xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งโตยิ่งน่ารัก “ดาด้า สุชาดา” หนูน้อยมณีจันทร์แห่งหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สาวน้อยลูกครึ่งวัย 16 ปีที่เข้าวงการตั้งแต่อายุห้าขวบ แถมยังมีผลงานในวงการบันเทิงมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานโฆษณาและละคร รวมทั้งผลงานที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ ก็คือผลงานภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาคหนึ่งและสอง

แม้บทบาทในเรื่องนั้นจะเป็นงานแสดงในวัยเด็ก แถมเธอเองยังห่างหายจากวงการบันเทิงไปแล้วเป็นเวลาห้าปี แต่ทว่าผลงานภาพยนตร์ดังกล่าวก็ยังทำให้หลายคนจดจำเด็กหญิงคนนี้ได้อยู่เสมอ

จากสาวน้อย “มณีจันทร์” หรือ “พระมณีรัตนา” วันนี้ “ดาด้า-สุชาดา เช็คลีย์” เติบโตเป็นสาวน้อยน่ารักน่าชังและกำลังเปี่ยมความฝันใฝ่ในการเรียนรู้ เธอจะคัมแบ็กสู่วงการบันเทิงอีกครั้งหรือไม่ หรือความมุ่งหวังของเธอ ณ ปัจจุบันเป็นฉันใด นี่คือถ้อยคำสนทนาสั้นๆ ส่งตรงจากเมืองจันทบุรี

   • เห็นว่าน้องดาด้าห่างหายไปจากวงการบันเทิงหลายปีเลย ตรงนี้ไม่ทราบว่าช่วงที่หายไป เราไปทำอะไรบ้างคะ

ช่วงที่ห่างหายจากวงการ หนูไม่มีผลงาน ก็ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนขณะนี้มัธยมศึกษาปีที่ 5 รวมๆ แล้วก็เป็นเวลา 5 ปีแล้วค่ะ ที่หนูหายไปตอนนั้นคือไปทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างเดียวเลยค่ะ

ส่วนตัวหนูแล้ว หนูอยากทุ่มเทให้การเรียนก่อนค่ะ เพราะเป็นช่วงที่เราขาดเรียนไม่ได้ ซึ่งตอนนี้เรียนวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์ มันเป็นวิชาที่ต้องใช้เวลาในการเรียน ทิ้งไม่ได้ เพราะหนูอยากเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ คณะที่เราอยากเรียนให้ได้ด้วยค่ะ (ยิ้ม)

• หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้องดาด้ามีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างยิ่งในภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาคแรก แต่ตรงนี้ไม่ทราบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรถึงได้มาเป็นนักแสดงตั้งแต่ยังเด็กเลย

ก่อนอื่นหนูต้องบอกก่อนค่ะ หนูเริ่มต้นเข้าวงการมาด้วยความบังเอิญมากๆ (ยิ้ม) คือบ้านหนูอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี แต่มีวันหนึ่ง คุณแม่พาหนูมาทำธุระที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นจำได้ว่าเราอยู่บนรถไฟฟ้าแล้วก็มีคนมาขอถ่ายรูป หลังจากนั้นก็ได้งานโฆษณาเป็นสบู่ยี่ห้อหนึ่ง แล้วก็มีงานโฆษณาตามมาอีกหลายชิ้นเลยค่ะ ตอนนั้นหนูอายุน่าจะ 5 ขวบเองค่ะ

จริงๆ แล้วต้องขอบคุณ คุณแม่กับคุณยายนะคะที่เป็นคนดัน (หัวเราะ) อารมณ์ประมาณดันดารา ท่านจะขยันพาไปแคสต์งานโฆษณามากๆ ค่ะ

พอมีงานโฆษณาแล้ว ต่อมาก็มีงานละครเข้ามาค่ะ หนูได้งานละครเรื่องแรกคือเรื่อง “เจ้าสาวกลัวฝน” หลังจากนั้นก็ ต่อเนื่องด้วยงานละครอีกหลายเรื่องเลยค่ะ (ยิ้ม) แล้วก็มีโอกาสได้มาเล่นภาพยนตร์ซึ่งเป็นบทบาทที่คนพูดถึงจนทุกวันนี้เลย คือบทมณีจันทร์ ในภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 ค่ะ

   • เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่ยังเด็ก แสดงว่าก็เป็นความชอบของเราด้วยใช่ไหม

จริงๆ ตอนเด็กหนูก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันคืองาน เพราะมันเหมือนว่าเราได้ไปเที่ยวมากกว่า ได้ไปตามสถานที่ต่างๆ ได้ทำงานกับผู้ใหญ่ที่เป็นทั้งนักแสดง ทีมงานในกอง และเพื่อนพ้องนักแสดงเด็กอีกหลายคน หนูอยากบอกว่า หนูดีใจนะคะที่ชีวิตวัยนั้นเราได้ทำในสิ่งที่น้อยคนจะได้สัมผัส มันมีความสุข มันรู้สึกสนุกนะคะที่เราได้เรียนรู้การทำงาน ได้สนุกกับการแสดง อย่างแรกๆ ที่ละครออนแอร์ คุณแม่กับคุณยายจะยิ้มหน้าบานเลยค่ะ (ยิ้ม)

ถ้าถามว่างานแสดงเป็นความชอบตั้งแต่เด็กๆ เลยไหม จริงๆ หนูก็ไม่ได้ใฝ่ฝันไว้เลยนะคะ แต่ตรงนี้เกิดขึ้นจากการหยิบยื่นโอกาสของผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ส่วนผลงานของหนูที่ผ่านมา ก็เกิดขึ้นจากการกำกับของผู้ใหญ่ที่ช่วยส่งงาน ช่วยพัฒนาการแสดง ช่วยสอนให้เกิดการเรียนรู้ งานแสดงเป็นความโชคดีของหนู เป็นสิ่งที่น่าจดจำเพราะในชีวิตเรา ได้มีช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่ได้ประสบการณ์และมีค่ามากๆ ค่ะ

   • ถ้าบอกว่างานในวงการนั้นอาจไม่ใช่ความฝันสูงสุด แล้วความฝันสูงสุดของเราคืออะไรกันคะ

จริงๆ แล้วงานในวงการถือได้ว่าเป็นงานหนึ่งที่หนูประทับใจมากๆ เลยนะคะ ส่วนความฝันของหนูจริงๆ ตอนนี้คือหนูกำลังค้นหาตัวเองอยู่ค่ะ เพราะความฝันของหนูเปลี่ยนแปลงทุกวัน วันนี้อยากเป็นนักจิตวิทยา เมื่อวานอยากเป็นนักประดิษฐ์ พรุ่งนี้อาจเปลี่ยนเป็นอีกอย่างก็ได้ (หัวเราะ)

อนาคตของหนูตอนนี้อยู่ในช่วงการวางแผนค่ะ หนูใกล้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วด้วยซึ่งคณะที่จะเรียนก็เตรียมๆ ไว้ แล้ว 4-5 คณะ แต่ยังไม่ตกตะกอนนะคะ อีกอย่างที่สำคัญเลยหนูอยากเข้ามหาวิทยาลัยที่สวยงาม อากาศดี รถไม่ติด มีอาหารอร่อยๆ และปลอดภัยจากอาชญากรรมด้วยค่ะ (ยิ้ม)

   • เคยเห็นน้องดาด้าเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าอยากจะเป็นนางเอก ตอนนี้ยังอยากจะรับบทนั้นอยู่หรือเปล่า

ตอนเด็กๆ ที่หนูเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าอยากเป็นนางเอก จริงๆ หนูว่าใครๆ ก็อยากเป็นนะคะ (หัวเราะ) แต่ในเรื่องของโอกาสเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ซึ่งถ้าโอกาสมาถึงมาเคาะประตูอยู่หน้าบ้าน วันนั้นหนูจะรีบเปิดรับเลยค่ะ (ยิ้ม) แต่หนูต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะสมในการรับงานด้วยนะคะ

