สาวน้อยนักตบลูกยางวัยใส กับความสามารถด้านกีฬา และความน่ารักสดใส ทำให้ใครต่อใครในโลกออนไลน์แห่แหนชื่นชมและส่งแรงเชียร์ให้กำลังใจ ตลอดหลายเดือนมานี้ กล่าวได้ว่า “แบม-จิดาภา นาหัวหนอง” ครองความเป็นดาวดวงน้อยที่สว่างไสวอยู่ในการรับรู้ของผู้คน

เปิดชีวิต เปิดความคิดความอ่าน หลากหลายแง่มุม... “แบม-จิดาภา นาหัวหนอง” สาวน้อยวัย 14 ที่ชื่นชอบกีฬาวอลเลย์บอลมาตั้งแต่ชั้นประถม กอบโกยรางวัลมามากมาย จนสามารถสานฝันความชอบดังกล่าวได้เข้ามาอยู่ในสังกัดสโมสร 3BB นครนนท์ และรับตำแหน่งลิเบอโร่หรือมือรับอิสระของทีม ซึ่งความฝันสูงสุดของเธอนั่นก็คือการได้ติดทีมชาติ...

• ตอนนี้ น้องแบมเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลที่ดังมากเลยในสื่อโซเชียล
รู้สึกเกร็งเลยค่ะ เพราะไม่เคยคิดว่าแบมจะดังขนาดนี้ (หัวเราะ)
• น้องแบมเริ่มเล่นวอลเลย์บอลมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
ตั้งแต่ชั้น ป.1 ค่ะ ตอนนั้นอายุเจ็ดขวบ เห็นพี่สาวเล่น เลยอยากเล่นตาม ตั้งแต่นั้นก็เล่นมาตลอด แบมชอบกีฬาวอลเลย์บอลเพราะคิดว่าเป็นกีฬาที่เหมาะสมกับเราที่สุดแล้ว แต่กีฬาประเภทอื่น เราก็เคยเล่นมานะคะ อย่างตอนกีฬาสีของโรงเรียนก็เล่นตะกร้อ แฮนด์บอล แต่ยังไงก็ชอบกีฬาวอลเลย์บอลที่สุดแล้ว
อีกอย่าง ความชอบนี้มาจากความนิยมที่หมู่บ้านที่เป็นบ้านเกิดหนูที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เขาจะสนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอล แต่จะสนับสนุนถึงแค่ ป.6 เพราะว่าหลังจากนั้นจะเน้นที่การเรียนหนังสือมากกว่า พอจบ ป.6 เขาก็จะให้เรียนต่ออย่างเดียว จะไม่ให้เล่นกีฬาแล้ว แต่สำหรับแบม พอจบ ป.6 มา แบมก็เลือกที่จะเอาดีทางด้านกีฬา ซึ่งหลังๆ มานี้ทางหมู่บ้านก็เริ่มสนับสนุน เหมือนแบมเป็นตัวแทนของหมู่บ้านไปเลยค่ะ (ยิ้ม)
ขณะที่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยบังคับให้แบมเล่นเลยนะคะ แต่มาจากที่เราชอบเองล้วนๆ เลย พอเราชอบ พ่อแม่ก็สนับสนุนเต็มที่ ส่งให้ไปเรียนพิเศษ ตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาเล่นกีฬาด้วยซ้ำ เพราะก่อนหน้านี้ คุณพ่อคุณแม่จะส่งเสริมแบมไปทางด้านการเรียนหนังสือมากกว่า แต่พอท่านมาทราบว่าแบมชอบกีฬา ท่านก็ไม่ห้าม ไม่ขัดขวางอะไรเลยค่ะ สนับสนุน ไปรับไปส่ง ไปดูแบมฝึกซ้อมด้วยเลย (ยิ้ม)

• เห็นว่าตอนนี้สังกัดกับสโมสร 3BB นครนนท์ ไม่ทราบว่าเราเข้ามาอยู่ในสังกัดนี้ได้อย่างไร แล้วเล่นในตำแหน่งไหนคะ
แบมมาอยู่สังกัดนี้ได้เพราะโค้ชเอ็ม - ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต อินเลี้ยง โค้ชทีม ร.ร.กีฬานครนนท์วิทยา 6 นครนนทบุรี ได้เข้ามาเจอแบมในรายการวิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอล ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วก็มีครูฐาปไพพรรณ ไชยศรี เขาติดต่อให้อีกที ซึ่งแบมก็อยากมาด้วย ก็เลยมาค่ะ
