xs
xsm
sm
md
lg

TOP7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน : ฟ้องนะจ๊ะ “ธัมมชโย” - เตือนภัยหื่นสไลด์หนอน - ตำรวจดีเด่นปล้นรถขนเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทุกวันศุกร์ ทาง www.manager.co.th และเฟซบุ๊ก MGROnline Live

อันดับ 1 : ถวายสัตย์ปฏิญาณ แสดงความจงรักภักดีทั่วไทย

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการภายในทำเนียบรัฐบาล ร่วมจัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งได้จัดกิจกรรมทุกจังหวัดทั่วประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดีต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความว่า



“ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอนำประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า และทุกภาคส่วน ซึ่งชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้ ถวายสัตย์ปฏิญาณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแสดงความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ปกเกล้าปกกระหม่อมให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรชาวไทย อีกทั้งทรงบันดาลให้เกิดการพัฒนาประเทศในทุกด้านตลอดมาเป็นเวลาถึง 70 ปี แม้บัดนี้จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ก็ยังทรงสถิตอยู่ในใจของปวงประชาชาวไทยด้วยความวิปโยคอาลัยอย่างไม่มีวันลืมเลือน ณ วาระนี้ ซึ่งปกติเคยเปล่งสัจวาจาถวายพระพรชัยมงคลเสมอมา จึงขอตั้งสัตยาธิษฐานถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเครื่องบูชาพระมหากรุณาธิคุณแทนด้วยข้อความดังต่อไปนี้

ข้าพระพุทธเจ้าจะซื่อตรง จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติตามหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งจะร่วมกันปฏิรูปประเทศ และสนับสนุนให้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปกครองประเทศด้วยหลักนิติธรรม และธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนชาวไทย

ข้าพระพุทธเจ้าจะเป็นคนดี มีคุณธรรม ร่วมกันนำพาประเทศชาติไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบสันติสุข จะรู้รักสามัคคีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนตลอดไป ข้าพระพุทธเจ้าขอปวารณาตัวว่า จะพัฒนาตนเอง เพิ่มการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นพลังที่ยั่งยืนในการพัฒนาประเทศต่อไป ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสัจวาจา ว่า จะประพฤติปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท และศาสตร์ของพระราชาผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ และเชิญพระราชคุณธรรมจรรยามาเป็นแนวทางการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ เพื่อสืบสานพระบรมราชปณิธาน เพื่อความสุข ความเจริญของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของราชอาณาจักรไทยสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”

อันดับ 2 : อัยการสั่งฟ้อง “ธัมมชโย” ฟอกเงิน กับรับของโจร - ลูกศิษย์ขู่ “อย่าทำให้ตกใจ”

หลังจาก พระเทพญาณมหามุณี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีร่วมกับพวก กรณีที่ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยักยอกเงินสหกรณ์นำไปให้วัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 23 พ.ย. คณะทำงานอัยการมีความเห็นควรสั่งฟ้องพระธัมมชโย ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร และแจ้งให้ดีเอสไอดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา มาส่งให้อัยการเพื่อดำเนินการต่อไปภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันที่กระทำผิด คือ เดือนมกราคม 2552 ทำให้ในขณะนี้พระธัมมชโย มีหมายจับรวม 3 คดี นอกจากคดีบุกรุกป่าสงวนที่ อ.ภูเรือ จ.เลย และ อ.ปากช่อง จ.นครรราชสีมา

ด้านความเคลื่อนไหวภายในวัดพระธรรมกาย ได้มีการตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย แถลงข่าว ยืนยันว่า พระธัมมชโยอาพาธ ยังอยู่ในวัด ไม่เคยออกปฏิบัติศาสนกิจ ส่วนข่าวที่ว่าดีเอสไอจะเข้ามาจับกุมตัวนั้น ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ถ้ากรมสอบสวนคดีพิเศษประสานมา จะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา ส่วนจะมีการใช้กำแพงมนุษย์ขัดขวางนั้น ขออย่าใช้คำว่ากำแพงมนุษย์ เพราะมีแต่ผู้มาปฏิบัติธรรม เรื่องที่จะขัดขวางไม่มี เว้นแต่จะมีคนมาเร้าให้เกิดความวุ่นวายขึ้นหรือไม่ อย่างคราวก่อนทำยังกับไม่ใช่วัด มีการเตรียมกำลังเป็นพันคน พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ จะไม่ให้ลูกศิษย์วัดตกใจหรือ คนเราถ้าตกใจย่อมทำอะไรก็ได้ อย่าทำให้ลูกศิษย์วัดตกใจก็แล้วกัน

