ก้าวข้ามคำดูถูก ปลูกรักในเสียงพิณ ดนตรีท้องถิ่นอีสานจนเชี่ยวชาญในลายเพลง ก่อนบรรเลงลงคลิปแล้วอัปขึ้นยูทูป ขับกล่อมคนคลิกที่มากถึงหลักล้าน เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับดนตรีพื้นบ้าน พูดได้ว่า ณ นาทีนี้ “อรณิชา เสมามิ่งชัย” เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่อีสานพันธุ์แท้นิยมชมชอบ
(แม้คลิปนี้จะดูบ้านๆ อัดแบบง่ายๆ แต่พลังแห่งพิณของเธอนั้น สะท้านสะเทือน)
...กลายเป็นกระแสแชร์ส่งความม่วนซื่นในโลกโซเชียล ที่ขยายความนิยมไปไม่เพียงในหมู่ชนคนอีสาน แม้กระทั่งคนที่ฟังภาษาอีสานไม่เข้าใจ เมื่อได้สดับเสียงพิณอันดีดโดยสาวซำน้อยผู้นี้ ก็ด่ำดื่มซึมซับไปในอารมณ์พิณที่สอดประสานอารมณ์เพลงได้อย่างไพเราะม่วนซื่น จนอยากลุกขึ้นฟ้อน เซิ้งไปในเสียงพิณ
“มือพิณสาวขั้นเทพ”
“มือพิณสาวพิฆาต”
หรือแม้กระทั่ง “มือพิณสะออน”
เหล่านี้คือสมัญญาที่บรรดาผู้ฟังมอบให้แก่ “อร-อรณิชา เสมามิ่งชัย” สาวน้อยวัย 17 ปี จากจังหวัดอำนาจเจริญ ผู้ที่แม้แต่นักร้องลูกทุ่งชื่อดังอย่าง “เอิ้นขวัญ วรัญญา” ยังเอ่ยปากชม “อรณิชาน้องทองไทมือพิณ โคตรเก่ง”
จากเด็กผู้หญิงที่เคยคิดกระทั่งว่าวันหนึ่งข้างหน้า ชีวิตตนคงจบลงตรงการเป็นขอทาน เพราะความยากจนที่บีบบังคับ แต่วันหนึ่ง เหมือนฟ้าดินหยิบจับเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “พิณ” ส่งให้ในมือเธอ ก็ประหนึ่งได้เจอโลกใบใหม่ และจนถึงตอนนี้ โด่งดังเป็นดาวดวงหนึ่งซึ่งกำลังทอแสงสว่างไสวในหมู่คนที่รักชอบดนตรีอีสาน ขณะทำงานประจำอยู่วงดนตรีหมอลำ “ทองไทวาทศิลป์”...
• จุดแรกแห่งความรักชอบผูกพันกับเสียงพิณ
เพราะว่าบรรพบุรุษปู่ย่าตายายท่านเป็นนักดนตรี เป็นหมอลำมาก่อนค่ะ แล้วช่วงที่แม่ย้ายจากกรุงเทพฯ กลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดอำนาจเจริญ อรเรียนหนังสืออยู่ประมาณ ป.4 ตอนนั้น เป็นช่วงที่ยุคเศรษฐกิจไม่ดี ฟองสบู่แตก เรากลับมาบ้านก็ได้ดูเวลาท่านซ้อมหรือท่านไปเล่นตามงานต่างๆ ท่านก็พาเราไปด้วย หลังจากนั้นพอพวกพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันและเล่นดนตรีพวกนี้อยู่ เขาชวนไป เราก็ไปเป็นเพื่อนกับเขาตลอด ก็เกิดความผูกพันซึมซับ จนบังเอิญมีอาจารย์ฝึกสอนท่านหนึ่งได้เข้ามาสอนตามโรงเรียน รุ่นพี่และเพื่อนๆ ก็ชักชวนกันไปเรียนไปฝึก เราก็เริ่มเล่นพิณ แล้วเล่นไปเล่นมาก็รู้สึกสนุก ก็จึงชอบเรื่อยมา แต่ทีแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะได้เล่นเป็นอาชีพหรือมีชื่อเสียง และตอนนั้น ถึงจะเล่นพิณได้บ้างแต่ก็ยังไม่เก่ง แรกๆ ที่ร่วมวงกลองยาว เราก็จะเป็นมือฉาบก่อน เป็นอยู่ 2-3 ปี ถึงได้เล่นพิณในวง