ส่วนตำแหน่งที่แบมถนัดและทำได้ดีที่สุดในสนาม ก็จะเป็นมือรับอิสระค่ะ ซึ่งตั้งแต่ ป.1 แบมจะเล่นบอลหัวเสามาก่อน แต่พอได้ย้ายมาอยู่กับโค้ชเอ็ม ก็ได้มาปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้อยู่ตำแหน่งลิเบอโร่หรือมือรับอิสระแทนค่ะ แบมคิดว่าตำแหน่งนี้เหมาะกับแบมที่สุดแล้วนะคะ เพราะให้ไปตีคงไม่ได้ แบมเป็นคนตัวเล็กด้วย (ยิ้ม)
• จากที่เราเริ่มเล่นมาตั้งแต่ชั้นประถม ตอนนั้นเราได้ไปลงสนามแข่งบ้างไหมคะ
ส่วนใหญ่ แบมจะเล่นให้ทีมโรงเรียน แข่งกีฬาของจังหวัดอยู่บ่อยๆ ค่ะ ตอนนั้นแบมได้ครูบุญเชียร อรรคนันท์ เป็นผู้ฝึกสอนให้ในตำแหน่งมือเซตและส่งลงแข่งกีฬา สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) พอ ป.3 แบมก็ได้แข่งขันระดับประเทศ ป.4 ไปได้แข่งรายการวิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอลที่จังหวัดสระบุรี ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ได้อันดับที่สี่ของระดับประเทศมาค่ะ ตอน ป.5 แบมได้ไปร่วมทีมกับโรงเรียนขอนแก่น อันนี้ได้อันดับที่สามมา แล้วพอ ป.6 แบมก็ได้เป็นกัปตันทีมที่ “โรงเรียนเก่าน้อยโนนรังวิทยาเสริม” ไปแข่ง ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ประเทศไทย ในรายการวิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอล ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้อันดับสองมาค่ะ
ส่วนตอนสังกัด 3BB นครนนท์ก็ได้รางวัลมาเยอะเลยค่ะ แต่เราก็เคยแพ้นะคะ แบมก็คิดว่าไม่เป็นไร เราทำเต็มที่แล้ว ไม่ได้เสียใจอะไร (ยิ้ม)

• ได้รางวัลมาเยอะแสดงว่าเราต้องฝึกฝนเป็นกิจวัตร ถามถึงเรื่องการฝึกฝนหน่อยค่ะ ทุกวันนี้เราต้องซ้อมอย่างไรบ้างในแต่ละวัน
โค้ชจะให้วิ่งค่ะ ส่วนมากตอนเช้าจะเน้นการวิ่งจับเวลาเพื่อดูกำลังและฝึกสภาพร่างกาย ส่วนตอนเย็นจะเป็นการเล่นบอลเพื่อฝึกทักษะ ทุกวันนี้แบมต้องฝึกทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ จะได้หยุดซ้อมเฉพาะวันจันทร์ ส่วนเสาร์อาทิตย์ เราจะต้องซ้อมหกโมงครึ่งถึงเก้าโมง ถ้าวันธรรมดาก็จะลงซ้อมตอนตีห้าถึงหกโมง ซ้อมเสร็จก็มาอาบน้ำ ทานข้าวไปโรงเรียน และช่วงเย็น กลับมาจากโรงเรียน ก็จะต้องซ้อมตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสองทุ่ม เสร็จแล้วก็จะมาทานข้าว ประมาณสามทุ่มก็ต้องรีบอาบน้ำ เข้านอน บางวันก็จะมีทำการบ้านบ้าง ซึ่งแบมว่าเอาจริงๆ ซ้อมหนักนะคะ เพราะตกวันละหกชั่วโมงเลย (ยิ้ม)
