xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรยังสะอื้น กราบพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเฝ้ารอต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี อย่างเป็นระเบียบ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ซึ่งเป็นวันที่ 19 ส่วนใหญ่ยังอยู่ในความโศกเศร้า บางคนก็ยังรับต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ไม่ได้ หลังจากสักการะพระบรมศพเสร็จแล้วหลายคนยังคงมีเสียงสะอื้น

วันนี้ (16 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ 19 ในการพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราวัง โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเฝ้ารอต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบตั้งแต่เวลา 05.00 น. ที่สำนักพระราชวังได้เปิดพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทให้ประชาชนได้ขึ้นไปสักการะพระบรมศพ จากนั้นได้เปลี่ยนทางเข้าเป็นทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเสด็จสวรรคตจากปวงพสกนิกรชาวไทยทุกคนไปนานถึง 35 วันแล้วก็ตาม หากแต่ความรักและความศรัทธาความภักดีที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ กลับมิได้เสื่อมคลายลงไปแม้แต่น้อย ประชาชนส่วนใหญ่ยังอยู่ในความโศกเศร้า บางคนก็ยังรับต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ไม่ได้ หลังจากสักการะพระบรมศพเสร็จแล้วหลายคนยังคงมีเสียงสะอื้นอยู่เป็นระยะ หากแต่ทุกคนก็ตั้งจิตอฐิษฐานขอให้ได้เกิดมาเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

ด้าน นายอำนาจ แซ่ว่อง อายุ 31 ปี เดินทางมาจากบ้านย่านรัชดา กรุงเทพมหานคร พร้อมภรรยาและลูก กล่าวว่า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เก่งไม่มีกษัตริย์ที่ใดเสมอเหมือน ที่ผ่านมา ตนได้ท่องจำ “พระราชดำรัสข้อคิดในการใช้ชีวิตของในหลวง รัชกาลที่ ๙” ซึ่งมี 19 ข้อ เพื่อว่าวันใดวันหนึ่งก็ต้องได้ใช้ และหากทำได้ชีวิตเราก็จะไม่เดือดร้อน เพราะทุกข้อที่พระองค์ทรงตรัสไว้นั้นมีครบทุกอย่าง เพราะพระองค์จะสอนให้เราอยู่ได้ด้วยตัวของเราเอง ท่านทรงให้อาชีพ ให้อุปกรณ์ความรู้แนวทางในการดำเนินชีวิตและการทำมาหากินซึ่งเป็นสิ่งที่ยั่งยืนที่สุด ไม่ใช่ให้อาหารกินอิ่มเฉพาะในมื้นนั้นเพียงมื้อเดียว

“ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้มีโอกาสได้รับเสด็จฯเลยสักครั้งเดียว เพราะคิดว่าทำงานก่อนๆ จึงไม่ได้หาโอกาสไปรับเสด็จฯ พอพระองค์ท่านเสด็จสวรรคตแล้วก็รู้สึกเสียใจมากเพราะไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว วันนี้จึงพาครอบครัวเดินทางมากราบสักการะถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย” นายอำนาจ กล่าว

ด้าน นางสาวพิณทิพา สืบแสง อายุ 31 ปี อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เดินทางมาพร้อมกับคุณแม่ นางพิทอง สืบแสง กล่าวว่า ช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต ตนเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่ประเทศออสเตรเลีย และเป็นช่วงกำลังสอบ จึงไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ เสียใจมาก คนไทยที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย มีอยู่ประมาณ 5,000 คน ได้ไปรวมตัวกันที่หอประชุมในเมืองเมลเบิร์น ทุกคนเสียใจมาก ได้ร่วมทำบุญถวายพระองค์ท่าน หลังสอบเสร็จตนจึงรีบเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมากราบสักการะถวายความอาลัย ก็รู้สึกเศร้าเสียใจ เพราะรักพระองค์มาก เพราะพระองค์ท่านทำทุกอย่างเพื่อคนไทยและทั่วโลกก็นำไปใช้ พระองค์ท่านแก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยใจบริสุทธิ์ ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในทุกๆ ด้าน แล้วแต่ใครจะน้อมนำไปปรับใช้ สำหรับตนแล้วก็จะขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ถึงแม้จะเป็นส่วนน้อยอาจไม่เกิดแรงกระเพื่อมมากนัก แต่ถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดก็จะสามารถทำให้สังคมโดยรวมดีขึ้นได้

กำลังโหลดความคิดเห็น