ปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงหลังๆ มีปัญหาซึ่งเกิดจากการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ซึ่งสั่งซื้อกันทางออนไลน์มากยิ่งขึ้นอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่เฉพาะสินค้าออนไลน์ หากแต่ผลิตภัณฑ์ออฟไลน์แบบที่ซื้อหากันได้ทั่วไป ก็สร้างปัญหาให้กับผู้ใช้ผู้บริโภคเช่นกัน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กับปรากฏการณ์ปัญหาที่กล่าวถึง จึงนำไปสู่การก่อกำเนิดของ “เพจ” ในโลกเฟซบุ๊กจำนวนหนึ่ง ซึ่งเล่นกับกระแสดังกล่าว ที่มีตั้งแต่ “แฉ” และ “ฉะ” ไปจนกระทั่งให้สาระความรู้แก่ผู้คน ซึ่งในประเภทหลังนี้ เราคงมิอาจมองข้ามแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า “เชื่อแมวเหอะ (รู้ไหมว่าตัวเองโดนหลอก)” ไปได้
จำนวนยอดไลค์ที่มากกว่าหนึ่งแสน คงแทนคำตอบเรื่องความนิยมของมหาชนคนออนไลน์ได้อย่างไม่ต้องอธิบายอะไร สาระความรู้ที่มาคู่กับอารมณ์ขัน ทำให้ผู้ติดตามเพลิดเพลินเจริญใจในการกดไลค์มาตลอดระยะเวลากว่าสองปี กระนั้นก็ดี ในอีกหนึ่งด้าน ว่ากันว่า พวกเขาเหล่านี้มีสถานะไม่ต่างอะไรไปจาก “ไม้เบื่อไม้เมา” ของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ถึงขั้นที่เคยมีกรณีวิวาทะกันมาแล้ว
ในโลกที่ปีศาจสามารถ “พรางตา” และ “ซ่อนตัว” อยู่ในบรรจุภัณฑ์อันสวยสด
ไม่ว่าใครก็สามารถตกเป็นเหยื่อของความ “สวยอันตราย” แบบนั้นได้
แต่ก่อนที่คุณจะเป็นเหยื่อรายต่อไป บางที การกดไลค์ “เชื่อแมวเหอะ” ไว้ก่อน
แล้วชั่งใจสักนิด ชีวิตที่ว่าจะพลาด อาจไม่พลาด เหมือนกับหลายๆ คน...
• จุดแรกเริ่ม และเป้าหมายของการสร้างเพจนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร
เริ่มมาจากบรรดาแอดมินของเพจในปัจจุบัน เป็นสมาชิกของเว็ปไซต์พันทิปดอตคอม คือในเว็บนี้ในก็มีห้องซึ่งแต่ละห้องก็จะมีคนมาโพสถามเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ ทีนี้ แอดมินบางท่านก็พยายามที่จะตอบคำถาม แต่บางทีมันก็มีพวกที่ไม่รู้ หรือพวกที่รู้ไม่จริงมาตอบมั่วๆ และพวกเกรียนต่างๆ มาก่อกวน จนมีอยู่ช่วงหนึ่ง เรามีความคิดว่า เรามาทำเพจที่ให้ความรู้ เกี่ยวกับสุขภาพในเฟซบุ๊คดีกว่า ก็เลยขยับมาเฟซบุ๊ค แล้วแอดมินหลายท่านก็เลยตามมา เลยมาเป็นเพจนี้
ส่วนจุดประสงค์ของเพจนี้ คือให้ข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ป่วยและคนภายนอกค่ะ แนะนำว่าควรจะทำยังไงต่อ หรือควรจะรับยังไงต่อ ส่วนการวินิจฉัยหรือการรักษา เราแนะนำการรักษาเบื้องต้นได้ แต่ถ้าการรักษาที่แท้จริง ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ที่วินิจฉัยเท่านั้น
• ชื่อเพจ “เชื่อแมวเหอะ” ฟังๆ ดู เหมือจะล้อคำพูด “เชื่อหมอเหอะ” อยู่นะ
ไม่เชิงค่ะ เราอยากให้คุณเชื่อหมอ หรือเชื่อบุคลากรทางด้านสุขภาพ มากกว่าที่จะไปเชื่อใครคนอื่นที่ไม่ได้เรียนมาหรือไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ทีนี้ เราก็ไม่ต้องการที่จะให้เพจมีเนื้อหาที่หนักมาก ประมาณว่า ‘ฉันจะสอนคุณ เชื่อหมอสิ’ ซึ่งมันไม่ใช่ เราควรจะเสนอเพจในแง่ที่ให้ความรู้แบบไม่เครียดมาก เราไม่ต้องการให้เนื้อหาเพจของเราหนักเกินไป ประมาณว่าคุณเดินเข้ามา คุยกับเราได้ อะไรกับเราได้ เราไม่ได้อยู่ในหน้ากากของความเป็นหมอหรือว่านักวิชาการจ๋ามาก