• เราหัดเล่นหรือซ้อมอย่างไรบ้าง
ก็แทบทุกเวลาค่ะ อย่างตอนเช้าตื่นขึ้นมาตี 5 ก็มาซ้อมก่อนอาบน้ำไปโรงเรียน แล้วพอหลังเลิกเรียนทำการบ้านเสร็จก็มาอยู่กับพิณจนถึงตี 2-3 บางวันซ้อมจนมือแตก เลือดออก เป็นอย่างนี้ทุกวัน เพราะว่าการเล่นพิณต้องเริ่มจากการฟังบ่อยๆ ลองแกะดู ตัวไหนยังไม่ได้ก็ฟังไปเรื่อยๆ ฟังซ้ำๆ อยู่ตรงนั้นจนกว่าจะเล่นได้ พิณก็มีการจับคอร์ดเหมือนกีตาร์หมด แต่พิณจะมีสายน้อยกว่า จริงๆ กีตาร์ก็เคยหัดเล่นแต่เล่นไม่ได้ (หัวเราะ) อย่างกีตาร์จะมีให้ดูคัฟเวอร์ในเว็บไซต์ยูทูป แต่พิณไม่ค่อยมีและสิ่งที่ยากที่สุดคือลายเสียงโบราณ ลายเสียงที่ผู้เฒ่าผู้แก่ปรมาจารย์เขาเล่น บางทีเราก็ไม่ค่อยได้ฟังเพราะหาฟังยาก ลายโบราณจะเป็นลายที่เล่าเรื่องประวัติเป็นร้อยๆ ปี
สรุปแล้ว วันวันหนึ่งก็ใช้เวลาอยู่กับพิณแทบทั้งวันค่ะ แกะเพลงหนึ่งก็ครึ่งวันเข้าไปแล้ว ก็ซ้อมอยู่อย่างนั้นจนอาจารย์เขาเห็น เขาก็ส่งเข้าประกวดประดับโรงเรียน ระดับภาค ก็ชนะบ้างแพ้บ้าง ประมาณ 10 กว่างาน ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะว่าไม่ได้อยู่สายประกวด เนื่องจากถ้าครูไม่จับไปก็ไม่ประกวด เราก็ไม่รู้ข่าวสาร แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้าไปต่างจังหวัด เวลาจะไป เราก็ไม่มีใครพาไป ไม่มีงบ ก็ไม่ได้ไป ก็มุ่งมาสายอาชีพเอา แล้วตอนั้นเราก็ชอบโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจ เลยมีโอกาสได้รู้จักกับพี่ทองไท 'ทองไทวาทะศิลป์' เราก็ติดตามผลงานเขา ก็ถูกชะตากัน ก็นับถือเป็นพี่บุญธรรม ตอนหลังก็เลยได้ร่วมงานกันและเข้ามาอยู่จนปัจจุบันนี้ค่ะ
• ส่วนตัวคิดว่าเครื่องดนตรีพิณมีเสน่ห์อย่างไรในความรู้สึกของเรา
คือเวลาฟังเสียงพิณแล้ว เรารู้สึกว่าเพราะเท่านั้น คือพิณมีทั้งความหวาน ความเศร้า ความสุข ครบรสได้หมด หลากหลายในอารมณ์ของเสียงพิณ ซึ่งมันค่อนข้างจะเหมือนกับชีวิตเราด้วย เพราะว่าชีวิตเราลำบาก เรากำพร้าไม่มีพ่อ แล้วแม่ก็ป่วย ชีวิตไม่ค่อยสบาย ต้องอาศัยบ้านยายอยู่ ไม่มีรายได้ ต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง ส่งตัวเองเรียน ไหนจะค่ายาค่าหมอของแม่ ตอนนั้นก็โดนดูถูกสารพัด เวลาเศร้าเราก็อยู่กับพิณ เวลาเรามีความสุขเราก็อยู่คนเดียวตามประสา ก็ยิ้มอยู่กับพิณ บางคนเขาก็บอกว่าเป็นบ้าหรือเปล่า แต่ก็เพราะพิณตัวเดียวทำให้เราได้มีวันนี้ จากคนที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครรู้จักอะไรเลย และดูถูกเราสารพัด
