ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คุณลุงวัย 67 จากจังหวัดสตูล ขี่รถสามล้อพ่วงเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาแสดงความอาลัย และสักการะพระบรมศพ รวมระยะทาง 1,000 กิโลเมตร รวมทั้งสิ้น 15 วัน ด้านข้าราชการบำนาญและเกษตรกร จังหวัดระยอง เผย ชาวบ้านในพื้นที่ทำเกษตรพึ่งตนเองได้ เพราะแนวพระราชดำริของพระองค์
วันนี้ (15 พ.ย.) เป็นวันที่ 18 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00 - 21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ โดยมีประชาชนเป็นจำนวนมากพร้อมใจกันแต่งชุดดำ และต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อทำหน้าที่ลูกที่ดีครั้งสุดท้าย
ด้าน นายพุฒิพงศ์ วงษ์จินดา อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 6 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล พร้อมคนในครอบครัว หนึ่งในสมาชิกคนหัวใจหินของ จ.สตูล หลังได้เข้าร่วมกิจกรรมงดเหล้าครบพรรษา ปี 2559 กิจกรรมในสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ทั้งนี้ ได้มีการมอบเสื้อสำหรับผู้ที่สามารถงดเหล้าได้สำเร็จ และยังได้ปฏิญาณตนไว้ว่า จะเลิกเหล้าให้ได้ตลอดชีวิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวง รัชกาลที่ ๙
และจากความภาคภูมิใจในครั้งนี้ นายพุฒิพงศ์ คนหัวใจหินจาก จ.สตูล มีความตั้งใจขี่รถสามล้อพ่วงเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาแสดงความอาลัย และสักการะพระบรมศพ พร้อมภรรยา นางอำมร วงษ์จินดา อายุ 53 ปี รวมระยะทาง 1,000 กิโลเมตร รวมทั้งสิ้น 15 วัน โดยระหว่างเส้นทางนั้นมีการรณรงค์ให้ประชาชนคนไทย ได้ตระหนักถึงโทษภัย พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนที่มีความตั้งใจจะทำความดี ร่วมลงชื่อเลิกเหล้าตลอดชีวิต (เลิกมาแล้ว หรือตั้งใจจะเลิก) เพื่อถวายความดีแด่พ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ ของแผ่นดิน
ภายหลังถวายสักการะพระบรมศพ นายพุฒิพงศ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงตื้นตันว่า ผมเริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่วัยรุ่นอายุ 15 ปี เมื่อทำงานมีอาชีพเป็นเชฟมักดื่มทุกครั้งระหว่างทำอาหารจนกลายเป็นคนติดเหล้าในที่สุด เฉลี่ยวันละ 1 ขวด สูบบุหรี่อีกวันละ 2 ซอง กระทั่งปีที่พระบาทสมเด็จพระมหาปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ช่วงนั้นผมมีอายุตัดสินใจเลิกเหล้าถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะเลิกข้องเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหมด จะได้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกๆ ด้วย
“หลังจากเลิกเหล้าเห็นความเปลี่ยนแปลงได้เลยว่าสุขภาพดีขึ้น ร่างกายเป็นปกติ ปอดแข็งแรงมีกำลังวังชาในการทำงานมากขึ้น และเงินที่เคยจ่ายซื้อเหล้าก็นำมาเก็บเป็นทุนการศึกษาให้กับลูกๆ ทั้ง 4 คน และเป็นรายได้ใช้จ่ายภายในครอบครัว วันนี้มีความตั้งใจมากที่จะมากราบสักการะพระบรมศพ และตั้งจิตอธิษฐานให้พระองค์เสด็จสู่สรวงสวรรคาลัย ส่วนตัวเองจะปฏิบัติตนเป็นคนดี อยากเชิญชวนคนที่ติดเหล้าและเครื่องดื่มมึนเมา หันมาเลิกเสพติดสิ่งเหล่านี้ แม้ต้องใจแข็งอาศัยความเด็ดเดี่ยวมาก แต่ถ้าทำได้ก็ดีกับตัวเอง”
ด้าน นายพนม ฮอสูงเนิน อายุ 55 ปี ข้าราชการบำนาญ และอาชีพเกษตรกร ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เดินทางมาพร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต พวกเราทุกคนเสียใจอย่างมาก ช่วงที่พระองค์ท่านประชวรชาวบ้านก็ได้สวดมนต์ถวายพระองค์ท่าน จำได้ว่าประมาณปี 2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เคยเสด็จฯ ยังอ่างเก็บน้ำดอกกราย และทรงทอดพระเนตรโครงการพัฒนาการเกษตรดอกกรายตามพระราชดำริ และทรงเยี่ยมราษฎรในเขตพื้นที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยชาวบ้านในพื้นที่ทำเกษตรพึ่งตนเอง ทำปุ๋ยชีวภาพใช้เองเพื่อลดสารเคมีลงตามแนวพระราชดำริของพระองค์ หลังจากมีอ่างเก็บน้ำแล้วพื้นที่ที่เคยแห้งแล้งก็มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น มีการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำดอกกรายไปให้ชาวบ้านสามารถปลูกพืชต่างๆ ได้ ทำอาชีพประมง เลี้ยงสัตว์ มีการแจกจ่ายพันธุ์ปลาน้ำจืดให้ชาวบ้านในพื้นที่ไปเลี้ยงตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ส่วนชาวนาที่เคยทำนาปีก็สามารถทำนาปรังได้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
