ทำไม “น้องไอซ์” ต้องใส่เฮดการ์ด แม้แต่เวลาสวดมนต์-กินไอติม?

ASTVผู้จัดการ - โลกโซเชียลแชร์เรื่อง “น้องไอซ์” เด็กชั้นประถม 2 หลังป่วยโรคลมชักมาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันต้องจับใส่เฮดการ์ดกันหัวกระแทกพื้น แม่เผยบางวันลูกวูบล้มเป็น 10 ครั้ง ลั่นอยากให้หายขาดจะได้กลับไปทำงานช่วยสามีหาเงินล้างหนี้

เป็นอะไรที่ชวนสะดุดตาไม่น้อยทีเดียวสำหรับภาพของเด็กนักเรียนชั้นประถมคนหนึ่งที่กำลังทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ โดยที่แปลกก็คือที่หัวของเด็กคนคนดังกล่าวนั้นได้มีการสวมเฮดการ์ดนักมวยใส่อยู่ด้วยนั่นเอง

ทั้งนี้ ในเฟซบุ๊กชื่อ “ธีรพงษ์ พรสิงชัย (Theerapong Pronsingchai')” ที่ได้มีการโพสต์ภาพดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า... “สังเกตเห็นเด็กนักเรียนใส่การ์ดนักมวยใหมครับ (สีแดง). สงสารน้องเขานะครับ. คือเป็นโรคชัก. ล้มหัวฟาดพื้นแทบทุกวัน. ถ้ามีหน่วยงานใด หรือท่านที่อยากจะช่วยน้องคนนี้ กรุณาช่วยด้วยนะครับ”

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ติดสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม ก็ได้รับทราบว่าเด็กชายคนดังกล่าวมีชื่อเล่นว่า เด็กชายธิติพงษ์ แสงแก้ว หรือว่า น้องไอซ์ ปัจจุบันเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ร.ร.วัดตะเฆ่ (ม่วงงามนุเคราะห์) ต.ม่วงงาม อ.เสาไห้ จ.สระบุรี

ขณะที่คุณแม่ของน้องไอซ์ ได้เปิดเผยว่า ตัวน้องไอซ์ป่วยเป็นโรคลมชักมาตั้งแต่กำเนิด ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลสระบุรี เคยส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเด็ก (สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี) แต่ด้วยความที่ครอบครัวมีฐานะยากจน มีหนี้สินอยู่ทั้งในและนอกระบบ จึงทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่อง ปัจจุบันใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรคอยู่ แต่ก็ไม่ได้ผลอะไรมากนัก

“น้องไอซ์ใช้บัตร 30 บาทรักษาตัวค่ะ ของโรงพยาบาลสระบุรี เขาก็ให้แต่ยามากิน คือ ตอนไปรักษาเขาก็จะถามว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง ถ้าไม่ดีก็เปลี่ยนยา คือ มันก็ไม่ได้ดีขึ้นค่ะน้องเขากินยาแบบนี้มาประมาณ 4 - 5 ปีแล้ว...เมื่อก่อนหนูทำงาน พอปู่เขาเสียหนูก็เลยต้องออกมาดูแลเขา เพราะไม่มีใครดูแลน้อง บ้านหนูอยู่กันแค่ 4 คน คือตอนนี้น้องก็อยู่กับพ่อแม่แล้วก็พี่ชายอีกคน”

“น้องเป็นตั้งแต่เกิดเลยค่ะ เป็นลมชักโดยที่เขาจะล้มไปไม่รู้ตัว เป็นวันละ 3 - 4 รอบ คือ เผลอไม่ได้เลยค่ะ หัวเขาก็จะไปกระแทกพื้น บางวันก็เกือบเป็น 10 รอบ แต่ล้มชักที่ตาปลิ้นแบบนี้เขาเบาลงนะ มันเหลืออาการแบบว่ายืนอยู่เขาก็เกร็งล้มไป บางทีเดินๆ วิ่งๆ ก็ล้มไป แล้วช่วงนี้หนูไม่ค่อยให้เขาเดินเพราะถ้าเขาเดินหนูก็ต้องเดินจับเขาด้วย ถ้าปล่อยเขาก็จะล้มตลอด”

เผยเหตุที่ต้องสวมเฮดการ์ดก็เพราะห่วงอาการทางสมอง
“คือเขาล้มบ่อยจนหนูกลัวสมองเขาเกี่ยวกับประสาทกระทบกระเทือน อย่างบางทีหนูเดินจับเขาอย่างนี้หันหลังไปเขาก็วูบไปเลยค่ะ ตอนวูบเขาก็บอกว่าเขารู้สึกตัว แต่เขาเอาตัวเขาไม่อยู่ค่ะ เลยต้องใส่เฮดการ์ดตลอด บางทีเขาร้อนเขาก็ถอดออกบ้าง”

“เรื่องไปโรงเรียนก็ไปบ้าง ไม่ได้ไปบ้าง เขาจะปวดหัวตลอด เพราะเขาล้มบ่อย หน้าเขาจะบวม ตาบวม หัวปูด ซึ่งหัวเขาเย็บมาหลายรอบแล้วค่ะ อย่างตอนที่น้องไปโรงเรียนคุณแม่ก็ต้องตามไปดู อย่างหนูไปส่งน้อง 07.30 น. หนูก็จะไปยืนเข้าแถวกับเขา เพราะหนูกลัวเขาล้ม”

“เพราะครูเองเขาก็ต้องดูนักเรียนหลายคน แล้วก็จะส่งน้องขึ้นห้อง นั่งเรียบร้อยแล้ว หนูก็จะกลับมาบ้าน แล้วประมาณ 12.00 น. หนูก็จะกลับไปใหม่ค่ะ เพราะไปเอาน้องกินข้าว ประมาณบ่ายโมงหนูก็กลับบ้านไปทำงานบ้าน แล้วประมาณสามโมงหนูก็ต้องไปรับเขาเพราะหนูต้องไปรับไปส่งเขาเองค่ะ”

อยากให้ลูกชายหายเป็นปกติเหมือนเด็กทั่วไป
“ก็อยากให้เค้าหาย แต่หนูก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะหมอเขาบอกว่าต้องใช้เวลา อยากให้หายหนูจะได้ไปทำมาหากินได้...ฐานะทางบ้านหนูเป็นหนี้เป็นสินเขาเยอะ คือ เมื่อก่อนหนูไม่มีบ้านแล้วแฟนทำงานโรงงาน ก็ไปกู้เงินมาทำบ้าน ก็เลยเป็นหนี้นอกระบบด้วย”