ทุกวันนี้ ถ้าไม่มีพิณก็คิดว่าชีวิตคงเป็นคนขอทาน เพราะขนาดเรียนก็ต้องออกจากวิทยาลัยอำนาจเจริญกลางคัน คือเราไม่มีเงิน มีไปวันละ 60 บาท ค่ารถไปกลับ 40 เหลือกินวันละ 20 ก็เลยตัดสินใจหยุดเรียน ออกไม่บอกใครเลย แม้กระทั่งแม่ ตอนนั้นแรกๆ ก็ตัดสินใจว่าจะทำงานโรงงาน แต่พอดีพี่บุญธรรมเขาบอกว่าลองอีกครั้งหนึ่งไหม อย่าเพิ่งถอย เพราะว่าเราสู้กับพิณมา 4-5 ปีแล้ว ก็เลยเป็นเหตุผลให้ตัดสินใจลองวัดดวงอีกสักตั้ง โชคชะตาก็พลิกมาดีขึ้นนิดหนึ่ง มีเงินเลี้ยงตัวเอง ส่งให้แม่เดือนละพันสองพันบาท ช่วงก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต
เราก็เกิดจากอย่างนั้น พอเรามามีวันนี้ก็รู้สึกว่าภูมิใจ คือนอกจากตัวเองได้เจริญรอยตามแม่ที่ท่านเคยเป็นนักร้อง ใช้เสียงร้องเลี้ยงเรามาจนโต ในระหว่างที่เราก็ได้คลุกคลีกับผู้หลักผู้ใหญ่ก็ทำให้ได้ตามรอยวัฒนธรรมคนอีสาน ได้อนุรักษ์ ตอนนี้ก็เล่นเป็นเกือบหมดทุกชนิดของดนตรีพื้นบ้าน หวูดก็เล่นเป็น ระนาดเอก ฆ้องวง เป็นหมด ตามศิลปินที่ชื่นชอบคืออาจารย์โน ชานน ชินราช โปรดิวเซอร์ของแกรมมี่โกลด์ เขาเล่นพิณแล้วเป็นดนตรีทุกอย่างเกี่ยวกับอีสาน แล้วก็อาจารย์สิงเฒ่า ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก เราก็อยากเป็นอย่างนั้นบ้าง คือเรารู้สึกว่ามีความสุขเวลาเล่น แล้วเวลาออกงานก็จะมีคนเต้น รู้สึกว่าดีใจที่มีคนฟังแล้วบอกว่าเพราะ มีคนเต้นแล้วก็ยิ้มไป อันนี้ก็คือมีความสุข ความภูมิใจ
• เรากระโดดจากเล่นพิณวงมาโชว์เดี่ยวได้อย่างไร
ก็พอดีวันนั้นได้ทำซาวนด์ดนตรีอยู่ห้องอัดกับอาจารย์ที่จังหวัดอุบลฯ แล้ววันนั้นมันไม่มีอะไรทำ ก็เลยได้อัดคลิปลงเล่นๆ ตอนลองซาวนด์ ก็ไม่คิดว่าคนจะดูระดับล้านสองล้านคน ได้ลงเว็บไซต์ยูไลค์ ยูทูป คนแชร์เป็นหมื่น เพราะตอนนั้นแทบไม่มีใครปรากฏขึ้นเลย หลังจากนั้น งานก็เลยติดต่อเข้ามาเป็นงานโชว์เดี่ยวพิณ ก็เป็นจุดเริ่ม แล้วคนก็เริ่มตั้งฉายาให้ส่วนมาก เขาก็จะเรียก “มือพิณสะออน” แปลว่าคนดูคนชอบ สะออน ออนซ่อน ภาษาอีสาน
• อนาคตมีแผนออกอัลบัมหรือตั้งวงดนตรีไหม