ส่วนเรื่องอาหาร เราต้องก็ต้องทานทานนมเยอะๆ ค่ะ โค้ชจะแช่นมไว้ให้เยอะมาก ทานแทนน้ำก็ได้ ไม่มีกำหนดค่ะว่าวันนี้จะต้องทานโปรตีนเท่าไหร่ แบมจะทานนมวันละสามถุง แล้วก็ทานอาหารในโรงเรียน และฝึกตามที่เขาให้ฝึกค่ะ
• อยู่กับกีฬาประเภทนี้มาตั้งแต่เด็ก สำหรับแบมแล้ว อะไรคือหัวใจของการเล่นกีฬาประเภทนี้คะ
ต้องมีความอดทนค่ะ เพราะต้องฝึกฝนเยอะ มีกฎระเบียบเยอะ อีกอย่างเราต้องขยัน ตั้งใจซ้อม เชื่อฟังโค้ชมากๆ ค่ะ ส่วนตัวแบมก็มีท้อแท้บ้างนะคะ แต่เราก็อดทนได้ค่ะ

• มีกรอบกติกาค่อนข้างเป๊ะแบบนี้ เราแบ่งเวลาในชีวิตอย่างไร
ถึงเวลาซ้อมก็ต้องเต็มที่ พอซ้อมเสร็จเราก็ต้องตามงาน ตามการบ้านของเรา ก็มีบ้างนะคะที่กลัวตามงานไม่ทัน แต่เกรดเฉลี่ยก็ดีอยู่ค่ะ การเรียนไม่ตกลงเลยนะคะ ซึ่งแบมก็เรียนได้ปกติดี
• เคยมีนอกลู่นอกทางบ้างไหมคะ เพราะเราก็เป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง
แบมไม่ได้วางตัวหรือเตือนตัวเองอะไรเลยค่ะ แบมจะคบเพื่อนได้หมด ได้ปกติเลยค่ะ แค่เราทำตามกฎระเบียบของโรงเรียนก็พอ อย่างกฎของที่ 3BB นครนนท์ จะห้ามมีแฟน ห้ามใช้โทรศัพท์ สองอย่างนี้จะเคร่งมาก แต่แบมไม่คิดว่าโดนบังคับนะคะ แบมทำตามทำได้ค่ะ ซึ่งถ้าอยู่ในสังกัด ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ห้ามมีแฟนและใช้โทรศัพท์เด็ดขาด โค้ชจะค่อนข้างเข้มงวดมาก เพราะว่าการมีแฟนจะทำให้เสีย แต่วัยรุ่นสมัยนี้ก็ต้องมีกันบ้าง แค่อย่าเยอะเกินไป จะทำให้เสียสมาธิในการฝึกซ้อม บางคนอาจจะมีหลงผิด ก็จะทำให้หมดอนาคตได้ค่ะ
อย่างการใช้โทรศัพท์ ถ้าได้เล่นก็จะกลายเป็นว่าเล่นแต่โทรศัพท์ ถ้าเด็กคนไหนแอบทำแล้วครูจับได้จะถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ครูจะไม่มีพิจารณาอะไรเลยค่ะ จะส่งกลับบ้านไปเลย แต่ถ้าเป็นความผิดแบบให้อภัยได้ ครูจะมีการให้โอกาสแก้ไขปรับตัวได้ทั้งหมดสามครั้ง ถ้ามีครั้งที่สี่ ต้องส่งกลับทันที อย่างถ้าขออนุญาตออกไปข้างนอก เช่น ไปซื้อของ ครูเขาก็จะจับเวลา แต่ครูก็จะไม่ได้ห้ามไปเสียทีเดียว แต่เราต้องอยู่ในขอบเขต เพื่อนผู้ชายก็มีได้ คบได้ค่ะ แต่แค่อย่ามากเกินไป
แบมอยู่ที่นี่มาได้หนึ่งปีแล้ว ก็ไม่เคยนอกลู่นอกทางนะคะ เพราะว่าแบมชอบและรักที่จะอยู่ตรงนี้แล้ว เป็นความฝันของแบมแล้ว ถึงเขาจะห้าม มีกฎระเบียบเยอะแยะมากมายแค่ไหน แบมก็สามารถทำตามกฎระเบียบได้ แบมไม่ได้คิดที่จะอยากออกไปเที่ยวเล่นอิสระ คือแบมมีความสุขที่ทำอยู่ตอนนี้ แบมจะไม่มีงอแงนะคะ แต่ก็อาจจะมีแอบบ่นบ้างว่าไม่อยากซ้อมเลย (หัวเราะ)

• คือไม่ได้คิดว่าเราสูญเสียอะไรไปในวันเวลาวัยรุ่น