อันดับ 3 : ธรรมศาสตร์อันตราย! ไอ้หื่นลวงถามทาง ก่อนทำอนาจารช่วยตัวเองในรถ

เมื่อวันที่ 20 พ.ย. เฟซบุ๊กนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต รายหนึ่ง ระบุว่า ให้ระวังสำหรับนักศึกษาหญิงที่เดินบนถนนเชียงรากคนเดียว จะมีมิจฉาชีพทำทีมาถามทางไปหอพัก พอสบโอกาสจะลงมือฉุดนักศึกษาหญิงไปข่มขืน โดยข้อเท็จจริงพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 23.00 น. ขณะที่นักศึกษารายหนึ่ง ขณะที่ผู้เสียหายเดินกลับหอพักบริเวณถนนเชียงราก - บางขันธ์ ได้มีคนร้ายทำทีมาถามทางไปร้านอาหารสมูทบาร์ ก่อนชวนขึ้นรถไปด้วย หลังจากนั้น คนร้ายได้กระทำการอนาจาร และขอมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่ยินยอม จึงสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง และพามาส่งที่หอพัก ก่อนเข้าแจ้งความ

อย่างไรก็ตาม การคลี่คลายคดีดูเหมือนว่าจะไม่มีความคืบหน้า ที่ผ่านมา ทำได้แค่พาผู้เสียหายไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสเกตช์ภาพคนร้าย ก่อนขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายคนร้ายจับตามภาพ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตามตัวคนร้าย ขณะที่สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียกร้องมหาวิทยาลัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงที่พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง เร่งมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม เพื่อแก้ปัญหานักศึกษาหญิงถูกหลอกไปล่วงละเมิดทางเพศ ส่วน สภ.คลองหลวง ชี้แจงว่า มีการตรวจจุดเสี่ยงจำนวน 20 จุดโดยรอบมหาวิทยาลัย และจะเพิ่มความถี่ในการตรวจ โดยเฉพาะเวลา 22.00 - 02.00 น. พร้อมแนะนำการป้องกันตัวจากการตกเป็นเหยื่อ ให้แก่คณาจารย์เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์แก่นักศึกษา

อันดับ 4 : โจรปล้นรถขนเงิน! ที่แท้เป็นตำรวจ เจ้าของรางวัลตำรวจสืบสวนดีเด่น

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. เวลาประมาณ 13.30 น. คนร้ายสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ หมวกกันน็อกสีขาว ใช้ปืนจี้บังคับรถขนเงินของบริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด (KTGS) ในเครือธนาคารกรุงไทย ขณะที่พนักงาน 3 คน จอดรถเพื่อบรรจุเงินใส่ตู้เอทีเอ็มกรุงไทย ที่อยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนสายสองพี่น้อง - วัดไผ่โรงวัว ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ ชักปืนยิงขู่แล้วหลบหนีไป ได้ถุงใส่เงินสด 4 ถุง ภายในมีเงินสดมูลค่า 5 ล้านบาท โดยภาพจากกล้องวงจรปิดและคลิปจากมือถือสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะเกิดเหตุ





ขณะที่การคลี่คลายคดี พบโทรศัพท์มือถือตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงทราบว่า คนร้ายได้มีการคัดทะเบียนราษฎรจาก สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตำรวจกองปราบปรามจึงเรียกตัว ส.ต.ต.วิฑูรย์ เพ็ชรปานกัน อายุ 24 ปี ผบ.หมู่ (สืบสวน) สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี มาสอบสวน กระทั่งรับสารภาพว่า เป็นผู้วางแผนปล้นรถขนเงิน โดยมี นายชัยเดช เพ็ชรปานกัน อายุ 35 ปี พี่ชาย เป็นผู้ก่อเหตุปล้น, นายสมนึก สมสวย อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้าขายข้าวโพดป๊อปคอร์น อยู่ในปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุเป็นคนชี้เป้า และตนพร้อมด้วยผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งซื้อโทรศัพท์มือถือ โดยใช้ข้อมูลทะเบียนราษฎรที่คัดมาลงทะเบียนซิมการ์ด แล้วโทร.หาคนที่ไม่ถูกกันเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จากการตรวจสอบพบว่า ส.ต.ต.วิฑูรย์ เพิ่งได้รับมอบประกาศเกียรติคุณเป็นผู้ปฏิบัติงานดีเด่นด้านสืบสวน ประจำปี 2559 เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา

อันดับ 5 : สังเวย 18 ศพ รถทัวร์ตกเหวลึก “เขาพลึง” อุตรดิตถ์

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารเช่าเหมา บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) หมายเลขทะเบียน 32-1488 กรุงเทพมหานคร ที่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เช่าเหมานำคณะพนักงานเกษียณอายุ เดินทางไปท่องเที่ยวทัศนศึกษาที่จังหวัดน่าน - แพร่ มีผู้โดยสารทั้งหมด 36 คน คนขับ 2 คน ประสบอุบัติเหตุตกเหวลึกกว่า 150 เมตร บนเขาพลึง (ขาล่อง) ทางหลวงหมายเลข 11 (เด่นชัย - อุตรดิตถ์) กม. 350+350 ต.ด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 18 ราย บาดเจ็บ 17 ราย

