xs
xsm
sm
md
lg

วิ่งปฏิวัติชีวิต! เปิดใจอดีตหนุ่มขี้เมา “เต้-อภิรัตน์” พอเลิกเหล้าแล้วหล่อมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จากคนที่ไม่เคยดูแลตัวเอง เลิกงานเอะอะเป็นดื่ม เอะอะเป็นเมา อีกทั้งยังเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย การรับประทานก็รับประทานแทบทุกอย่างแบบไม่เลือก จนทำให้สุขภาพย่ำแย่ แถมน้ำหนักยังพุ่งทะยานสูงสุดถึง 88 กิโลกรัม แต่วันนี้เขากลับกลายมาเป็นหนุ่มหล่อดีกรีนักวิ่งที่คว้าถ้วยรางวัลมาแล้วหลายสนาม เต้-อภิรัตน์ นทีประสิทธิพร คือบุคคลที่เรากำลังกล่าวถึง

“ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้ผมดื่มเหล้าแทบทุกวันเลยครับ เอาจริงๆ ใน 1 ปีที่ผ่านมาแทบจะนับวันที่ไม่ได้ดื่มได้เลย เนื่องด้วยส่วนตัวผมมีไลฟ์สไตล์ที่ต้องทำงานกลางวัน ส่วนกลางคืนผมก็จะทุ่มเทให้กับการดื่มเลยครับ ออกกำลังกายก็ไม่ออก อาทิตย์นึงออกกำลังกายวันเดียวได้ ส่วนการรับประทานอาหารก็รับประทานทุกอย่างไม่เลือก หิวก็ทาน ยิ่งหมูกระทะ หมูย่างติดมันจะชอบมากครับ ทำให้น้ำหนักพีกสุด 88 กิโลกรัม”

“จริงๆ ช่วงนั้นผมก็ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรนะครับ แต่จะมีเหนื่อยง่ายบ้าง เราก็ไม่ได้อ้วนอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ตัวใหญ่ พุงใหญ่ (หัวเราะ)”

“ผมเริ่มอยากลดน้ำหนักเพราะผมได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หนแล้ว ซึ่งในหนังจะมีประโยคเด็ดประโยคหนึ่ง ที่บอกว่าถ้าคุณอยากวิ่งให้วิ่งกิโลเดียว ถ้าคุณอยากพบชีวิตใหม่ให้มาวิ่งมาราธอน ซึ่งตอนนั้นใจผมอยากรู้ อยากพิสูจน์จึงตั้งเป้าหมายว่าเราจะวิ่งมาราธอน จากนั้นมาก็เริ่มซ้อม”

 • ปฏิวัติตัวเองด้วยการวิ่ง ?


ใช่ครับ แรกๆ ที่ผมเลือกการวิ่งเพราะเราเล่นคนเดียวได้ และอุปกรณ์ก็ไม่เยอะ แต่มาตอนนี้กลับรู้สึกว่าคิดผิดเพราะผมกลายเป็นสายบ้าอุปกรณ์ไปแล้ว (หัวเราะ) คือเวลาเราได้ของเล่นอะไรมาใหม่ มันทำให้เราอยากลองเอาไปวิ่ง อะไรประมาณนี้ครับ

 • ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้เราวิ่งมาได้แล้วกี่ปี อยู่ในสายวิ่งแบบเต็มตัวแล้วใช่ไหมคะ


จริงๆ ตอนแรกผมเริ่มจากวิ่งจากลู่ไฟฟ้าก่อนครับเพราะน้ำหนักตัวเราเยอะ ซึ่งวิ่งลู่ไฟฟ้าจะไม่ค่อยบาดเจ็บครับ แรกๆ ก็วิ่งวันละ 20 นาที พอนานไปเราก็สามารถวิ่งได้นานขึ้น ซึ่งตอนนี้พัฒนาการวิ่งของผมก็สามารถวิ่งได้ 10 ชั่วโมงเลยครับ
ผมวิ่งมาได้ 1 ปีแล้วครับ ทุกวันนี้ผมจะต้องวิ่งอาทิตย์ละ 5 วัน ซึ่งภายใน 1 ปีที่ผมวิ่งมาก็จะมีไปแข่งแล้ว 11 รายการ ก็มีได้ถ้วย ได้รางวัลมาพอสมควรเลยครับ อาทิ รางวัลอันดับ 8 ประเภทระยะทาง 16 กิโลเมตร (ชายอายุ 30-34 ปี), รางวัลผู้พิชิต 30 รอบ 63 กม. สวนพฤกษ์ 99 อัลตร้ามาราธอน 10 ชั่วโมง, รางวัลชนะเลิศอันดับ 4 รุ่น ชายอายุ 30-34 ปี ประเภท ซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน วิ่งเทิดพระเกียรติพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 11, รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ภูทับเบิก ON THE ROCK TRAIL RUN รุ่นอายุ 30-39 ปี ระยะ 25 กิโลเมตร, รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 พาชูธง ภูหินร่องกล้า Super Ozone 2 ประเภท 10 กม. (รุ่นอายุ 30-39 ปี), รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 รุ่นอายุ 30-39 ระยะ 42.195 ที่เขื่อนแควน้อย, ผู้พิชิตพญาลิไทฟันรัน-มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน 2016 ฯลฯ