ชีวิตแบมจะธรรมดาปกติค่ะ เพราะว่าพวกหนูไม่ค่อยได้เข้าสู่โลกโซเชียลอยู่แล้ว โทรศัพท์ไม่มีใช้ เหมือนเราใช้ชีวิตแบบเด็กอยู่ ที่วันหนึ่งจะต้องทานข้าว หลับนอนเป็นเวลา แต่แบมก็ไม่ได้รู้สึกเครียด ไม่เคยคิดเลยค่ะว่าอยากจะออกไปเที่ยว เพราะยังไงก็ออกไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่แบมก็มีเวลาให้ตัวเองนะคะ อย่างซ้อมเสร็จแล้ว เราก็ทำอะไรตามใจที่ชอบเลย ส่วนใหญ่แบมจะดูโทรทัศน์ เพราะว่าเราไม่มีโทรศัพท์ ก็จะใช้เวลาพัก ผ่อนคลายปกติค่ะ วันหยุดก็คือหยุดพักผ่อนเลย จะไม่ได้ซ้อมหรือทำอะไร
• นอกจากกีฬา เรามีความคาดหวังในเส้นทางการศึกษาอย่างไรบ้างคะ
ถ้าเรื่องการศึกษา แบมอยากจะเภสัชกรค่ะ อยากเป็นตั้งแต่ก่อนที่จะเป็นนักกีฬาแล้ว ตอนเด็ก แบมเคยพูดกับคุณแม่ว่าอยากเป็นแอร์โฮสเตสกับเภสัชกร และจะทำให้ได้ จะเป็นให้ได้ แต่ต้องดูก่อนค่ะว่าพอขึ้นมัธยมปลาย เราจะเรียนสายวิทย์คณิตได้หรือเปล่า ถ้าเกรดเฉลี่ยถึง สมองเราได้ แบมก็โอเคค่ะ
เภสัชกรเป็นความฝันสูงสุดเลยนะคะ แต่ถ้าสายกีฬายังไปได้ดีอยู่ ก็ไปทางนี้ แบมอยากไปทางสายกีฬาด้วยค่ะ ซึ่งถ้าเราเก่งขึ้นเรื่อยๆ มีความพัฒนา ได้ติดทีมชาติ แบมก็คงจะต้องเลือก แต่ยังไงก็จะไม่ทิ้งการเรียนแน่นอนค่ะ ทำควบคู่กันไปทั้งกีฬาและการเรียนค่ะ

• ฟังว่า อนาคตเราอยากจะมีติดทีมชาติ
แบมไม่เคยคิดว่าจะต้องติดทีมชาติตอนอายุเท่าไหร่ เราก็แค่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องติดทีมชาติให้ได้ ก็ต้องพยายาม ต้องทำให้ได้ค่ะ แบมอยากติดทีมชาติเพราะอยากเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่และตอบแทนพระคุณคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แต่ก็ต้องดูกันต่อไปค่ะ เพราะต้องดูตอนโตด้วยว่าแบมจะพัฒนาได้มากน้อยแค่ไหน (ยิ้ม)
• ท้ายนี้ ถ้ามีคนเห็นเราเป็นไอดอลแล้วสนใจอยากเริ่มเล่นวอลเลย์บอลแบบเราบ้าง ต้องเริ่มต้นยังไง มีทักษะอะไรบ้าง หรือมีเคล็ดลับอย่างไรสำหรับมือใหม่บ้างคะ
ต้องเริ่มจากใจเราก่อนค่ะ ถ้าเรารักวอลเลย์บอล เราก็สามารถที่จะเล่นต่อได้ดี ถ้าเราชอบ ถ้าใจเรารักจริง เราเหนื่อย เราก็ต้องอดทนได้ แต่บางคนใจไม่รัก เหนื่อยนิดเดียวก็เกิดความท้อแท้ ก็เลิกเล่นไป อย่างแบมคือรักกีฬาวอลเลย์บอลแล้วค่ะ ไม่เหนื่อยแล้วค่ะ รักเกินร้อยไปแล้ว (ยิ้ม) ซึ่งแบมก็มีพี่อรอุมา สิทธิรักษ์ และ พี่บีม พิมพิชยา ก๊กรัมย์ เป็นไอดอล แบมชอบมากๆ เพราะพี่เขาเล่นดีมากๆ ค่ะ (ยิ้ม)

เรื่อง : วรัญญา งามขำ และ สุนิสา ศรีสุข
ภาพ : จิรโชค พันทวี
เปิดชีวิต เปิดความคิดความอ่าน หลากหลายแง่มุม... “แบม-จิดาภา นาหัวหนอง” สาวน้อยวัย 14 ที่ชื่นชอบกีฬาวอลเลย์บอลมาตั้งแต่ชั้นประถม กอบโกยรางวัลมามากมาย จนสามารถสานฝันความชอบดังกล่าวได้เข้ามาอยู่ในสังกัดสโมสร 3BB นครนนท์ และรับตำแหน่งลิเบอโร่หรือมือรับอิสระของทีม ซึ่งความฝันสูงสุดของเธอนั่นก็คือการได้ติดทีมชาติ...
