 23 ปี โดยได้ริเริ่ม และผลักดันกฏหมายเพื่อสวัสดิภาพสัตว์และป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งประกาศเป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2557 อย่างไรก็ตามกว่า 2 ปี ที่ผ่านมา ก็มีบทพิสูจน์ว่ากฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ได้จริง ซึ่งเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ดีของสังคมในระดับหนึ่ง แต่กฎหมายก็เป็นแค่เครื่องมือในการอำนวยความยุติธรรมเท่านั้น ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรม เจตนา และจิตสำนึกของคนที่มุ่งกระทำผิดจนเป็นนิสัยได้”
“เราทุกคนจึงควรมีส่วนร่วมช่วยกันเผยแพร่ความรู้ ปลุกจิตสำนึกแห่งความเมตตา เปลี่ยนค่านิยมในด้านการทารุณกรรมสัตว์ และร่วมปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยกันสอดส่องดูแลให้กฎหมายฉบับนี้มีส่วนช่วยเหลือสัตว์ไม่ให้ถูกทารุณกรรม และทำให้เกิดการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์อย่างยั่งยืน” นายธีระพงศ์ กล่าว
นายธีระพงศ์ กล่าวว่า สมาคมฯ พร้อมที่จะขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนาภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยได้จัดสัมมนาครั้งนี้ขึ้น ซึ่งมีวิทยากรจากทั้งหน่วงงานภาครัฐ และเอกชนมาให้ความรู้ ร่วมกันแสดงบทบาท ความคิดเห็น ถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ในด้านต่างๆ อันจะเกิดประโยชน์ทำให้เกิดการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยไปสู่องค์กรที่เป็นสากล ได้รับการยอมรับทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ
โดย “สวัสดิภาพสัตว์” เป็นเรื่องที่เราได้ยินกันมานานมากแล้ว แต่การขาดความรู้ ความเข้าใจ และสำนึกด้านสวัสดิภาพของบุคคลที่เกี่ยวข้อง นับจากคนเลี้ยงสัตว์ เจ้าของสัตว์ ประชาชน เยาวชน ยังนับเป็นปัญหาที่สำคัญที่พบเห็นในสังคมปัจจุบัน สวัสดิภาพสัตว์ หมายถึง “ความสุขกาย สบายใจของสัตว์” คือ มีสุขภาพร่ายกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ในขณะเดียวกัน ต้องมีสุขภาพร่างกายที่ดี คือ สบายใจ แจ่มใส ไร้ความเครียด ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ไม่สามารถแยกออกจากกัน จำเป็นต้องเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ความไม่สมดุลจะทำให้เสียซึ่งสวัสดิภาพของสัตว์
ด้าน รศ.นสพ.ปานเทพ รัตนากร อุปนายกสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของการจัดงานสัมมนาฯ ได้จัดกิจกรรม แชร์ ไลก์ ได้บุญ “ปล่อยนก บุญ หรือ บาป?” ทางยูทูปของสมาคมฯ เพื่อเป็นการรณรงค์ ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนได้เห็นถึงคุณค่า และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปล่อยนกว่าเป็นบุญ หรือบาป
สำหรับการจับ หรือปล่อยนกก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญ แม้จะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบต่อกันมา แต่วิธีการจับนกเพื่อปล่อยนั้น เป็นการสนับสนุนวงจรธุรกิจค้าชีวิตนก อันจะนำมาสู่การทารุณกรรม และจัดสวัสดิภาพที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งนกบางชนิดก็เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง การล่าหรือครอบครอง และการค้าก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16, 19, 20 ประกอบมาตรา 47 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้น การจับนกด้วยวิธีการทารุณ และดูแลจัดสวัสดิภาพไม่ดีก็อาจจะเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 มาตรา 20 ประกอบมาตรา 31 การทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควรต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการจัดสวัสดิภาพนกไม่เหมาะสมก็เป็นความผิดตามมาตรา 22 ประกอบมาตรา 32 ต้องระวางโทษไม่เกินสี่หมื่นบาทอีกด้วย