ในเรื่องดนตรี ก็รอผู้สนับสุนนค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากลองมีผลงานของตัวเอง แต่ตอนนี้ก็มีงานติดต่อเข้ามา นอกจากทางโซนภาคอีกสานที่บ้าน ก็เคยมีทางภาคกลางเป็นงานประชุมสัมมนาระดับสูงของข้าราชการรวมถึงนักธุรกิจ จ้างให้เราไปโชว์เดี่ยวพิณ แล้วก็ออกรายการทางเคเบิลทีวี ส่วนงานจ้างอื่นๆ ก็ยังอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง งานกลองยาว งานวงก็ยังไปเหมือนเดิม ค่าตัวก็หลักเดิม 300-400 บาทต่องาน เล่นหมด งานแต่ง งานบวช งานแห่ผ้าป่า แห่กฐิน งานพื้นบ้าน
ส่วนเรื่องชีวิตตอนนี้ก็กลับไปเรียน กะจะเรียนให้จบ กศน. แล้ววางแผนจะเรียนต่อนิติศาสตร์ เผื่อไว้ช่วยเหลือคนที่ไม่รู้กฎหมาย ไม่อยากให้เป็นเหมือนตอนคดีของแม่ที่เสียชีวิตเพราะรถชน ถ้าเรามีความรู้ เราก็ช่วยเขาได้ แต่ก็จะทำทั้งสองอย่างควบคู่ไป ไม่ทิ้ง ก็จะสู้ต่อไป ก็ฝากขอบคุณทุกคนที่ติดตามผลงานและให้กำลังใจ ขอบคุณพี่ทองไทที่สอนทุกอย่าง ทั้งดนตรี เรื่องอยู่หน้าเวที เรื่องการอยู่กับผู้ใหญ่ การอยู่กับครูอาจารย์อยู่กับผู้ชม ไปจนถึงเรื่องการดำเนินชีวิต
มีงานการแสดงอยากติดต่อ ก็อย่าลืมคิดถึงทองไทวาทะศิลป์ วงหมอลำคลื่นลูกใหม่ แล้วก็ขอฝากเป็นแรงเชียร์แรงใจให้กับเด็กน้อยบ้านนอกคนนี้ที่ชื่อ อรณิชา เสมามิ่งชัย ด้วยเด้อค่ะ ขอบคุณหลายๆๆ ค่ะ (ยิ้ม)
เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : เฟซบุ๊ก อรณิชา เสมามิ่งชัย
(แม้คลิปนี้จะดูบ้านๆ อัดแบบง่ายๆ แต่พลังแห่งพิณของเธอนั้น สะท้านสะเทือน)
...กลายเป็นกระแสแชร์ส่งความม่วนซื่นในโลกโซเชียล ที่ขยายความนิยมไปไม่เพียงในหมู่ชนคนอีสาน แม้กระทั่งคนที่ฟังภาษาอีสานไม่เข้าใจ เมื่อได้สดับเสียงพิณอันดีดโดยสาวซำน้อยผู้นี้ ก็ด่ำดื่มซึมซับไปในอารมณ์พิณที่สอดประสานอารมณ์เพลงได้อย่างไพเราะม่วนซื่น จนอยากลุกขึ้นฟ้อน เซิ้งไปในเสียงพิณ
“มือพิณสาวขั้นเทพ”
“มือพิณสาวพิฆาต”
หรือแม้กระทั่ง “มือพิณสะออน”
เหล่านี้คือสมัญญาที่บรรดาผู้ฟังมอบให้แก่ “อร-อรณิชา เสมามิ่งชัย” สาวน้อยวัย 17 ปี จากจังหวัดอำนาจเจริญ ผู้ที่แม้แต่นักร้องลูกทุ่งชื่อดังอย่าง “เอิ้นขวัญ วรัญญา” ยังเอ่ยปากชม “อรณิชาน้องทองไทมือพิณ โคตรเก่ง”
จากเด็กผู้หญิงที่เคยคิดกระทั่งว่าวันหนึ่งข้างหน้า ชีวิตตนคงจบลงตรงการเป็นขอทาน เพราะความยากจนที่บีบบังคับ แต่วันหนึ่ง เหมือนฟ้าดินหยิบจับเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “พิณ” ส่งให้ในมือเธอ ก็ประหนึ่งได้เจอโลกใบใหม่ และจนถึงตอนนี้ โด่งดังเป็นดาวดวงหนึ่งซึ่งกำลังทอแสงสว่างไสวในหมู่คนที่รักชอบดนตรีอีสาน ขณะทำงานประจำอยู่วงดนตรีหมอลำ “ทองไทวาทศิลป์”...