• ตอนนี้ น้องแบมเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลที่ดังมากเลยในสื่อโซเชียล
รู้สึกเกร็งเลยค่ะ เพราะไม่เคยคิดว่าแบมจะดังขนาดนี้ (หัวเราะ)
• น้องแบมเริ่มเล่นวอลเลย์บอลมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
ตั้งแต่ชั้น ป.1 ค่ะ ตอนนั้นอายุเจ็ดขวบ เห็นพี่สาวเล่น เลยอยากเล่นตาม ตั้งแต่นั้นก็เล่นมาตลอด แบมชอบกีฬาวอลเลย์บอลเพราะคิดว่าเป็นกีฬาที่เหมาะสมกับเราที่สุดแล้ว แต่กีฬาประเภทอื่น เราก็เคยเล่นมานะคะ อย่างตอนกีฬาสีของโรงเรียนก็เล่นตะกร้อ แฮนด์บอล แต่ยังไงก็ชอบกีฬาวอลเลย์บอลที่สุดแล้ว
อีกอย่าง ความชอบนี้มาจากความนิยมที่หมู่บ้านที่เป็นบ้านเกิดหนูที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เขาจะสนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอล แต่จะสนับสนุนถึงแค่ ป.6 เพราะว่าหลังจากนั้นจะเน้นที่การเรียนหนังสือมากกว่า พอจบ ป.6 เขาก็จะให้เรียนต่ออย่างเดียว จะไม่ให้เล่นกีฬาแล้ว แต่สำหรับแบม พอจบ ป.6 มา แบมก็เลือกที่จะเอาดีทางด้านกีฬา ซึ่งหลังๆ มานี้ทางหมู่บ้านก็เริ่มสนับสนุน เหมือนแบมเป็นตัวแทนของหมู่บ้านไปเลยค่ะ (ยิ้ม)
ขณะที่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยบังคับให้แบมเล่นเลยนะคะ แต่มาจากที่เราชอบเองล้วนๆ เลย พอเราชอบ พ่อแม่ก็สนับสนุนเต็มที่ ส่งให้ไปเรียนพิเศษ ตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาเล่นกีฬาด้วยซ้ำ เพราะก่อนหน้านี้ คุณพ่อคุณแม่จะส่งเสริมแบมไปทางด้านการเรียนหนังสือมากกว่า แต่พอท่านมาทราบว่าแบมชอบกีฬา ท่านก็ไม่ห้าม ไม่ขัดขวางอะไรเลยค่ะ สนับสนุน ไปรับไปส่ง ไปดูแบมฝึกซ้อมด้วยเลย (ยิ้ม)
• เห็นว่าตอนนี้สังกัดกับสโมสร 3BB นครนนท์ ไม่ทราบว่าเราเข้ามาอยู่ในสังกัดนี้ได้อย่างไร แล้วเล่นในตำแหน่งไหนคะ
แบมมาอยู่สังกัดนี้ได้เพราะโค้ชเอ็ม - ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต อินเลี้ยง โค้ชทีม ร.ร.กีฬานครนนท์วิทยา 6 นครนนทบุรี ได้เข้ามาเจอแบมในรายการวิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอล ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วก็มีครูฐาปไพพรรณ ไชยศรี เขาติดต่อให้อีกที ซึ่งแบมก็อยากมาด้วย ก็เลยมาค่ะ
ส่วนตำแหน่งที่แบมถนัดและทำได้ดีที่สุดในสนาม ก็จะเป็นมือรับอิสระค่ะ ซึ่งตั้งแต่ ป.1 แบมจะเล่นบอลหัวเสามาก่อน แต่พอได้ย้ายมาอยู่กับโค้ชเอ็ม ก็ได้มาปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้อยู่ตำแหน่งลิเบอโร่หรือมือรับอิสระแทนค่ะ แบมคิดว่าตำแหน่งนี้เหมาะกับแบมที่สุดแล้วนะคะ เพราะให้ไปตีคงไม่ได้ แบมเป็นคนตัวเล็กด้วย (ยิ้ม)
