xs
xsm
sm
md
lg

“Smiling Assassin” ริกะ อิชิเกะ สาวน่ารักยอดนักสู้บนสังเวียน MMA

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลงรักศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่มัธยมต้น ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเริ่มจากเล่นไอคิโด คาราเต้ มวยไทย บลาซิลเลี่ยน ยิวยิตสู จนปัจจุบันหันมาเอาดีในกีฬา MMA (mixed martial arts)

ริกะ อิชิเกะ สาวนักมวยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ที่ครองแชมป์เปี้ยนมาแล้วหลายรายการ จนได้รับฉายาอันตรายในวงการว่า “Smiling Assassin” และในปีหน้า เธอจะได้เข้าร่วมแข่งขัน MMA ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ในรายการ One Championship ที่เธอจะได้เป็นหญิงไทยคนแรกที่ได้ไปแข่งในรายการนี้อีกด้วย


• อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราหันมาสนใจในศิลปะการต่อสู้

ริกะเริ่มสนใจกีฬาการต่อสู้มาตั้งแต่ช่วงมัธยมต้นแล้วค่ะ ตอนนั้นน่าจะช่วงอายุ 12-13 ปี คือเริ่มแรกเลย เราอยากออกกำลังกาย เพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยเรื่องการออกกำลังกายได้ และอีกอย่างก็สามารถป้องกันตัวได้ด้วย

จากที่เริ่มแรก แค่อยากออกกำลังกาย แต่พอได้มาสัมผัส กลับรู้สึกว่ามันคือตัวตน มันคือตัวเรา เราเลยคิดว่าเรารักในตรงนี้ ซึ่งตอนนั้นพ่อกับแม่ริกะสนับสนุนมากๆ เลยนะคะ เพราะคิดว่าดีเหมือนกันที่ลูกออกกำลังกาย อย่างน้อยก็ดีกว่าไปวิ่งเล่น ไปติดเกม พอเรามาเล่นกีฬา ที่บ้านก็ยิ่งสนับสนุนค่ะ

ริกะเริมจากเล่นไอคิโด และคาราเต้ เพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยป้องกันตัวเองได้ ก็เล่นได้สักพักใหญ่เหมือนกันนะคะ ไปเล่นที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง ฝึกซ้อมอยู่ประมาณ 3-4 ปี แต่ว่าต้องเลิกเล่นไปเพราะเราต้องเรียนหนักขึ้น ช่วงนั้นเรียนมัธยมปลาย ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย เลยทำให้ต้องหยุดพักไปก่อนค่ะ หยุดพักไปนานมากๆ ก่อนจะกลับมาเล่นอีกครั้งเมื่อ 2 - 3 ปีที่ผ่านมาค่ะ (ยิ้ม)

• เริ่มกลับมาเล่นอีกครั้ง?

ใช่ค่ะ ริกะกลับมาเล่นศิลปะการต่อสู้อีกครั้ง เมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่กลับมาคราวนี้ ริกะมาสนใจในกีฬา MMA (mixed martial arts) เพราะเราได้ดูโทรทัศน์มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้วมีช่องหนึ่ง เขาจะเอารายการ UFC มาฉาย ซึ่ง UFC นั้น เป็นรายการแข่งขัน MMA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้าอย่างในเอเชียก็จะมี one fc (ONE Championship)

MMA (mixed martial arts) ก็คือศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ต้องบอกก่อนว่าสมัยก่อน เขาจะคิดกันว่าศิลปะการต่อสู้แต่ละอันมันจะมาสู้กันได้ไหม เช่น มวยไทยกับยูโด หรือมวยปล้ำกับมวยสากล เขาก็เลยมีกติกากลางขึ้นมา นั่นก็คือ MMA ที่เราสามารถจะเอากีฬาการต่อสู้ชนิดใดก็ได้มาสู้กัน ในกติกาที่แฟร์ที่สุดสำหรับทุกคน แต่สำหรับปัจจุบัน กีฬาที่เรียกว่าใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนิยมกันมากที่สุดในMMA คือจะมีมวยไทย มวยสากล มวยปล้ำและบราซิลเลี่ยน ยิวยิตสู



• เคยแข่งขันอะไรมาบ้าง แล้วเคยได้รับรางวัลไหม

ถ้าในกีฬา MMA (mixed martial arts) ริกะเคยลงแข่งขันแบบสมัครเล่น ซึ่งตอนนั้นเขาจัดงานประกวดเบียร์ขึ้นมา แล้วมีการแข่งขัน MMA อยู่ในงาน เหมือนกับเขาอยากเอนเตอร์เทนคนดู แต่ว่าเราก็ต่อยจริง เจ็บจริงนะคะ ตอนนั้นก็ชกกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นนักมวยไทย ครั้งนั้นก็ชนะไปด้วยการจับเขาหักแขน คือจับทุ่มให้ล้มแล้วจับล็อกหักแขนให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ค่ะ