จะบอกว่าตรงนี้ก็เริ่มจากเราไปแข่งแล้วแพ้ เราก็กลับมาซ้อมให้หนักกว่าเดิม ตอนนั้นคิดอย่างเดียวต้องทำเวลาให้ได้มากกว่าเดิม ตอนนั้นการวิ่งของผมเรียกว่าเลยคำว่าวิ่งเพื่อสุขภาพไปเยอะเลยครับ จะใช้คำว่าบ้าวิ่งมากกว่า แต่ปัจจุบันจะเอาแค่วิ่งแล้วเวลาไม่ขี้เหร่พอแล้วครับ วิ่งเร็วไปก็มีคนเร็วกว่า ตอนนี้ผมเลยวิ่งให้ได้ทุกวันเพื่อสุขภาพแทนเพราะเราอยากทำให้คนอื่นเห็น อยากให้เขามาวิ่งตามเพื่อสุขภาพครับ (ยิ้ม) และเป้าหมายผมตอนนี้กำลังเริ่มฝึกซ้อมเพื่อจะลง 100 กิโลเมตรปลายปีนี้ครับ

 • จะว่าไปแล้วเราไปหลงรักอะไรในการวิ่งคะ แล้วการวิ่งให้อะไรบ้าง


การวิ่งให้ชีวิตใหม่แบบในหนังเลยครับ จนมาถึงวันนี้คำคำ นั้นในหนัง ทำให้ผมเข้าใจดีแล้วว่าการวิ่งดียังไง ทำให้เรามีวินัยมากขึ้น ใจเย็นมากขึ้น อารมณ์ดีขึ้น ที่สำคัญสุขภาพดีขึ้นครับ

 • เรียกว่าการวิ่งเปลี่ยนชีวิตเลยไหมคะ


เปลี่ยนนะครับ จากน้ำหนัก 88 กิโลกรัมตอนนี้ผมก็ลดลงมาเหลือ 66-67 กิโลกรัม อีกอย่างรู้สึกตัวเองสุขภาพดีขึ้น คนรอบข้างเห็นเราแล้วทำตามซึ่งอันหลังนี้น่าภูมิใจกว่าครับ (ยิ้ม)

 • แล้วถ้ามีคนสนใจวิ่งเปลี่ยนชีวิตแบบเราบ้างจะแนะนำเขาอย่างไรบ้างคะ

เริ่มเลยครับ หาเวลาเหมาะๆ ออกไปเดิน ออกไปวิ่ง ให้ได้วันละ 20-30 นาที ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 วัน นอกจากนี้ก็ต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดของทอด ของมัน น้ำอัดลมลง พักผ่อนให้เพียงพอ แค่นี้เราก็มีสุขภาพที่ดีแล้วครับ

ส่วนตัวผมก็คุมอาหารออกกำลังกายตามปกติเลยครับ นอกจากนี้ก็มีทาครีมบ้าง ผมจะบอกว่าผมวิ่งทุกวัน ตอนนี้ผมไม่อ้วนขึ้นแล้วนะครับ เพราะเราเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เรามีการรับประทาน การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมแล้ว

ผมเชื่อว่าสุขภาพดีต้องดีออกจากภายใน ภายในดีมันจะส่งผลออกมาภายนอกครับ ทุกวันนี้ผมจะเลี่ยงการดื่มเหล้าไปเลยนะครับ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็จะดื่มแต่น้อย แต่เอาจริงๆ ทุกวันนี้เรียกว่าเลิกขาดแล้วก็ได้นะครับ เพราะผมอยากให้ตับได้ทำงานเป็นปกติบ้าง วิธีเลิกก็ไม่ยากเลยครับ คิดแค่ว่าใจเป็นนาย กายเป็นบ่าวยังไงก็เลิกได้แน่นอนครับ (ยิ้ม)



เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : facebook : Apirat Nateeprasittiporn

กำลังโหลดความคิดเห็น