• จุดแรกแห่งความรักชอบผูกพันกับเสียงพิณ
เพราะว่าบรรพบุรุษปู่ย่าตายายท่านเป็นนักดนตรี เป็นหมอลำมาก่อนค่ะ แล้วช่วงที่แม่ย้ายจากกรุงเทพฯ กลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดอำนาจเจริญ อรเรียนหนังสืออยู่ประมาณ ป.4 ตอนนั้น เป็นช่วงที่ยุคเศรษฐกิจไม่ดี ฟองสบู่แตก เรากลับมาบ้านก็ได้ดูเวลาท่านซ้อมหรือท่านไปเล่นตามงานต่างๆ ท่านก็พาเราไปด้วย หลังจากนั้นพอพวกพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันและเล่นดนตรีพวกนี้อยู่ เขาชวนไป เราก็ไปเป็นเพื่อนกับเขาตลอด ก็เกิดความผูกพันซึมซับ จนบังเอิญมีอาจารย์ฝึกสอนท่านหนึ่งได้เข้ามาสอนตามโรงเรียน รุ่นพี่และเพื่อนๆ ก็ชักชวนกันไปเรียนไปฝึก เราก็เริ่มเล่นพิณ แล้วเล่นไปเล่นมาก็รู้สึกสนุก ก็จึงชอบเรื่อยมา แต่ทีแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะได้เล่นเป็นอาชีพหรือมีชื่อเสียง และตอนนั้น ถึงจะเล่นพิณได้บ้างแต่ก็ยังไม่เก่ง แรกๆ ที่ร่วมวงกลองยาว เราก็จะเป็นมือฉาบก่อน เป็นอยู่ 2-3 ปี ถึงได้เล่นพิณในวง
• เราหัดเล่นหรือซ้อมอย่างไรบ้าง
ก็แทบทุกเวลาค่ะ อย่างตอนเช้าตื่นขึ้นมาตี 5 ก็มาซ้อมก่อนอาบน้ำไปโรงเรียน แล้วพอหลังเลิกเรียนทำการบ้านเสร็จก็มาอยู่กับพิณจนถึงตี 2-3 บางวันซ้อมจนมือแตก เลือดออก เป็นอย่างนี้ทุกวัน เพราะว่าการเล่นพิณต้องเริ่มจากการฟังบ่อยๆ ลองแกะดู ตัวไหนยังไม่ได้ก็ฟังไปเรื่อยๆ ฟังซ้ำๆ อยู่ตรงนั้นจนกว่าจะเล่นได้ พิณก็มีการจับคอร์ดเหมือนกีตาร์หมด แต่พิณจะมีสายน้อยกว่า จริงๆ กีตาร์ก็เคยหัดเล่นแต่เล่นไม่ได้ (หัวเราะ) อย่างกีตาร์จะมีให้ดูคัฟเวอร์ในเว็บไซต์ยูทูป แต่พิณไม่ค่อยมีและสิ่งที่ยากที่สุดคือลายเสียงโบราณ ลายเสียงที่ผู้เฒ่าผู้แก่ปรมาจารย์เขาเล่น บางทีเราก็ไม่ค่อยได้ฟังเพราะหาฟังยาก ลายโบราณจะเป็นลายที่เล่าเรื่องประวัติเป็นร้อยๆ ปี
สรุปแล้ว วันวันหนึ่งก็ใช้เวลาอยู่กับพิณแทบทั้งวันค่ะ แกะเพลงหนึ่งก็ครึ่งวันเข้าไปแล้ว ก็ซ้อมอยู่อย่างนั้นจนอาจารย์เขาเห็น เขาก็ส่งเข้าประกวดประดับโรงเรียน ระดับภาค ก็ชนะบ้างแพ้บ้าง ประมาณ 10 กว่างาน ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะว่าไม่ได้อยู่สายประกวด เนื่องจากถ้าครูไม่จับไปก็ไม่ประกวด เราก็ไม่รู้ข่าวสาร แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้าไปต่างจังหวัด เวลาจะไป เราก็ไม่มีใครพาไป ไม่มีงบ ก็ไม่ได้ไป ก็มุ่งมาสายอาชีพเอา แล้วตอนั้นเราก็ชอบโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจ เลยมีโอกาสได้รู้จักกับพี่ทองไท 'ทองไทวาทะศิลป์' เราก็ติดตามผลงานเขา ก็ถูกชะตากัน ก็นับถือเป็นพี่บุญธรรม ตอนหลังก็เลยได้ร่วมงานกันและเข้ามาอยู่จนปัจจุบันนี้ค่ะ