แต่ก็ลงแข่ง MMA ไม่กี่ครั้งนะคะ ที่ลงบ่อยๆ จะเป็นบราซิลเลี่ยน ยิวยิตสู คือกีฬาประเภทนี้จะคล้ายๆ กับยูโดค่ะแต่มันจะเน้นประมาณว่าพอทุ่มลงไปแล้วจะเน้นล็อคปล้ำอยู่กับพื้น กีฬายิวยิตสู ริกะก็เคยเป็นแชมป์เหรียญทองรายการ Copa De Bangkok ซึ่งเป็นรายการแข่งขันบราซิลเลี่ยน ยิวยิตสูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยค่ะ แล้วก็มีอีกรายการใหญ่ก็ได้เหรียญทองเหมือนกันค่ะ (ยิ้ม)

• การฝึกฝนล่ะคะต้องทำยังไง ตอนนี้อยู่ในขั้นไหนแล้วคะ

หนึ่งสัปดาห์ เราจะซ้อม 6 วันค่ะ คือจะแบ่งเป็นลงนวมหรือว่าสแปริ่งสัก 2 วัน อีก 4 วันเราก็จะแบ่งเป็นมวยไทยหรือมวยสากล 2 วัน แล้วก็เป็นบราซิลเลี่ยนยิวยิตสู 2 วัน ประมาณนี้ค่ะ ประมาณว่ายืนต่อสู้ 2 วัน เอาทุกอย่างที่เราเรียนมาทั้งอาทิตย์ใช้อีก 2 วัน แล้วอีก 2 วันก็จะเป็นวันที่เป็นมวยปล้ำ ล็อกอะไรประมาณนี้ค่ะ ทุกวันนี้ก็จะซ้อม 6 วันเต็ม ถ้าไม่มีธุระอะไรค่ะ

สำหรับ MMA ริกะยังไม่ได้เป็นมืออาชีพนะคะ แต่ก็น่าจะถึงระดับมืออาชีพได้แล้วค่ะ เหมือนกับว่าเราก็สามารถที่จะไปสู้กับชาวต่างชาติได้แล้ว ก็กำลังจะเดบิวต์มืออาชีพเร็วๆ นี้ค่ะ



• เห็นว่านอกจากจะเล่นเองแล้ว ยังรับสอนศิลปะการต่อสู้ด้วยใช่ไหมคะ

ตอนนี้ริกะเป็นนักกีฬาที่ Bangkok Fight Lap ด้วย แล้วก็เป็นผู้ช่วยสอนด้วยค่ะส่วนใหญ่จะช่วยสอนคราสมวยสากลและก็สอนคราส MMA ค่ะ อีกอย่าง ริกะจะเป็นฟรีแลนซ์ รับสอนศิลปะการต่อสู้และการออกกำลังกายแบบส่วนตัวอยู่แล้วด้วยค่ะ ก็มีสอนที่ยิมบ้าง หรือถ้าลูกค้าอยากจะให้ไปสอนที่ไหนก็สามารถไปได้ค่ะ ก็มีผู้หญิงสมัครมาเรียนศิลปะการต่อสู้พื้นฐานเรื่อยๆ นะคะ เพราะว่าสมัยนี้มีข่าวผู้หญิงโดนทำร้าย โดนข่มขืนค่อนข้างเยอะ เขาก็เลยตื่นตัวกันมากขึ้น เขาเลยอยากจะเรียนอะไรที่มันช่วยป้องกันตัวเองได้ค่ะ แต่สำหรับกีฬา MMA ในประเทศไทย 95 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ชายที่เรียน คือผู้หญิงยังเรียนน้อยมากๆ ค่ะ เพราะนักกีฬาที่เป็นผู้หญิงจริงๆ จะนับได้น้อยมากเลยค่ะ ไม่ถึง 10 คน

• จะว่าไป กีฬาการต่อสู้ดูเหมือนจะรุนแรงเกินกว่าที่ผู้หญิงจะสนใจ เท่าที่คลุกคลีกับศิลปะป้องกันตัวมาคิดว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง แล้วพื้นฐานที่ควรรู้ในการทำตัวเองให้รอดปลอดภัยมีอะไรบ้างคะ