   • แล้วแบบนี้จะมีโอกาสหวนคืนวงการบ้างหรือเปล่าคะ

หวนคืนวงการเหรอคะ อันนี้หนูคงตอบไม่ได้ เพราะว่าเราต้องรอโอกาสและจังหวะด้วยค่ะว่ามันเหมาะสมหรือเปล่า (ยิ้ม)

   • ตั้งแต่เด็ก มีผลงานมาก็เยอะ จะว่าไปแล้ววงการบันเทิงให้อะไรกับเราบ้าง

ให้ประสบการณ์การทำงานค่ะ (ตอบเร็ว) เป็นประสบการณ์ที่สนุกมากในช่วงหนึ่งของชีวิตวัยเด็ก อีกอย่างมันมีความภาคภูมิใจที่เราได้มีผลงานให้ผู้ชมได้ชม มันเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากมายมหาศาล เป็นสิ่งที่ไม่ได้มาเพราะความสามารถ แต่ได้มาเพราะโอกาสที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้ ท่านมุ้ย (หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล) ท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่หนูอยากจะขอกล่าวถึงและกราบขอบพระคุณมากๆ ค่ะ





Profile

ชื่อ : สุชาดา เช็คลีย์
ชื่อเล่น : ดาด้า
วันเกิด : 28 สิงหาคม 2541
อายุ : 16 ปี
การศึกษา
-อนุบาล โรงเรียนตังเอ็ง
-ชั้นประถมศึกษา โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์
-ชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์
เสป็กหนุ่มๆ : ยังไม่มี (ขอตอบคำถามนี้ตอนอายุ 20 ปีนะคะ)
งานอดิเรก : เลี้ยงหนูแกสบี้ (ชื่อว่าสนูฟฟี่)
ผลงาน
- ภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค๑ และภาค ๒ รับบทเป็นมณีจันทร์ ในวัยเด็ก
-บอร์ดี้การ์ดแดดเดียว
-เป็นเจ้าเสน่ห์
-สุดรักสุดดวงใจ
-แผ่นดินหัวใจ
-สื่อรักพักใจ
-พริกไทยกับใบข้าว
-ผีเสื้อกับดอกไม้
-เจ้าสาวกลัวฝน
-บาปรัก ทะเลฝัน
-เรือนนารี สีชมพู
-มือปราบพ่อลูกอ่อน
-โฆษณาต่างๆ
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ: อินสตาแกรม @dada28507 และเฟซบุ้ค Dada Checkley

“ท่านมุ้ย” วอนชาวเน็ตแยกแยะ ยัน “สุริโยทัย-นเรศวร” สร้างเอง “ฟาสต์ 7” ถูกแบนเรื่องของ “เสี่ยเจียง-จา พนม”
“ท่านมุ้ย” วอนชาวเน็ตแยกแยะ ยัน “สุริโยทัย-นเรศวร” สร้างเอง “ฟาสต์ 7” ถูกแบนเรื่องของ “เสี่ยเจียง-จา พนม”
“ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล” ตอบกลับสมาชิกพันทิป แจงหลังชาวเน็ตติ่ง “ฟาสต์ แอนด์ ฟีเรียส” บอยคอต “เสี่ยเจียง” ยันหนัง “สุริโยทัย - นเรศวร” สร้างเอง กู้เงินธนาคาร ให้สหมงคลฟิล์มจัดจำหน่ายกินเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ได้รัฐบาลช่วยไม่ใช่แค่รายเดียว หลายเรื่องได้เงินจากรัฐบาลแล้วไม่สร้าง ไม่ได้ฉาย โอดถึงได้เงินมาก็หักเงินจากตอนอื่นจนล้มละลาย ย้ำไม่มีปัญญาเกณฑ์เด็กไปดู ส่วนทหารก็ขอให้ฉายฟรี ชี้ปัญหาหนังถูกแบนเป็นเรื่องของเสี่ยเจียงกับจา พนม แต่ไม่รู้เพราะไม่ได้เจอกันเป็นปี
กำลังโหลดความคิดเห็น