ยื่นขอปล่อยตัวทุกครั้ง วืดทุกครั้ง ดูเงื่อนไข “จตุพร พรหมพันธุ์” ที่ทนายความยื่นต่อศาล ระบุ โทษจำคุกเพราะฝ่าฝืนคำสั่งศาลนานพอสมควรแล้ว นำหนังสือ “บิ๊กจิ๋ว” การันตีก็มี ระบุตั้งใจจะเข้ากราบพระบรมศพ “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” และล่าสุด ทุกข์ทรมาน คิดถึงลูกเมีย
ความพยายามในการยื่นขอปล่อยตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลังศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวในคดีก่อการร้าย เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา จากการดำเนินรายการผ่านสถานีโทรทัศน์พีซทีวี เว็บไซต์ยูทูป และสื่อสาธารณะอื่น โดยพูดเสียดสีการทำงานของรัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บิดเบือนการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ และ รองนายกฯ พูดโจมตีบุคคลต่างๆ ในลักษณะดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทผู้อื่น พูดยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมือง
ที่ผ่านมา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพร มีความพยายามในการยื่นขอประกันตัว แต่ผลที่สุด ศาลก็ยกคำร้องทุกครั้ง มาดูเหตุผลที่ยื่นขอประกันตัวต่อศาลในแต่ละครั้งว่ามีเหตุผลอย่างไร
- ครั้งที่ 1 วันที่ 25 ต.ค. 2559 - จำเลยระบุว่า ที่ผ่านมา ศาลเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว 15 วันแล้ว เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม จำเลยยอมรับถึงผลที่เกิดขึ้น มีการรับโทษไปแล้ว และหากได้รับการปล่อยชั่วคราว จำเลยจะระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก การที่ศาลจะรับฟังเรื่องการดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาท ที่มีอัตราโทษน้อยกว่าคดีที่จำเลยโดนดำเนินคดีอยู่นั้น จะเปิดช่องว่างในการกำหนดเงื่อนไขของศาลเอามาเป็นเหตุให้จำเลยต้องรับโทษทางอาญาโดยการถอนประกัน ซึ่งไม่น่าจะเหมาะ เพราะคดีก่อการร้ายต้องใช้เวลาพิจารณาคดียาวนาน ซึ่งบุคคลที่อ้างว่าได้รับความเสียหายก็ใช้สิทธิได้อยู่แล้ว และเป็นสิทธิที่จะใช้ฟ้องคดีดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาท ก็มีโทษเบากว่าคดีที่จำเลยโดนดำเนินคดีอยู่ขณะนี้
ศาลยกคำร้อง
- ครั้งที่ 2 วันที่ 3 พ.ย. 2559 - จำเลยนำเอกสารประกอบ เป็นหนังสือรับรองจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตนายทหาร และเคยเป็นผู้บังคับบัญชาของนายจตุพร แนบมาด้วย ระบุว่า จำเลยมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีอุดมการณ์ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่เป็นผู้มีความประพฤติชั่วร้ายแรง ไม่มีนิสัยในทางนักเลงอันธพาล มีความเคารพนอบน้อมต่อกระบวนการยุติธรรมมาตลอด ไม่เคยหลบหนีคดีอาญาใดๆ และตนเองจะสอดส่องดูแลไม่ให้กระทำการใดอันจะเป็นการผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลอย่างเคร่งครัด จำเลยจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัส เรื่องความรู้รักสามัคคีของคนในชาติมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และปฏิบัติภารกิจทาง การเมืองอย่างเคร่งครัด และยินดีให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน สร้างความสามัคคีปรองดอง สลายความขัดแย้งในสังคมให้สำเร็จลุล่วง
ศาลยกคำร้อง
- ครั้งที่ 3 วันที่ 17 พ.ย. 2559 - จำเลยเห็นว่า นับแต่ศาลเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวานานกว่า 1 เดือน เป็นเวลานานพอสมควรกับการลงโทษจำเลยที่พูดจาอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งศาลแล้ว เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลงโทษ นางสุดสงวน สุธีสร คดีละเมิดอำนาจกรณีชูป้ายวางพวงหรีดที่ศาลแพ่ง 1 เดือน เห็นว่า มีลักษณะเดียวกัน โทษคุมขังน่าจะพอสมควรแก่การกระทำที่ผิดพลาดจากการฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาล อีกทั้งสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไป พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต จำเลยมีความตั้งมั่นที่จะขอโอกาสในวาระเช่นนี้ไปแสดงความอาลัยและเข้ากราบพระบรมศพ และขอให้คำมั่นต่อศาลว่าจะไม่กระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการดูหมิ่นผู้อื่น หรือยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และรู้สำนึกในการกระทำฝ่าฝืนคำสั่งศาลแล้ว จึงขอโอกาสในการได้รับการปล่อยชั่วคราวอีกสักครั้งหนึ่งด้วย
ศาลยกคำร้อง
- ครั้งที่ 4 วันที่ 30 พ.ย. 2559 - จำเลยระบุว่า ถูกคุมขังมานานกว่า 1 เดือนเศษแล้ว ได้รับความทุกข์ทรมานและคิดถึงบุตร - ภรรยา เป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาจำเลยรู้สึกเข็ดหลาบ และสำนึกผิดที่ได้กระทำผิดเงื่อนไขของศาล หากจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวออกไป ขอสาบานด้วยความสัตย์จริงว่าจะไม่กระทำการใดๆ ที่จะผิดเงื่อนไขของศาลอีก และจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโดยเคร่งครัด อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัชกาล ประกอบกับจำเลยอยากจะเข้าไปร่วมถวายบังคมพระบรมศพ จึงขอความกรุณาจากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยอีก
ศาลยกคำร้อง
สำหรับคดีก่อการร้าย ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 18 มกราคม 2560