จากการตรวจสอบรถทัวร์เบื้องต้น พบว่า ระบบเบรก ยางรถทัวร์ ปกติใช้งานได้ดี แต่ที่ยังไม่ทราบ คือ ระบบเกียร์ นำกล่องติดตั้งระบบนำสัญญาณติดรถทัวร์ที่แตกจากแรงกระแทกไปตรวจสอบ ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ให้ข้อมูลว่า รถทัวร์ที่ลงเขาพลึง มีความผิดปกติ เพราะลงเขามาด้วยความเร็ว แซงรถบรรทุกแล้วเฉี่ยวชนแบริเออร์กลางถนน ก่อนที่จะพุ่งชนแบริเออร์ข้างทางจนรถตกเหวลึก ส่วน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ยอมรับว่า จุดดังกล่าวกายภาพของถนนทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ได้ปรับปรุงติดตั้งป้ายเตือน และได้สั่งให้กรมทางหลวง สำรวจเส้นทางถนนที่ขึ้น - ลงทุกจุดทั่วประเทศเพื่อปรับปรุงแล้ว

อันดับ 6 : ไม่ให้เกียรติ! “แด๊ก-ริม ซิลลี่ฟูล” ร้องเพลง “ความฝันอันสูงสุด” เพี้ยนเหมือนไม่ทำการบ้าน

รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เกิดงานเข้าอีกแล้ว เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ได้โปรโมตงานแสดงดนตรี “ดอกไม้ของย่า บทเพลงของพ่อ” ที่สิงห์ปาร์ค (ไร่บุญรอด) ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี แด๊ก ร็อคไรเดอร์ หรือ เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด พร้อมด้วย วงซิลลี่ฟูล นำโดย ริม กฤษณะ ปานดอนลาน ซึ่งตอนจบรายการได้มีการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด มีเสียงวิจารณ์จากผู้ชมรายการ และโลกโซเชียล แสดงความไม่พอใจ



ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เห็นว่า เป็นการไม่ให้เกียรติเพลงพระราชนิพนธ์ ดูถูกคนฟังทางบ้าน เป็นการเผยแพร่แบบไม่มีการทักท้วง พิธีกรได้แค่ยืนปรบมือไปวันๆ ซึ่งหากตนจะไปเล่นดนตรีแต่ละครั้ง ต้องคิดแล้วคิดอีก หาโน้ตหาสกอร์ที่ดีที่สุด นักร้องตนซ้อมแล้วซ้อมอีกเป็นร้อยเที่ยว เพื่อให้ออกมาดีและถูกต้อง แต่ในรายการ นักร้องนึกอยากร้องก็ร้อง จึงเห็นว่าหากจะเล่นเพลงเช่นนี้ควรทำการบ้านก่อน อย่างไรก็ตาม ในโลกโซเชียลมีทั้งออกมาตำหนิ และออกมาปกป้องศิลปินทั้งสอง อ้างว่าเป็นการบรรเลงใหม่แบบร่วมสมัย

อันดับ 7 : ขาดทุนยับ 2 ปีซ้อน! ปิดตำนานคลื่นซี้ด - อสมท ผุดคลื่นเพลงแนวฟังสบายแทน

นับเป็นการปิดตำนาน 11 ปี ของคลื่นวิทยุขวัญใจวัยรุ่น “ซี้ด 97.5” ของ อสมท ที่มี “ตุ้ย - ธีรภัทร์ สัจจกุล” เป็นผู้บริหารคลื่น ตัดสินใจเลิกกิจการ โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ของ อสมท ได้มีมติเห็นชอบการเลิกกิจการของบริษัท ซี้ดเอ็มคอท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ อสมท ถือหุ้นร้อยละ 49 ด้วยเหตุผลที่ว่า ได้ประสบปัญหาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจจากการลดลงของรายได้อย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึงพิจารณาเห็นว่าบริษัทดังกล่าวไม่มีศักยภาพเพียงพอในการดำเนินกิจการต่อไปได้ โดย บมจ. อสมท จะนำคลื่นวิทยุ FM 97.5 MHz. มาบริหารจัดการเอง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ผลประกอบการของ บริษัท ซี้ดเอ็มคอท จำกัด ปี 2556 รายได้หลัก 156,747,454 บาท, ปี 2557 ลดเหลือ 100,580,206 บาท กระทั่งปี 2558 ลดเหลือ 83,238,495 บาท ส่วนกำไรสุทธิ เมื่อปี 2556 มีกำไรสุทธิ 20,474,350 บาท แต่ในทางกลับกัน ปี 2557 ขาดทุนสุทธิ 33,340,661 บาท ก่อนที่ในปี 2558 จะขาดทุน 37,180,678 บาท ขณะที่รายงานข่าวจาก อสมท ระบุว่า จะปรับปรุงรูปแบบคลื่น 97.5 MHz. ให้เป็นคลื่น Easy Listening เน้นกลุ่มเป้าหมายคนทำงาน


กำลังโหลดความคิดเห็น