ประชาชนทั้งจากต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (4 ม.ค.) บรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นั้น เจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ในเวลา 04.50 น. ก่อนเปลี่ยนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน เวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูวิเศษไชยศรี
ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนทั้งจากต่างจังหวัด และกรุงเทพฯ พากันสวมใส่ชุดสีดำมากันเป็นหมู่คณะ และครอบครัว เพื่อมาสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
นางลำมวล เจริญวัฒนธาดา อายุ 50 ปี ชนเผ่าลาวโซ่ง (ไททรงดำ) อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ สวมชุดประเพณีไททรงดำ เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เดินทางมาพร้อมลูกพี่ลูกน้อง นางยุพา เม่นห้อย อายุ 52 ปี เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาโดยรถไฟเพียง 2 คน เพราะอยากมากราบสักการะในหลวง ร.๙ มาก ในฐานะของชนเผ่าลาวโซ่ง พระองค์ทรงเป็นที่รักและเคารพยิ่ง ทรงทำเพื่อปวงชนชาวไทย โดยที่ไม่แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา หรือชนเผ่า ทรงช่วยเหลือให้ทุกคนที่อยู่ในผืนแผ่นดินไทยไม่ว่าจะพื้นที่ที่ลำบากขนาดไหนน้ำพระทัยก็ไปถึงเพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีมีสุข
“ปลื้มใจจริงๆ ได้มากราบในวันนี้ เมื่อเข้าไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้เงยหน้ามองไปที่พระบรมโกศและอฐิษฐานขอให้พระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย ดิฉันน้อมนำการดำเนินชีวิตแบบง่ายๆ ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ทำนา ปลูกผัก เลี้ยงปลา หากมีเหลือก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับญาติ และเพื่อนบ้าน แค่นี้ก็จะทำให้ชีวิตเป็นสุข โดยข้าวเปลือกพระราชทานที่ได้รับ จะนำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป” นางลำมวล กล่าว
ด้าน นายวิสันต์ ตั้งวงษ์เจริญ อาจารย์ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว มาถึงท้องสนามหลวงตี 4 กว่า อยากพาลูกๆ มากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.๙ ที่ทรงช่วยเหลือคนไทยทุกเรื่อง หลายคนอาจจะยังไม่รู้แต่พอหลังจากที่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตแล้ว จึงรับรู้ได้ว่าพระองค์ทำทุกอย่างเพื่อพวกเราคนไทย ทั้งคำสอนและโครงการในพระราชดำริฯ แต่ที่ห่วงคือเด็กรุ่นหลังตนจึงได้พาลูกๆ มาซึมซับ
“คำว่าพอเพียง ก่อนนี้ฟังแล้วอาจจะงงๆ ไม่เข้าใจ แต่พระองค์ท่านทำให้เห็นจึงกระจ่างขึ้น เช่น การใช้ยาสีฟันของพระองค์ ซึ่งเป็นรูปธรรมเด็กๆ สามารถจำได้ ลูกๆผมก็เข้าใจแล้วว่าการประหยัด ไม่ใช่ขี้เหนียว แต่เป็นการใช้ของอย่างคุ้มค่า ไม่ใช้แบบฟุ่มเฟือย และพระองค์ทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นเพื่อประชาชนมากกว่าเพื่อพระองค์ท่านเอง ผมจึงสอนลูกว่าคิดถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงคนอื่นด้วย และในฐานะเป็นอาจารย์เห็นว่านักศึกษาก็มีความรักและเข้าใจในคุณค่าของพระองค์ท่าน ส่วนหนึ่งเห็นได้จากเมื่อวันที่ 14 ต.ค. นักศึกษาจำนวนมากเดินทางมาส่งเสด็จฯที่หน้าพระบรมมหาราชวัง โดยที่ไม่ได้นัดหมายด้วยความอาลัย และพวกเขาก็มีความเข้าใจคำสอนต่างๆ ของพระองค์ แต่ห่วงเด็กรุ่นหลัง ที่พวกเราและผู้ปกครองจะต้องส่งต่อสิ่งที่พระองค์ท่านสอนไว้รุ่นต่อรุ่น”
นายวิสันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับตนประทับใจในหลวง ร.9 ที่นำโครงการหลวงเข้าไปให้ความรู้ด้านการเกษตรแก่ชาวเขาเผ่าต่างๆ ทำให้เขาสามารถมีช่องทางทำมาหากินทดแทนการปลูกฝิ่นได้ ถือเป็นยุทธ์ศาสตร์ที่แยบยลมากในการลดการปลูกฝิ่นในประเทศไทย
ด้าน นายปาณชัย ทองอุไร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ประธานนักเรียน โรงเรียนประสาทรัฐประชากิจ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี กล่าวว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับเพื่อน ๆนักเรียน และครู รวม 70 คน เพื่อมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงพระราชทานโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพราะหลังจากที่มีโครงการนี้แล้วก็ทำให้สามารถพลิกฟื้นที่ดินเสื่อมโทรมให้อุดมสมบูรณ์ขึ้น ชาวบ้านสามารถเข้าไปศึกษาและนำความรู้กลับมาปรับปรุงที่ดินของตนเองเพื่อทำการเกษตรได้
“พวกเราก็เคยได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาในโครงการนี้ของพระองค์ ประทับใจมาก จากดินที่แห้งแล้งเสื่อมโทรม และ เขาหัวโล้น พระองค์ทรงนำวิธีการปลูกหญ้าแฝกในที่ดินเข้าไปแก้ปัญหาอย่างได้ผลดี การสร้างแหล่งน้ำ และถ้ามีโอกาสก็จะศึกษาโครงการต่างๆ ของพระองค์เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้นำการทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อให้รู้การใช้จ่ายเงิน จะได้รู้จักประหยัด และอดออม” นายปาณชัย กล่าว