xs
xsm
sm
md
lg

คุยข้ามแม่น้ำโขง..“พุดทะสอน สีดาวัน” แม่หญิงลาวผู้น่ารัก จากอ้อมกอดเขมราฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เธอคือหนึ่งในเน็ตไอดอลของประเทศลาว ที่มีผู้ติดตามอยู่พอสมควร และกำลังมีผลงานทางการแสดงอย่างเป็นทางการ ที่พร้อมเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามของบ้านเกิดผ่านทางแผ่นฟิล์ม เธอคือ “พุดทะสอน สิดาวัน”

จากเด็กน้อยขี้อายที่ติดตามละครและสื่อบันเทิงไทยผ่านทางโทรทัศน์มาตั้งแต่เด็ก จนมีความคิดที่จะเข้าวงการเพื่อที่จะขจัดความเหนียมอายนั้นออกไป จนได้เข้ามาสู่การแสดงครั้งแรก ในภาพยนตร์เรื่องใหม่ ‘อ้อมกอดเขมราฐ’ อีกหนึ่งผลงานร่วมกัน ระหว่างสองฝั่งโขง ที่กำลังจะลงโรงให้พิสูจน์กันในเร็วๆ นี้

• อยากให้ช่วยอธิบายถึงบทบาทที่ได้รับคร่าวๆ หน่อยครับ

ในเรื่องรับบทเป็น “พิมมณี” สาวลาวที่ข้ามมาทำงานที่เขมราฐ เพื่อส่งเงินไปให้พ่อแม่ หลังจากข้ามมาแล้วก็มาขายของกับป้าที่เป็นญาติห่างๆ ซึ่งขายมาเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็ได้มาพบกับพ่อค้าที่เอาผักมาส่ง ซึ่งต่อมาก็มีความรู้สึกผูกพัน จนได้พัฒนาจากความรู้จักมาเป็นความรักทีละนิดๆ แล้วพระเอกก็พาไปสถานที่ต่างๆ

• ในการทำงานครั้งนี้ คิดว่าส่วนไหนที่ยากที่สุดครับ

ส่วนที่ยากที่สุดในการเล่นหนังเรื่องนี้ก็คือ ในฉากที่มีการนั่งเรือข้ามมาที่เขมราฐ แล้วนั่งข้ามไปอีกครั้งเพื่อที่จะกลับไปที่บ้าน เพราะเราว่ายน้ำไม่เป็น แถมยังกลัวอีกต่างหาก แต่เราก็เป็นคนที่ชอบเล่นน้ำนะ ซึ่งเราก็คอยบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรหรอก ถ้าตกน้ำ เดี๋ยวก็มีคนช่วยเองแหละ มีทีมงาน มีเสื้อชูชีพอยู่ข้างๆ แล้วเราก็ภาวนาด้วยว่า ไม่ตกๆๆ (ยิ้ม)

• คุณเริ่มสนใจในการแสดงมาตั้งแต่เมื่อไหร่

ตอนเด็กๆ เราเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก แต่จะชอบดูหนังดูละคร คือเวลาที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัว เราก็จะชอบดูละครเวลาที่ฉากที่นางเอกถูกรังแก ก็จะมีฉากที่น้ำมูกน้ำตาไหล คือก็ได้รับอิทธิพลจากทีวีเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เราชอบดูการ์ตูน มันสนุกดี แล้วอีกอย่าง ภาษาไทยกับภาษาลาวก็มีความใกล้เคียงกัน เราก็พอฟังเข้าใจด้วย ซึ่งต่อมา เราก็มีความอยากที่จะทำงานในวงการบันเทิง และก็มีความคิดที่ว่า ต้องไม่อาย คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน

ตอนที่ได้ไปร่วมแสดงละคร “เพลงผ้าฟ้าล้อมดาว” ที่เวียงจันทน์ เราได้นุ่งซิ่น นุ่งผ้าไหม ได้แต่งตัวงามๆ ไป ก็เป็นแบบธรรมชาติเลย แล้วรู้สึกว่าชอบมากๆ แล้วอยากเป็นคนงามๆ นะ ก็เลยบอกกับแม่ว่าอยากเป็นนักแสดง มาตั้งแต่ตอนนั้น

• พอบอกกับทางบ้านแล้ว พวกเขาว่ายังไงบ้าง

แม่ก็บอกว่า ตามใจลูกเลย ลูกอยากทำอะไรก็แล้วแต่เลย แต่อย่าทิ้งการเรียน เพราะอาชีพนี้มันมีเวลาของมัน แต่การเรียนจะอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต ท่านก็อยากให้เราเรียน คือโดยส่วนตัว เราก็ชอบเป็นคนดูหนังดูละครอยู่แล้ว เลยอยากที่จะไปเป็นคนแสดงดูบ้าง (ยิ้ม)

• เมื่อทุกอย่างโอเคหมดแล้ว คุณเดินหน้าเข้าสู่วงการยังไง

พอดีทางบริษัท ลาวแอนด์มีเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ได้ประกาศตามหานักแสดง เราก็เข้าไปสมัคร แต่บังเอิญว่าตอนนั้น จบ ม.6 และกำลังจะขึ้น ม.7 (ชั้นปีสูงสุดของระดับมัธยมศึกษาของประเทศลาว) พอดี เลยไม่ได้แสดง เพราะว่าต้องเอาการเรียนก่อน ต่อมาก็มีมิวสิกวิดีโอและงานเดินแบบ จากนั้นก็มีงานมาเรื่อยๆ มีงานพิธีกรเข้ามา ตอนนั้นยังไม่ค่อยกล้าพูดเท่าไหร่ แต่ก็ลองดู ก็คือทำอยู่ในวงการที่ลาวมาตลอด