• ส่วนตัวคิดว่าเครื่องดนตรีพิณมีเสน่ห์อย่างไรในความรู้สึกของเรา
คือเวลาฟังเสียงพิณแล้ว เรารู้สึกว่าเพราะเท่านั้น คือพิณมีทั้งความหวาน ความเศร้า ความสุข ครบรสได้หมด หลากหลายในอารมณ์ของเสียงพิณ ซึ่งมันค่อนข้างจะเหมือนกับชีวิตเราด้วย เพราะว่าชีวิตเราลำบาก เรากำพร้าไม่มีพ่อ แล้วแม่ก็ป่วย ชีวิตไม่ค่อยสบาย ต้องอาศัยบ้านยายอยู่ ไม่มีรายได้ ต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง ส่งตัวเองเรียน ไหนจะค่ายาค่าหมอของแม่ ตอนนั้นก็โดนดูถูกสารพัด เวลาเศร้าเราก็อยู่กับพิณ เวลาเรามีความสุขเราก็อยู่คนเดียวตามประสา ก็ยิ้มอยู่กับพิณ บางคนเขาก็บอกว่าเป็นบ้าหรือเปล่า แต่ก็เพราะพิณตัวเดียวทำให้เราได้มีวันนี้ จากคนที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครรู้จักอะไรเลย และดูถูกเราสารพัด
ทุกวันนี้ ถ้าไม่มีพิณก็คิดว่าชีวิตคงเป็นคนขอทาน เพราะขนาดเรียนก็ต้องออกจากวิทยาลัยอำนาจเจริญกลางคัน คือเราไม่มีเงิน มีไปวันละ 60 บาท ค่ารถไปกลับ 40 เหลือกินวันละ 20 ก็เลยตัดสินใจหยุดเรียน ออกไม่บอกใครเลย แม้กระทั่งแม่ ตอนนั้นแรกๆ ก็ตัดสินใจว่าจะทำงานโรงงาน แต่พอดีพี่บุญธรรมเขาบอกว่าลองอีกครั้งหนึ่งไหม อย่าเพิ่งถอย เพราะว่าเราสู้กับพิณมา 4-5 ปีแล้ว ก็เลยเป็นเหตุผลให้ตัดสินใจลองวัดดวงอีกสักตั้ง โชคชะตาก็พลิกมาดีขึ้นนิดหนึ่ง มีเงินเลี้ยงตัวเอง ส่งให้แม่เดือนละพันสองพันบาท ช่วงก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต
เราก็เกิดจากอย่างนั้น พอเรามามีวันนี้ก็รู้สึกว่าภูมิใจ คือนอกจากตัวเองได้เจริญรอยตามแม่ที่ท่านเคยเป็นนักร้อง ใช้เสียงร้องเลี้ยงเรามาจนโต ในระหว่างที่เราก็ได้คลุกคลีกับผู้หลักผู้ใหญ่ก็ทำให้ได้ตามรอยวัฒนธรรมคนอีสาน ได้อนุรักษ์ ตอนนี้ก็เล่นเป็นเกือบหมดทุกชนิดของดนตรีพื้นบ้าน หวูดก็เล่นเป็น ระนาดเอก ฆ้องวง เป็นหมด ตามศิลปินที่ชื่นชอบคืออาจารย์โน ชานน ชินราช โปรดิวเซอร์ของแกรมมี่โกลด์ เขาเล่นพิณแล้วเป็นดนตรีทุกอย่างเกี่ยวกับอีสาน แล้วก็อาจารย์สิงเฒ่า ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก เราก็อยากเป็นอย่างนั้นบ้าง คือเรารู้สึกว่ามีความสุขเวลาเล่น แล้วเวลาออกงานก็จะมีคนเต้น รู้สึกว่าดีใจที่มีคนฟังแล้วบอกว่าเพราะ มีคนเต้นแล้วก็ยิ้มไป อันนี้ก็คือมีความสุข ความภูมิใจ