• จากที่เราเริ่มเล่นมาตั้งแต่ชั้นประถม ตอนนั้นเราได้ไปลงสนามแข่งบ้างไหมคะ
ส่วนใหญ่ แบมจะเล่นให้ทีมโรงเรียน แข่งกีฬาของจังหวัดอยู่บ่อยๆ ค่ะ ตอนนั้นแบมได้ครูบุญเชียร อรรคนันท์ เป็นผู้ฝึกสอนให้ในตำแหน่งมือเซตและส่งลงแข่งกีฬา สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) พอ ป.3 แบมก็ได้แข่งขันระดับประเทศ ป.4 ไปได้แข่งรายการวิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอลที่จังหวัดสระบุรี ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ได้อันดับที่สี่ของระดับประเทศมาค่ะ ตอน ป.5 แบมได้ไปร่วมทีมกับโรงเรียนขอนแก่น อันนี้ได้อันดับที่สามมา แล้วพอ ป.6 แบมก็ได้เป็นกัปตันทีมที่ “โรงเรียนเก่าน้อยโนนรังวิทยาเสริม” ไปแข่ง ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ประเทศไทย ในรายการวิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอล ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้อันดับสองมาค่ะ
ส่วนตอนสังกัด 3BB นครนนท์ก็ได้รางวัลมาเยอะเลยค่ะ แต่เราก็เคยแพ้นะคะ แบมก็คิดว่าไม่เป็นไร เราทำเต็มที่แล้ว ไม่ได้เสียใจอะไร (ยิ้ม)
• ได้รางวัลมาเยอะแสดงว่าเราต้องฝึกฝนเป็นกิจวัตร ถามถึงเรื่องการฝึกฝนหน่อยค่ะ ทุกวันนี้เราต้องซ้อมอย่างไรบ้างในแต่ละวัน
โค้ชจะให้วิ่งค่ะ ส่วนมากตอนเช้าจะเน้นการวิ่งจับเวลาเพื่อดูกำลังและฝึกสภาพร่างกาย ส่วนตอนเย็นจะเป็นการเล่นบอลเพื่อฝึกทักษะ ทุกวันนี้แบมต้องฝึกทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ จะได้หยุดซ้อมเฉพาะวันจันทร์ ส่วนเสาร์อาทิตย์ เราจะต้องซ้อมหกโมงครึ่งถึงเก้าโมง ถ้าวันธรรมดาก็จะลงซ้อมตอนตีห้าถึงหกโมง ซ้อมเสร็จก็มาอาบน้ำ ทานข้าวไปโรงเรียน และช่วงเย็น กลับมาจากโรงเรียน ก็จะต้องซ้อมตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสองทุ่ม เสร็จแล้วก็จะมาทานข้าว ประมาณสามทุ่มก็ต้องรีบอาบน้ำ เข้านอน บางวันก็จะมีทำการบ้านบ้าง ซึ่งแบมว่าเอาจริงๆ ซ้อมหนักนะคะ เพราะตกวันละหกชั่วโมงเลย (ยิ้ม)
ส่วนเรื่องอาหาร เราต้องก็ต้องทานทานนมเยอะๆ ค่ะ โค้ชจะแช่นมไว้ให้เยอะมาก ทานแทนน้ำก็ได้ ไม่มีกำหนดค่ะว่าวันนี้จะต้องทานโปรตีนเท่าไหร่ แบมจะทานนมวันละสามถุง แล้วก็ทานอาหารในโรงเรียน และฝึกตามที่เขาให้ฝึกค่ะ
• อยู่กับกีฬาประเภทนี้มาตั้งแต่เด็ก สำหรับแบมแล้ว อะไรคือหัวใจของการเล่นกีฬาประเภทนี้คะ