ริกะว่าในปัจจุบันมันเหมาะกับผู้หญิงมากนะคะ อย่างผู้หญิงที่เล่นมวยไทยอาจคิดว่าเราตีเข่า ฟันศอกได้ มันสามารถเอาไปสู้กับผู้ชายได้แล้ว แต่เอาจริงๆ เราก็ยังคิดว่ามันยังยากอยู่นะคะ เพราะผู้หญิง ด้วยสรีระทางร่างกายอ่อนแอกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ดังนั้นเราต้องหาอะไรที่มันจะช่วยเรารอดปลอดภัยโดยที่เราไม่ต้องใช้แรงมาก ซึ่งในกีฬา MMA เราจะสามารถเรียนรู้เอาทุกอย่างมาเพื่อเอาตัวรอดได้เพราะว่า MMA มันคือกีฬาที่เหมือนกับการจำลองการต่อสู้จริงมากที่สุดค่ะ

อย่างแรกสุดเลย คือการที่ไม่เอาตัวเองไปอยู่สถานที่เสี่ยงอันตราย ถ้าเกิดจวนตัวแล้วจริงๆ คำพูดสำคัญที่สุดก็คือการขอร้อง การพูดหว่านล้อม หรือตะโกนให้คนมาช่วย ซึ่งถ้าสมมติเราจะไปด่าเขา หรือต่อสู้เลยทันที ผู้ร้ายก็คงจะเอามีดแทงเราเลย แต่ว่าถ้าเราใช้การเป็นผู้หญิงให้เป็นประโยชน์ก็คือการพูดจาดีๆ พยายามหว่านล้อมให้เขารู้สึกว่าเราไม่มีพิษมีภัยมันก็ย่อมดีกว่าค่ะ แต่สุดท้ายถ้าเกิดไม่ได้จริงๆ เราต้องดูว่าบริเวณนั้นมีคนอาศัยอยู่ไหม การตะโกนร้องจะเป็นอันดับแรก แต่ถ้าจวนตัวจริงๆ มันก็ต้องฝึกแล้วนะคะ คือในส่วนตัวที่ริกะสอน ริกะก็จะฝึกวิธีการไปอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย การล็อกผู้ชายโดยที่ไม่ต้องใช้แรง ใช้กำลังเยอะอะไรประมาณนี้ค่ะ ซึ่งมันจำเป็นต้องรู้มากๆ นะคะในปัจจุบัน

ริกะจะไม่ได้สอนให้แบบว่าจะต้องตีศอก ฟันเข่า แทงจุดสำคัญอย่างเดียว แต่เราจะเน้นในเรื่องของการควบคุมสถานการณ์ให้เราปลอดภัยได้มากที่สุดทั้งจากการหว่านล้อมหรือว่าถ้าถึงเหตุการณ์จวนตัวแล้วเราจะทำยังไงให้เราบาดเจ็บได้น้อยที่สุดค่ะ



• มองว่าศิลปะการต่อสู้สามารถเอาตัวรอดในสังคมปัจจุบันได้จริงๆ ใช่ไหม

คือจะบอกว่าได้ 100 เปอร์เซ็นต์ไหม มันคงไม่ใช่ แต่การเรียนศิลปะการต่อสู้ ถ้าเราเรียนมาได้สักระยะหนึ่ง เราจะรู้ไปเองว่าเราควรจะอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงไหม เราจะทำยังไงให้เราเอาตัวรอดปลอดภัยได้ ซึ่งเรามองว่า MMA ก็เป็นทางเลือกที่ดีทางเลือกหนึ่งเลยค่ะ

เราคาดการณ์ไม่ได้หรอกค่ะว่าเราจะเสี่ยงหรือไม่เสี่ยง ขนาดว่าผู้หญิงคนเดียวนอนอยู่ในหอพักก็ยังมีโอกาสที่โจรขโมยปีนเข้ามา คือเราบอกไม่ได้เลยว่าตอนไหนเราจะเสี่ยงไม่เสี่ยง แต่ว่าเราเลือกได้ที่จะไม่ไปอยู่ในที่เสี่ยง แต่ถ้าเขามาอยู่ในที่ของเรา เราก็ควรจะมีพื้นฐานเอาไว้ดีกว่า เขาบอกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่ต่อสู้กลับหรือพยามขัดขืนเวลาที่เราโดนคนเข้ามาหวังจะข่มขืน จะรู้สึกผิดและรู้สึกโทษตัวเองน้อยกว่าการที่เรายอมให้คนร้ายมาข่มขืนเรา หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นไปแล้ว

