"....และแล้วมันก็มาถึงจุดนี้จนได้ ปัญหาต่างๆที่มันคั่งค้าง สะสม หมักหมมมานานแสนนาน ที่ทางเราได้พยายามนำปัญหามานำเสนอ มาชี้แจงเพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่ๆเกี่ยวข้องได้นำไปเป็นแนวทางในการพิจารณาแก้ไข
แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครสนใจ....
....มันถึงเวลาแล้วที่รัฐบาล , กระทรวงคมนาคม , กรมการขนส่งทางบก จะต้องหันมามองปัญหานี้อย่างจริงๆจังๆ มันได้ลุกลามเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว อย่าคิดว่าการปรับอัตรามิเตอร์ใหม่ในปีนี้ มันจะแก้ปัญหาอะไรๆได้ ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นอัตราเดิมของเก่าตั้งแต่ปี 2551 ที่ประกาศไปว่าจะมีการปรับขึ้นไป 1 บาท แต่เอาจริงๆแล้วได้มีการปรับไปแค่ 50 สตางค์เท่านั้น หลังจากเวลาผ่านไปร่วม 7 ปี พึ่งจะมีการประกาศปรับอีกที 50 สตางค์ที่เหลือนั้น ก็เท่ากับว่าไม่ใช่ของใหม่หรืออัตราใหม่ที่ทุกคนเข้าใจกันเลย สรุปว่าปีนี้ไม่ได้มีการปรับอัตรามิเตอร์ใหม่อย่างที่ทุกคนเข้าใจแต่อย่างใด
....ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องมีการจำแนก แยกประเภทของรถ แยกอัตราราคามิเตอร์ตามชนิดของรถ แยกช่วงเวลาที่ให้บริการที่แตกต่างกันดังภาพที่แนบมา อย่าให้คำว่า"รถยนต์สาธารณะไม่เกิน 7 ที่นั่ง"มันเหมารวมหมดทั้งรถเล็กรถใหญ่ มันคลุมเคลือไม่ชัดเจนเป็นที่ถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้น มันถึงเวลาที่จะต้องมีการแก้ไข พรบ.รถยนต์ ปี 2522 , พรบ.รถยนต์รับจ้างสาธารณะปี2522 รวมถึงฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2535 ที่เก่าคร่ำครึมานานแสนนานนั้นให้เป็นสากลเหมือนนานาประเทศเขาหรือยัง
....มันถึงเวลาที่คนส่วนใหญ่จะเปิดใจยอมรับความจริงกันหรือยังว่าในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้นรถแท็กซี่ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงทั้งรุ่นรถ ขนาดของรถ ตามยุคตามสมัย แต่อัตรามิเตอร์ที่เป็นอยู่ไม่เคยได้มีการแก้ไขให้รองรับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆเลย ยังคงได้รับการบังคับ ข่มขืน ข่มเหงให้ใช้อัตรามิเตอร์เดียวกันทั้งหมด ในขณะที่รถใหญ่ รถแวน ต้องบรรทุกสัมภาระเยอะแยะ แต่ก็ไม่ได้มีการอนุญาติคิดค่าระวางสัมภาระเลย แต้ถ้ากรมการขนส่งทางบกจะบอกว่าแล้วใครใช้ให้คุณออกรถใหญ่มาทำไม ก็จะย้อนถามกลับไปว่า แล้วคุณอนุญาติหรือเปิดช่องให้เขาจดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่ทำไมล่ะครับ ถามว่าถ้าคุณมีรถ 10 ล้อ แล้วให้เอารถ 10 ล้อของคุณนั้นมารับจ้างบรรทุกข้าวสารเพียง 2-3 กระสอบ และได้ราคาค่าจ้างเท่ากับรถปิคอัพ แล้วคุณจะยอมไหม ซึ่งจริงๆแล้วข้าวสารเพียง 2-3 กระสอบ รถปิคอัพคันเดียวก็บรรทุกได้หมด และราคาค่าจ้างก็ย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน
....ทีนี้คงพอจะรู้สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาทั้งหมดทั้งมวลหรือยัง
- ต่อให้มีคนปากพล่อยอีกกี่คนออกมาแฉเหมือนอย่างที่เป็นข่าวครึกโครมอยู่ในตอนนี้
- ต่อให้คนอีก 65 ล้านกว่าคนมารุมด่าเพจนี้ทุกๆวัน
- ต่อให้เพจนี้นำปัญหามาชี้แจงสักเท่าไหร่ก็ตาม
มันก็จะไม่มีทางแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แน่นอน ถ้าตราบใดที่หน่วยงานตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นและคนที่มีอำนาจหน้าที่เพียงไม่กี่คนไม่ลงมาดูและแก้ไข บอกอีกทีก็ได้ว่า แม้แต่เทวดาก็แก้ปัญหานี้ไม่ได้ ต่อให้รอไปถึงชาติหน้าก็แก้ไม่ได้
** ป.ล. ฝากถามไปยังคนปากพล่อย หรือนักบุญใจบาปจอมแฉคนนั้นด้วยว่า ถ้าบริษัทผลิตรถยนต์โตโยต้า จำหน่ายรถยนต์โตโยต้า อินโนว่า ในราคาเดียวกับรถโตโยต้า อัลติสได้ พวกเราคนขับแท็กซี่ทุกคน ก็จะยอมไปส่งนาย Koki Aki ในราคามิเตอร์ได้เช่นกัน (อ้อ นายโดน ทอท.ฟ้องกลับแน่นอน เพราะเขาตรวจกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่เป็นความจริงอย่างที่นายแฉเลย)"
จากเฟซบุ๊ก "เสียงจากแท็กซี่ - Voice of Taxis"
อนึ่ง เฟซบุ๊กดังกล่าวซึ่งไม่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นใคร เคยออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีอูเบอร์แท็กซี่แย่งผู้โดยสาร เมื่อปี 2557