ต้องมีความอดทนค่ะ เพราะต้องฝึกฝนเยอะ มีกฎระเบียบเยอะ อีกอย่างเราต้องขยัน ตั้งใจซ้อม เชื่อฟังโค้ชมากๆ ค่ะ ส่วนตัวแบมก็มีท้อแท้บ้างนะคะ แต่เราก็อดทนได้ค่ะ
• มีกรอบกติกาค่อนข้างเป๊ะแบบนี้ เราแบ่งเวลาในชีวิตอย่างไร
ถึงเวลาซ้อมก็ต้องเต็มที่ พอซ้อมเสร็จเราก็ต้องตามงาน ตามการบ้านของเรา ก็มีบ้างนะคะที่กลัวตามงานไม่ทัน แต่เกรดเฉลี่ยก็ดีอยู่ค่ะ การเรียนไม่ตกลงเลยนะคะ ซึ่งแบมก็เรียนได้ปกติดี
• เคยมีนอกลู่นอกทางบ้างไหมคะ เพราะเราก็เป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง
แบมไม่ได้วางตัวหรือเตือนตัวเองอะไรเลยค่ะ แบมจะคบเพื่อนได้หมด ได้ปกติเลยค่ะ แค่เราทำตามกฎระเบียบของโรงเรียนก็พอ อย่างกฎของที่ 3BB นครนนท์ จะห้ามมีแฟน ห้ามใช้โทรศัพท์ สองอย่างนี้จะเคร่งมาก แต่แบมไม่คิดว่าโดนบังคับนะคะ แบมทำตามทำได้ค่ะ ซึ่งถ้าอยู่ในสังกัด ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ห้ามมีแฟนและใช้โทรศัพท์เด็ดขาด โค้ชจะค่อนข้างเข้มงวดมาก เพราะว่าการมีแฟนจะทำให้เสีย แต่วัยรุ่นสมัยนี้ก็ต้องมีกันบ้าง แค่อย่าเยอะเกินไป จะทำให้เสียสมาธิในการฝึกซ้อม บางคนอาจจะมีหลงผิด ก็จะทำให้หมดอนาคตได้ค่ะ
อย่างการใช้โทรศัพท์ ถ้าได้เล่นก็จะกลายเป็นว่าเล่นแต่โทรศัพท์ ถ้าเด็กคนไหนแอบทำแล้วครูจับได้จะถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ครูจะไม่มีพิจารณาอะไรเลยค่ะ จะส่งกลับบ้านไปเลย แต่ถ้าเป็นความผิดแบบให้อภัยได้ ครูจะมีการให้โอกาสแก้ไขปรับตัวได้ทั้งหมดสามครั้ง ถ้ามีครั้งที่สี่ ต้องส่งกลับทันที อย่างถ้าขออนุญาตออกไปข้างนอก เช่น ไปซื้อของ ครูเขาก็จะจับเวลา แต่ครูก็จะไม่ได้ห้ามไปเสียทีเดียว แต่เราต้องอยู่ในขอบเขต เพื่อนผู้ชายก็มีได้ คบได้ค่ะ แต่แค่อย่ามากเกินไป
แบมอยู่ที่นี่มาได้หนึ่งปีแล้ว ก็ไม่เคยนอกลู่นอกทางนะคะ เพราะว่าแบมชอบและรักที่จะอยู่ตรงนี้แล้ว เป็นความฝันของแบมแล้ว ถึงเขาจะห้าม มีกฎระเบียบเยอะแยะมากมายแค่ไหน แบมก็สามารถทำตามกฎระเบียบได้ แบมไม่ได้คิดที่จะอยากออกไปเที่ยวเล่นอิสระ คือแบมมีความสุขที่ทำอยู่ตอนนี้ แบมจะไม่มีงอแงนะคะ แต่ก็อาจจะมีแอบบ่นบ้างว่าไม่อยากซ้อมเลย (หัวเราะ)
• คือไม่ได้คิดว่าเราสูญเสียอะไรไปในวันเวลาวัยรุ่น