ส่วนตัวริกะ นอกจากซ้อมและแข่งขันก็ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ที่เอาศิลปะการต่อสู้ไปใช้จริงๆ นะคะ เพราะเนื่องจากว่าการที่เราเรียนศิลปะการต่อสู้มา มันทำให้เราไม่ไปอยู่ในที่สุ่มเสี่ยงอันตราย มีภัย และอีกอย่าง มันจะทำให้เราใจเย็นมากขึ้นด้วยนะคะ เพราะถ้าเราไปมีเรื่องข้างนอก กับเรามีเรื่องบนเวทีสังเวียนมวยมันต่างกันนะคะ เราไปมีเรื่องข้างถนน มันมีแต่เสียกับเสีย มันไม่คุ้ม แถมเจ็บตัวฟรี แต่ถ้าเกิดเราเอาวิชาที่เราใช้ไปใช้บนเวทีให้คนอื่นได้เห็น ให้คนอื่นได้รู้ถึงความสามารถของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง มันคุ้มกว่า มันได้ทั้งเงิน และมีประโยชน์มากกว่าค่ะ

ยังไงริกะก็ยังมองว่าศิลปะการต่อสู้รู้ไว้ยังไงก็มีประโยชน์ อย่างน้อยก็เจ็บไม่เยอะ เพราะถ้าถึงสถานการณ์แล้ว แน่นอนว่าโอกาสที่เราจะเจ็บตัวมีสูงมากๆ แต่ว่าบางทีเราอาจจะทำให้จากการที่จะต้องสาหัสเป็นเจ็บเล็กน้อย และทำให้เราหลุดมาจากตรงนั้นได้ก็เป็นเรื่องที่ดีกว่า (ยิ้ม)



• ดูเหมือนว่าจะเป็นกีฬาที่เจ็บตัวไม่น้อย ที่บ้านสนับสนุนหรือเห็นด้วยไหมคะที่ริกะจะจริงจังกับตรงนี้

จริงๆ ริกะจบทางด้านสถาบันการบินพลเรือนมา ก็มีหลายคนถามมากเลยว่าทำไมทำไมไม่ทำงานการบิน ไม่ไปเป็นแอร์โฮสเตส แต่เราชอบในด้านกีฬามากกว่า และคิดว่างานด้านการบิน งานด้านบริการอาจจะไม่เหมาะสำหรับเรา ก็เลยเลือกที่จะทำตรงนี้ ถามว่าตอนนั้นการบินเป็นความฝันไหม มันก็ใช่นะคะ แต่ว่าพอเรียนมาแล้ว เริ่มได้ไปทำงานทางด้านการบิน เราเลยคิดว่ามันอาจจะไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ แล้วยิ่งเรารักสุขภาพด้วย บางทีการเข้ากะ เราอาจจะไม่มีเวลามาออกกำลังกายเท่าไหร่

ทางบ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรที่เราไม่ไปทางสายการบิน แต่ก็อาจจะมีหวั่นๆ กลัวๆ บ้าง นิดหน่อย ถ้าต้องไปชกจริง เขาก็จะกลัวว่าเดี๋ยวหน้าเสียโฉมนะ ซึ่งเอาจริงๆ เคยชกแล้วเจ็บตัวยังไม่เคย แต่จะเจ็บตอนซ้อมมากว่า ก็มีตัวเขียว ตัวช้ำ นิ้วซ้น ตาเขียว หน้าปูดบวม เป็นมาหมดแล้วค่ะ ก็เป็นเรื่องปกติของกีฬาการต่อสู้ (หัวเราะ)

• ถ้ามีใครสนใจอยากเรียนศิลปะการป้องกันตัวแบบริกะบ้างจะเริ่มต้นอย่างไร ต้องมีทักษะอะไรบ้างไหมคะ

หลายคนอาจจะมองว่ากีฬาประเภทนี้ดูป่าเถื่อน พอล้มแล้วมีซ้ำกัน เลือดออกอะไรเยอะแยะ ดูภาพลักษณ์แล้วดูน่ากลัว แต่มันปลอดภัยนะคะ เพราะถ้าเทียบแล้ว มันปลอดภัยกว่ามวยไทย มวยสากลอีก เพราะว่าอย่างมวยไทยมวยสากลสมมติว่าโดนต่อยเปรี้ยงแล้วล้มลงไป กรรมการจะนับ 1 2 3 แล้วให้ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ ซึ่งแบบนั้นมันจะทำให้เกิดการบาดเจ็บสะสม สมองกระทบกระเทือนได้มากกว่า แต่สำหรับ MMA คือถ้าเราโดนต่อยเปรี้ยงลงไปแล้ว และดูเหมือนไม่ไหวแล้ว กรรมการก็จะยุติเลย ไม่มีการนับ และนอกจากนั้น สมมุติว่าเราแพ้ด้วยการถูกจับล็อก โดนหักแขน โดนล็อกคอ ถ้าเราขอยอมแพ้เลย เราก็จะไม่บาดเจ็บเยอะ ก็จะสามารถฟื้นฟูได้เร็วกว่า

