xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ใหญ่ช็อก! เด็ก ป.5 สอบผ่าน “กฎหมายมหาชน” มสธ.เก็บ 6 ชุดวิชาเทียบเท่าพี่ปี 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พบ “น้องใบบัว” เด็ก ป.5 ชาวตรัง เรียนโครงการสัมฤทธิบัตร ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ล่าสุด สอบผ่านวิชากฎหมายมหาชน และ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหาร ได้ 6 ชุดวิชา เทียบเท่านักศึกษาชั้นปีที่ 2 แม่ยืนยันลูกไม่กดดัน มีความสุขดีกับการเรียนแบบนี้

เฟซบุ๊ก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้เผยแพร่บัตรผู้เรียนโครงการสัมฤทธิบัตร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ระบุชื่อ ด.ญ.สุพนิดา อภัยวงศ์ นักเรียนชั้น ป.5 ปี 2559 สอบผ่านวิชา กฎหมายมหาชน และ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหาร เป็นชุดวิชาที่ 6 ซึ่งตามหลักเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย ให้เทียบเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 สร้างความฮือฮาแก่ผู้พบเห็นจำนวนมาก เพราะเรียนเก่งกว่าวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ผู้ปกครองบางส่วนสอบถามก็ได้รับคำตอบว่า โครงการสัมฤทธิบัตรสามารถสมัครเรียนได้โดยไม่จำกัดอายุ ก็เกิดความสนใจอยากให้บุตรหลานของตนเองเข้ามาสมัครเรียนโครงการนี้บ้าง



อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว MGR Online พบว่า ด.ญ.สุพนิดา หรือ น้องใบบัว เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนรัตนศึกษา (ชายเขา) อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มารดาคือ น.ส.อนุจรา ขวัญดี ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการกองวิชาการ เทศบาลตำบลคลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.ทุ่งสง ประมาณ 22 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองตรังประมาณ 60 กิโลเมตร โดยสอบที่สนามสอบโรงเรียนสตรีทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สมัครเรียนในโครงการสัมฤทธิบัตรครั้งแรกรุ่นที่ 93 ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2558 สอบผ่านวิชาแรก คือ ทักษะชีวิต เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2559





น.ส.อนุจรา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ด.ญ.สุพนิดา เป็นเด็กคนหนึ่งในชนบท นามสกุลอาจจะเหมือนกับบุคคลสำคัญ เป็นนามสกุลของปู่ที่อาศัยอยู่แถวชายแดนกัมพูชา จะมีความสัมพันธ์เกี่ยวพันธ์กับบุคคลสำคัญหรือเปล่าไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ตอนนี้เธอกลายเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก ขอย้ำว่าเธอมีความสุขดีกับการเรียนแบบนี้ ไม่มีความกดดันไม่ต้องแข่งขัน แค่ทำเท่าที่ตัวเองทำได้ ใช้ชีวิต กิน เรียน เล่น สนุกสนานเหมือนเด็กทั่วไป”

นอกจากนี้ ยังระบุว่า ได้เริ่มต้นให้ ด.ญ.สุพนิดา ลองเรียนปริญญาตรีล่วงหน้า ซึ่งกว่าใบบัวจะจบ ม.6 ก็คงเก็บได้เกือบครบตามหลักสูตร ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องลูกจะไม่มีที่เรียนและสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียว หลายคนอาจจะอยากให้ลูกเรียนบ้าง เด็กแต่ละคนมีความพร้อม มีความสามารถที่แตกต่างกัน ใบบัวถนัดในการอ่านและการจำ แต่สิ่งที่ต้องดูเป็นลำดับแรก ถ้าอยากให้เด็กระดับประถมศึกษาเรียนปริญญาตรี คือ ผู้ปกครองพร้อมหรือไม่ที่จะช่วยเรียนรู้ไปพร้อมกัน เคยสอนการบ้านเขาหรือไม่ สอนแล้วเขาเชื่อหรือเปล่า หรือทะเลาะกันทุกครั้งที่สอน

สำหรับเด็กระดับมัธยมศึกษา ถ้าจะเรียนก็ต้องมองว่าเขาเป็นเด็กที่รักการอ่านหรือไม่ การเรียนในชั้นเรียนที่เรียนหนักอยู่แล้วหรือเปล่า ผู้ปกครองมีวิธีการที่จะกระตุ้นให้เขาอยากเรียนหรือเปล่า เมื่อเรียนแล้วจะสอบผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้ามีการอ่านแล้วจำ ก็จะได้ความรู้จากการอ่าน และจำมาใช้ประโยชน์แน่นอน การเรียนสัมฤทธิบัตรมีเนื้อหาสัมพันธ์กับเนื้อหาในชั้นเรียนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงในชั้นเรียนทุกระดับชั้น