ชีวิตแบมจะธรรมดาปกติค่ะ เพราะว่าพวกหนูไม่ค่อยได้เข้าสู่โลกโซเชียลอยู่แล้ว โทรศัพท์ไม่มีใช้ เหมือนเราใช้ชีวิตแบบเด็กอยู่ ที่วันหนึ่งจะต้องทานข้าว หลับนอนเป็นเวลา แต่แบมก็ไม่ได้รู้สึกเครียด ไม่เคยคิดเลยค่ะว่าอยากจะออกไปเที่ยว เพราะยังไงก็ออกไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่แบมก็มีเวลาให้ตัวเองนะคะ อย่างซ้อมเสร็จแล้ว เราก็ทำอะไรตามใจที่ชอบเลย ส่วนใหญ่แบมจะดูโทรทัศน์ เพราะว่าเราไม่มีโทรศัพท์ ก็จะใช้เวลาพัก ผ่อนคลายปกติค่ะ วันหยุดก็คือหยุดพักผ่อนเลย จะไม่ได้ซ้อมหรือทำอะไร
• นอกจากกีฬา เรามีความคาดหวังในเส้นทางการศึกษาอย่างไรบ้างคะ
ถ้าเรื่องการศึกษา แบมอยากจะเภสัชกรค่ะ อยากเป็นตั้งแต่ก่อนที่จะเป็นนักกีฬาแล้ว ตอนเด็ก แบมเคยพูดกับคุณแม่ว่าอยากเป็นแอร์โฮสเตสกับเภสัชกร และจะทำให้ได้ จะเป็นให้ได้ แต่ต้องดูก่อนค่ะว่าพอขึ้นมัธยมปลาย เราจะเรียนสายวิทย์คณิตได้หรือเปล่า ถ้าเกรดเฉลี่ยถึง สมองเราได้ แบมก็โอเคค่ะ
เภสัชกรเป็นความฝันสูงสุดเลยนะคะ แต่ถ้าสายกีฬายังไปได้ดีอยู่ ก็ไปทางนี้ แบมอยากไปทางสายกีฬาด้วยค่ะ ซึ่งถ้าเราเก่งขึ้นเรื่อยๆ มีความพัฒนา ได้ติดทีมชาติ แบมก็คงจะต้องเลือก แต่ยังไงก็จะไม่ทิ้งการเรียนแน่นอนค่ะ ทำควบคู่กันไปทั้งกีฬาและการเรียนค่ะ
• ฟังว่า อนาคตเราอยากจะมีติดทีมชาติ
แบมไม่เคยคิดว่าจะต้องติดทีมชาติตอนอายุเท่าไหร่ เราก็แค่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องติดทีมชาติให้ได้ ก็ต้องพยายาม ต้องทำให้ได้ค่ะ แบมอยากติดทีมชาติเพราะอยากเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่และตอบแทนพระคุณคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แต่ก็ต้องดูกันต่อไปค่ะ เพราะต้องดูตอนโตด้วยว่าแบมจะพัฒนาได้มากน้อยแค่ไหน (ยิ้ม)
• ท้ายนี้ ถ้ามีคนเห็นเราเป็นไอดอลแล้วสนใจอยากเริ่มเล่นวอลเลย์บอลแบบเราบ้าง ต้องเริ่มต้นยังไง มีทักษะอะไรบ้าง หรือมีเคล็ดลับอย่างไรสำหรับมือใหม่บ้างคะ
ต้องเริ่มจากใจเราก่อนค่ะ ถ้าเรารักวอลเลย์บอล เราก็สามารถที่จะเล่นต่อได้ดี ถ้าเราชอบ ถ้าใจเรารักจริง เราเหนื่อย เราก็ต้องอดทนได้ แต่บางคนใจไม่รัก เหนื่อยนิดเดียวก็เกิดความท้อแท้ ก็เลิกเล่นไป อย่างแบมคือรักกีฬาวอลเลย์บอลแล้วค่ะ ไม่เหนื่อยแล้วค่ะ รักเกินร้อยไปแล้ว (ยิ้ม) ซึ่งแบมก็มีพี่อรอุมา สิทธิรักษ์ และ พี่บีม พิมพิชยา ก๊กรัมย์ เป็นไอดอล แบมชอบมากๆ เพราะพี่เขาเล่นดีมากๆ ค่ะ (ยิ้ม)
Profile ชื่อ สกุล : ด.ญ. จิดาภา นาหัวหนอง ชื่อเล่น : แบม วันเกิด : 22 กุมภาพันธ์ 2545 อายุ : 14 ปี การศึกษา : ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 โรงเรียนกีฬานครนนท์วิทยา 6 นครนนทบุรี |
เรื่อง : วรัญญา งามขำ และ สุนิสา ศรีสุข
ภาพ : จิรโชค พันทวี