บางคนจะถามว่าถ้าจะมาเล่น MMA จะต้องมีพื้นฐานมาก่อนไหม เตะต่อยก็ไม่เป็น ทุ่มก็ไม่เป็น จริงๆ มันไม่จำเป็นเลยนะคะ เพราะจากที่เราสอนส่วนใหญ่มันก็จะต้องเริ่มด้วยพื้นฐานก่อน รู้จักการล้ม การตกเบาะ ถ้าเราถูกผลักลงไปแล้ว เราจะล้มยังไงให้ถูกต้อง การลุกขึ้นยืนยังไงให้ปลอดภัย เพราะว่าถ้าเกิดเราทะเล่อทะล่าลุกขึ้นยืน เราอาจจะโดนทำร้ายกว่าเดิมก็ได้ เราต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐานไปจนกระทั่งการเตะต่อย การล็อก ก็จะค่อยๆ ปูทางไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าสนใจแค่อยากออกกำลังกาย มันก็จะมีคอร์สพิเศษแยกออกมาให้อยู่แล้วค่ะ มันจะไม่ถึงกับว่าเราจะต้องไปสู้กับใครได้ แต่จะเน้นใช้ร่างกายออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่มากกว่าอะไรทำนองนี้ค่ะ (ยิ้ม)



• มีเป้าหมายในอนาคตอย่างไรต่อไปบ้าง จะมีการแข่งขันที่ไหนอีกบ้างไหมคะ

เป้าหมายพื้นฐานเลยคือริกะอยากจะเผยแพร่กีฬา MMA เราอยากจะให้รู้ว่าจริงๆ แล้วคนไทยก็สามารถที่จะสู้ชาวต่างชาติได้ แล้วผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็มีความสามารถที่จะเผยแพร่กีฬาชนิดนี้ที่ทุกคนมองว่าเป็นกีฬาต่อสู้ที่ป่าเถื่อน เล่นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น แต่ตรงนี้เราจะทำให้เห็นว่าผู้หญิงก็สามารถทำได้เหมือนกัน อยากให้ผู้หญิงเข้ามาเล่นกันเยอะๆ ส่วนตัวริกะถ้ามีโอกาสก็อยากจะเปิดยิมของตัวเองเหมือนกันนะคะ เพราะเราอยากสอนให้ผู้หญิงออกกำลังกายแล้วก็ป้องกันตัวไปด้วย ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เรารักและสิ่งที่เราเลือกแล้วก็คิดว่าจะทำไปเรื่อยๆ

ส่วนการแข่งขันจริงๆ ตามกำหนดการริกะจะมีแข่งช่วงเดือนธันวาคมนี้ค่ะ จะเป็นการเดบิวต์ที่แข่งในระดับอาชีพของเรา ในรายการ One Championship ที่เป็นรายการแข่งขัน MMA ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียจะกลับมาจัดที่กรุงเทพณ ซึ่งริกะจะไปลงแข่งขันในนามสังกัด Bangkok Fight Lab ค่ะ แต่ว่าที่รู้กันอยู่ว่าเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ที่คนไทยเศร้าโศกเสียใจไปเมื่อเดือนตุลาคม ตรงนี้ก็เลยจะต้องเลื่อนออกไปก่อน น่าจะเป็นช่วงมีนาคมปีหน้าค่ะ

ก็อยากจะให้ติดตามกันค่ะ เพราะตรงนี้น่าจะเรียกได้ว่าเราเป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ได้ร่วมรายการแข่งขันรายการใหญ่ขนาดนี้ค่ะ แต่จริงๆ ในไทยก็มีจัดการแข่งขันอยู่บ้างนะคะ ชื่อรายการ FULL METAL DOJO เขาจะมีจัดแข่งประมาณสองเดือนครั้งอะไรแบบนี้ค่ะ ก็จะมีนักกีฬาที่เป็นผู้หญิงอยู่บ้างค่ะ แต่ก็ยังน้อยมาก แต่ถ้าเป็นระดับโลกเลยก็น่าจะยังไม่มี ซึ่งริกะก็จะไปเป็นคนแรกๆ ค่ะ (ยิ้ม)







เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร

กำลังโหลดความคิดเห็น