อย่างไรก็ตาม การเรียน มสธ. ของใบบัวนั้น ไม่ใช่ว่าจะสอบผ่าน ครั้งหนึ่งมีการสอบตามความพร้อมของนักศึกษารายบุคคลด้วยคอมพิวเตอร์ (Walk-in Exam) ที่ศูนย์วิทยพัฒนา มสธ. นครศรีธรรมราช เคยสอบตกวิชาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป เมื่อถามแม่ว่าใบบัวสอบไม่ผ่าน แม่ไม่ว่าไม่โกรธใช่ไหม ก็กล่าวว่า ไม่ว่าและไม่โกรธ เพราะแม่ก็เคยสอบตก สมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ต้องอ่านหนังสือเองแล้วก็ไปสอบ เคยสอบไม่ผ่าน 1 วิชา ใช้เวลาอีกหนึ่งปีเต็ม สอบทั้งหมด 5 ครั้งจึงผ่าน

เมื่อใบบัวถามว่า แล้วแม่ไม่เสียดายเงินหรือที่ต้องลงทะเบียนเรียนให้ใหม่ ก็ตอบว่า ไม่เสียดาย เพราะเงินค่าลงทะเบียนเรียน ก็เป็นเงินที่ลูกจ่ายเหลือจากค่าขนมที่แม่ให้ไปโรงเรียน อีกอย่าง ค่าลงทะเบียนเรียนวิชาที่สอบไม่ผ่าน วิชาละ 400 บาท ถ้าส่งลูกไปเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอื่น ต้องไปอยู่ไกลบ้านแม่ก็ต้องส่งเงินให้ลูกเดือนละเกือบ 1 หมื่นบาท แม่คิดว่าให้ลูกเรียนตอนนี้แม่ประหยัดได้มากกว่า ถึงแม้จะมีสอบไม่ผ่านบ้าง







ขณะที่ น้องใบบัว กล่าวว่า ตอนนี้พูดได้เต็มปากว่ากำลังเรียนกฎหมาย ผ่านหมดสองวิชา ตอนนี้เก็บได้ทั้งหมด 6 วิชา 36 หน่วยกิต ย้ำว่ามีความสุขดีกับการเรียนแบบนี้ ไม่มีความกดดัน ไม่มีใครบังคับ มีบ้างบางครั้งที่ติดการ์ตูน จนแม่คอยเตือนให้อ่านหนังสือก่อนค่อยดูการ์ตูน



สำหรับโครงการสัมฤทธิบัตร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นโครงการเรียนปริญญาตรีล่วงหน้า หรือ พรีดีกรี เพื่อสะสมหน่วยกิต เปิดรับผู้สนใจทั่วไป นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป โดยไม่จำกัดเพศ อายุ และวุฒิการศึกษา ใช้ระบบเรียนทางไกลผ่านสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต และหนังสือ โดยการจัดสอบในวันเสาร์และอาทิตย์ ส่วนใหญ่วิชาละ 1,100 บาท โดยค่าหนังสือรวมอยู่ในราคานี้แล้ว ยกเว้นชุดวิชาที่มีสื่อโสตทัศน์ สามารถลงชุดวิชา หรือรายวิชาได้ไม่เกิน 3 ชุดต่อรุ่น เมื่อสอบผ่านจะได้รับใบสัมฤทธิบัตรรับรองความรู้ในชุดวิชา หรือรายวิชานั้นๆ

เมื่อจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เมื่อสมัครเป็นนักศึกษาปริญญาตรีของ มสธ. สามารถนำชุดวิชา หรือรายวิชามาขอโอนเข้าในหลักสูตรปริญญาตรีได้ ปัจจุบันคิดรายวิชาละ 200 บาท แต่ต้องเป็นชุดวิชาที่ปรากฏในโครงสร้างหลักสูตรปัจจุบันที่เข้าศึกษาใหม่ หรือกำลังศึกษา อีกทั้งไม่มีสิทธิได้รับปริญญาเกียรตินิยม จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจบปริญญาตรีเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม โครงการสัมฤทธิบัตร มสธ. แตกต่างจากระบบการเรียนพรีดีกรี (Pre - degree) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ตรงที่คุณสมบัติของผู้สมัคร มหาวิทยาลัยรามคำแหง จะรับนักเรียนที่จบวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) หรือกำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นหลัก โดยลงทะเบียนเป็นรายหน่วยกิต หน่วยกิตละ 50 บาท ไม่รวมค่าบำรุงมหาวิทยาลัย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ แตกต่างจากโครงการสัมฤทธิบัตร มสธ. ที่ไม่จำกัดเพศ อายุและวุฒิการศึกษา และสมัครเรียนด้วยการซื้อชุดวิชา


กำลังโหลดความคิดเห็น