• เรากระโดดจากเล่นพิณวงมาโชว์เดี่ยวได้อย่างไร
ก็พอดีวันนั้นได้ทำซาวนด์ดนตรีอยู่ห้องอัดกับอาจารย์ที่จังหวัดอุบลฯ แล้ววันนั้นมันไม่มีอะไรทำ ก็เลยได้อัดคลิปลงเล่นๆ ตอนลองซาวนด์ ก็ไม่คิดว่าคนจะดูระดับล้านสองล้านคน ได้ลงเว็บไซต์ยูไลค์ ยูทูป คนแชร์เป็นหมื่น เพราะตอนนั้นแทบไม่มีใครปรากฏขึ้นเลย หลังจากนั้น งานก็เลยติดต่อเข้ามาเป็นงานโชว์เดี่ยวพิณ ก็เป็นจุดเริ่ม แล้วคนก็เริ่มตั้งฉายาให้ส่วนมาก เขาก็จะเรียก “มือพิณสะออน” แปลว่าคนดูคนชอบ สะออน ออนซ่อน ภาษาอีสาน
• อนาคตมีแผนออกอัลบัมหรือตั้งวงดนตรีไหม
ในเรื่องดนตรี ก็รอผู้สนับสุนนค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากลองมีผลงานของตัวเอง แต่ตอนนี้ก็มีงานติดต่อเข้ามา นอกจากทางโซนภาคอีกสานที่บ้าน ก็เคยมีทางภาคกลางเป็นงานประชุมสัมมนาระดับสูงของข้าราชการรวมถึงนักธุรกิจ จ้างให้เราไปโชว์เดี่ยวพิณ แล้วก็ออกรายการทางเคเบิลทีวี ส่วนงานจ้างอื่นๆ ก็ยังอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง งานกลองยาว งานวงก็ยังไปเหมือนเดิม ค่าตัวก็หลักเดิม 300-400 บาทต่องาน เล่นหมด งานแต่ง งานบวช งานแห่ผ้าป่า แห่กฐิน งานพื้นบ้าน
ส่วนเรื่องชีวิตตอนนี้ก็กลับไปเรียน กะจะเรียนให้จบ กศน. แล้ววางแผนจะเรียนต่อนิติศาสตร์ เผื่อไว้ช่วยเหลือคนที่ไม่รู้กฎหมาย ไม่อยากให้เป็นเหมือนตอนคดีของแม่ที่เสียชีวิตเพราะรถชน ถ้าเรามีความรู้ เราก็ช่วยเขาได้ แต่ก็จะทำทั้งสองอย่างควบคู่ไป ไม่ทิ้ง ก็จะสู้ต่อไป ก็ฝากขอบคุณทุกคนที่ติดตามผลงานและให้กำลังใจ ขอบคุณพี่ทองไทที่สอนทุกอย่าง ทั้งดนตรี เรื่องอยู่หน้าเวที เรื่องการอยู่กับผู้ใหญ่ การอยู่กับครูอาจารย์อยู่กับผู้ชม ไปจนถึงเรื่องการดำเนินชีวิต
มีงานการแสดงอยากติดต่อ ก็อย่าลืมคิดถึงทองไทวาทะศิลป์ วงหมอลำคลื่นลูกใหม่ แล้วก็ขอฝากเป็นแรงเชียร์แรงใจให้กับเด็กน้อยบ้านนอกคนนี้ที่ชื่อ อรณิชา เสมามิ่งชัย ด้วยเด้อค่ะ ขอบคุณหลายๆๆ ค่ะ (ยิ้ม)
เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : เฟซบุ๊ก อรณิชา เสมามิ่งชัย