ต่อมาก็มีพี่คนหนึ่งที่เห็นการประกาศหานักแสดงเรื่องนี้ ให้ไปแคสติ้งดู ซึ่งบทที่เขาให้มาก็ตรงกับตัวเองพอดี แต่ก็ยังไม่ได้แคสต์ถึงที่นะคะ อาศัยว่าถ่ายคลิปตัวเองที่แสดงเกี่ยวกับบทส่งไป ซึ่งเราก็แคสต์ตามที่เขาบอก จนเวลาก็ผ่านไปนานเหมือนกัน ทางทีมงานก็บอกว่าให้ไปที่เขมราฐ เราก็ข้ามฝั่งไป จนทางทีมงานก็ลองให้แคสติ้งอีกที ในที่สุดเขาก็บอกว่าได้แสดงแล้วนะ เขาก็ส่งบทมาให้ไปอ่าน จากนั้นก็กลับไปอ่านและทำความเข้าใจกับตัวละครตัวนี้

• ก่อนหน้านี้ คุณเคยมีงานแสดงมาก่อนมั้ย

เคยมีแค่แสดงเป็นตัวประกอบ ไม่มีบทพูดเท่าไหร่ ซึ่งแตกต่างกับหนังเรื่องนี้ที่จะมีบทพูดมากขึ้น แล้วก็ได้ทำกิจกรรมในเรื่องที่หลากหลายขึ้นกับมีบทบาทมากขึ้นกว่าเก่า และการแสดงในเรื่องนี้ถือว่าโอเคเลยค่ะ เพราะว่าเราก็พูดภาษาลาวอยู่แล้ว แล้วสถานที่ถ่ายทำก็อยู่ที่เขมราฐซึ่งใกล้กับลาวเลย คำพูดหรือภาษาที่ใช้ก็ใกล้เคียงกัน ซึ่งถือว่าไม่ได้ยากเลย แถมเพื่อนร่วมงานและนักแสดงทุกคน ได้บอก ได้สอนเราในเรื่องการแสดงกับเรา ก็ทำให้ได้ความรู้สึกในการแสดงด้วยค่ะ เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยยากเท่าไหร่

• วงการบันเทิงลาวในปัจจุบันนี้ เป็นยังไงบ้าง

คือประเทศลาวก็เพิ่งเริ่มพัฒนานะคะ แตกต่างจากไทยเลย แล้วอีกอย่าง ในเรื่องของภาพยนตร์และอื่นๆ ประเทศลาวก็เพิ่งตั้งไข่มาได้ไม่นาน แต่ในแง่ของความนิยมของประชาชนก็ถือว่าตอบรับดีอยู่ แต่เราก็ถือว่าโกอินเตอร์มาหลายเรื่องเหมือนกันนะคะ (ยิ้ม) และนักแสดงหลายคนก็เริ่มมีการพัฒนาแล้ว อีกทั้งผู้กำกับก็มีการพัฒนาหลายขึ้น เลยทำให้เริ่มมีทางเลือกมากขึ้น จนหนังในประเทศเริ่มมีความหลากหลายแล้ว ก็รู้สึกดีใจนะคะที่ได้ไปแสดงหนังเรื่องนี้ แล้วการทำงานกับหนังเรื่องนี้ก็นำมาใช้ในการทำงานอยู่บ้างด้วย

• ระบบการทำงานแตกต่างกันไหม ระหว่างไทยกับลาว

หนูว่ามันคล้ายๆ กันนะคะ ซึ่งรู้สึกดีใจ เพราะว่ารับบทเป็นสาวลาว เป็นคนที่มีความกตัญญูนะ เพราะตัวละครได้ทำงานแล้วส่งเงินไปให้พ่อแม่ และหนังเรื่องนี้ก็มีความอบอุ่น แถมยังมีประเพณีและวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกับประเทศลาว และธรรมชาติดีมาก อีกอย่างทางทีมงานของหนังเรื่องนี้ก็มีความน่ารักด้วยค่ะ ให้ความเป็นกันเอง อยู่กันแบบครอบครัว คือเวลาที่เราเตรียมตัวที่จะเล่น ก็มีความตื่นเต้นตลอดเวลา แต่พอเสร็จสิ้นการถ่ายทำก็มีความรู้สึกที่ใจหายเหมือนกัน ตอนนี้นี่คือคิดถึงบรรยากาศกองถ่าย คิดถึงเพื่อนร่วมงานทุกคนเลย และรู้สึกดีใจที่ได้ทำงานนี้

• จากการทำงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา คิดว่าได้ให้อะไรกับเราบ้างครับ

สำหรับหนังเรื่องนี้ เราก็ได้แสดงวัฒนธรรมบางอย่างไป คือเป็นคนลาว และได้แสดงถึงความเป็นคนลาวของเรา แต่สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ คือประสบการณ์ค่ะเพราะว่าเรายังไม่เคยมีการแสดงแบบจริงๆ จังๆ เลย ทั้งในเรื่องความรู้สึกในตัวละคร ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจในตัวละครมากๆ เลย ถึงจะเล่นได้เข้าถึงบทบาทค่ะ





เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : ภาพจาก Facebook S'norng Sidavanh

กำลังโหลดความคิดเห็น