xs
xsm
sm
md
lg

ความเศร้าโศกยังมิจางหาย พสกนิกรร่วมถวายสักการะพระบรมศพในหลวง ร.๙ เป็นวันที่ 10

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ความเศร้าโศกยังคงมิจางหาย พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วทุกภูมิภาค ร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันที่ 10 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

วันนี้ (7 พ.ย.) ถึงแม้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชผู้ยิ่งใหญ่กลางใจปวงพสกนิกรชาวไทยจะสวรรคตไปถึง 26 วันแล้วก็ตาม หากแต่ความเศร้าโศกของปวงพสกนิกรชาวไทยยังคงมิได้จางหายไป เพราะการเดินทางเข้าสักการะพระบรมศพของประชาชนทุกหมู่เหล่า ยังคงไม่ลดน้อยลงจากวันแรก เมื่อเวลา 05.00 น. สำนักพระราชวังได้เปิด พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ให้ประชาชนเดินทางเข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันที่ 10 ประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค ทั่วทุกจังหวัดของประเทศ ต่างพร้อมใจมุ่งตรงสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้วยใจแห่งความจงรักและภักดี

นางเบญจา ทองแกมแก้ว อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง ชาวบ้าน ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล กล่าวว่า ตนอยากเดินทางมาถวายพระพรพระองค์ท่านนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสเพราะบ้านอยู่ไกล เลี้ยงดูส่งเสริมให้ลูกเรียนเพียงคนเดียว วันนี้ได้มีโอกาสมากราบถวายสักการะครั้งสุดท้าย รู้สึกดีใจมาก และรู้สึกเป็นบุญที่ได้เกิดบนแผ่นดินของพระองค์ท่าน ชีวิตนี้ไม่อาจลืมได้ พระองค์ทำประโยชน์ให้ประชาชนมากมาย สอนให้คนไทยรักกัน ไม่มีสิ่งใดที่ตนจะตอบแทนพระองค์ได้ นอกจากเป็นคนดี ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และก็จะขอน้อมนำคำสอนของพระองค์มาใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงอบรมสั่งสอนลูกให้รู้จักขยันหมั่นเพียร และพอเพียง เลี้ยงตนเองได้ ไม่เป็นภาระของผู้อื่น ทั้งนี้ สำหรับวันพระราชทานเพลิงพระบรมศพ ก็จะพยายามทำงานเก็บเงินเพื่อหาโอกาสเดินทางมาอีกสักครั้ง

ขณะที่ เอ็ลเดอร์ วรนภาฤทธิ์ พรเนียน อายุ 22 ปี นักเผยแพร่ศาสนาคริสต์ กล่าวภายหลังเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ ว่า ตนมีความเคารพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาก เนื่องจากหลักคำสอนของพระองค์ใกล้เคียงกับศาสนาคริสต์มาก คือ สอนให้คนมีความพอเพียง พึ่งพาตนเองได้ และทรงเป็นแบบอย่างในเรื่องการแบ่งปัน มีจิตกุศล และทรงเป็นผู้นำที่ดีทำให้หลายประเทศทั่วโลกรู้จักประเทศไทย โชคดีที่ตนได้เกิดเป็นคนไทยและทันในสมัยรัชกาลที่ ๙

ด้าน เอ็ลเดอร์ วีเฟอร์ อายุ 20 ปี กล่าวว่า ขอให้กำลังใจคนไทย ตนอาจจะไม่เข้าใจในประเพณีไทยและในเวลาที่คนไทยรู้สึกเสียใจมากนัก แต่ตนรู้สึกได้ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เปรียบเหมือนหัวหน้า หรือผู้นำที่ดีที่สุดในโลก ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของทุกคน

ส่วน นางสาคร ศิริชนะ อายุ 42 ปี ชาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เดินทางมากับกลุ่มกองศีรษะอโศก กองทัพธรรม จำนวน 30 คน เล่าด้วยความรู้สึกตื้นตันใจหลังจากขึ้นไปถวายสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ว่า เมื่อตนเองและคณะเดินทางมาร่วมทำกิจกรรมหลังออกพรรษาในงานมหาปวารณาที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีเสร็จเรียบร้อย ก็ตั้งใจพากันมาถวายสักการะพระบรมศพ ถึงแม้ว่าจะต้องออกเดินทางจากจังหวัดนครปฐม ตั้งแต่เวลา 03.00 น. เพื่อให้มาถึงสนามหลวงเวลา 04.00 น. และได้เข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ เป็นกลุ่มแรกตอนเวลา 05.00 น. ก็ไม่เหนื่อยไม่ท้อ เพราะอยากแสดงความรักความอาลัยต่อพระองค์

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.45 น. บริเวณท้องสนามหลวง ภายในพระบรมมหาราชวัง ได้มีฝนตกโปรยปรายลงมาอย่างหนัก แต่ยังคงมีพสกนิกรผู้จงรักภักดียังคงปักหลักต่อแถวอย่างเป็นระเบียบ แบบมิได้หวั่นเกรงต่อฟ้าฝน เพื่อให้ได้สักการะพระบรมศพ โดยประชาชนส่วนใหญ่ได้พกร่มและเสื้อกันฝนติดตัวมาด้วย พร้อมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับผู้ที่อยู่ข้างๆ ที่เดินทางด้วยแรงศรัทธามาถวายสักการะพระบรมศพในวันนี้ นับเป็นภาพแห่งความสมัครสามัคคี เพราะทุกคนที่มาล้วนมีหัวใจดวงเดียวกัน คือ รักในหลวง รัชกาลที่ ๙ อย่างสุดหัวใจ



























กำลังโหลดความคิดเห็น