สำหรับรูปแมวที่เป็นสัญลักษณ์ของเพจนั้น เพราะคนก่อตั้งเป็นคนรักแมว แอดมินหลายท่านก็รักแมว และอีกอย่างแอดมินเป็ด ที่เป็นหนึ่งในแอดมิน เลี้ยงแมวอยู่ 2-3 ตัว แล้วมันมีแมวอยู่ตัวนึง ซึ่งแอดมินรักมาก ก็เลยเอามาเป็นโลโก้ ซึ่งถ้าเป็น “เชื่อหมา” อาจจะอะไรยังไง แต่ถ้าจะเป็น “เชื่อแมว” อาจจะสุภาพ มุ้งมิ้งกว่า จะดูแบบไม่ค่อยเครียดมาก เท่า “เชื่อหมอเหอะ” เราคิดว่าอย่างงี้ (ยิ้ม)
• แอดมินเพจเป็นใครมาจากไหนบ้าง
มีอาชีพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเภสัชกร สัตวแพทย์ นักศึกษาปริญญาเอก หรือแม้กระทั่งเป็นแพทย์ก็มี คือนักวิชาการทางด้านนี้ ก็คือคนคนหนึ่ง สามารถพูดได้ คุยได้ เล่นหัวได้ ไม่ได้จริงจังขนาดนั้น แต่ถ้าถามฐานข้อมูล เราก็พยายามที่จะหาข้อมูลที่ถูกต้องที่เรารู้มากที่สุด แล้วเราก็อิงตามข้อมูลที่เรามี หรือหลักฐานที่เรามี อะไรประมาณนี้
• วิธีการทำงานของเพจ แบ่งหน้าที่กันยังไง
เริ่มแรกคือ ต้องมีปัญหามาก่อน อาจจะมาจากที่เราไปเห็นในเว็บไซต์หนึ่ง ที่โพสต์ข้อความไม่ถูกต้อง หรือมีปัญหามาจากสินค้าที่ไม่ถูกต้อง ใช้แล้วคนไข้ไม่ดีขึ้น หรือหน้าแหกกลับมา แอดมินท่านนั้นหรือกลุ่มนั้นก็จะมานั่งคุยกันว่ามีปัญหาอย่างนี้นะ มีข้อมูลไหม ถ้าแอดมินคนหนึ่งบอกว่ามี โอเค คุณไปหาหลักฐานมา เราต้องหาหลักฐาน เพราะจำเป็นต้องมีหลักฐานอ้างอิง ไม่งั้นเราอาจจะโดนฟ้องขึ้นมา หรือคนไม่เชื่อ
พอมีข้อมูลแล้ว เราก็พยายามเขียนออกมายังไงก็ได้ ให้คนอ่านที่เราคิดว่ามีพื้นฐานทางสุขภาพ หรือไม่มีพื้นฐาน เขียนยังไงก็ได้ให้อ่านเข้าใจ อาจจะสร้างมุกตลก หรือแทรกมาที่ภาพแล้วก็โพส หลักสำคัญของข้อมูลเพจนี้ก็คือ เราอิงทางด้านหลักฐาน เพราะมันมีปัญหาตรงที่ว่า ปัญหาบางอย่างเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้องนัก เช่น อาหารเสริม A ตัวหนึ่ง ตราบใดที่ยังไม่มีผลตรวจจากหน่วยงานรัฐหรือยังไม่มีผลตรวจจากแหล่งวิชาการที่เชื่อถือได้ เราจะพยายามไม่บอกแฟนเพจโดยตรง ไม่งั้นอาจจะโดนฟ้องหรืออาจจะมีข้อขัดแย้งอื่นๆ ตามมา เป็นต้น
• อยากมีชื่อเสียงก็ไม่ใช่ เพราะไม่เปิดหน้ากันสักคน แล้วอะไรคือเจตนารมณ์จริงๆ
เราคิดว่า ทุกคนในประเทศนี้ ไม่ว่าจะป่วยหรือไม่ป่วย ควรจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ถูกต้อง ไม่ควรที่จะถูกหลอก โอเค คุณอาจจะไม่ถูกหลอก แต่คุณไม่รู้ เพราะฉะนั้น เป็นหน้าที่ของเราที่เรามีข้อมูลอยู่ในหัว ในมือแล้ว เป็นหน้าที่ของเราที่จะส่งไป บอกข้อมูลตรงนี้ให้คนอ่าน และเราก็ยังยืนหยัดที่จะทำต่อไป ซึ่งถ้ามีปัญหามาถาม เราก็หาข้อมูลให้ ถ้าเราตอบได้ เราก็ตอบ
• ฟังดูคล้ายๆ เหมือนเป็นศาลาร้องทุกข์หรือไม้เบื่อไม้เมาของเหล่าแม่ค้าออนไลน์
ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ โอเคคือคุณอยู่ในวงสนทนาวงหนึ่ง แต่บังเอิญว่าเพื่อนคุณพูดอะไรไม่ดีออกมา แล้วเราไปขัด เขาอาจจะขอบคุณหรือพอใจเรา แต่มันไม่ถึงกับเป็นศัตรูตัวเอ้หรอก จริงๆ พ่อค้าแม่ค้าอาหารเสริมบางท่านก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาขาย มันเป็นอะไรที่ไม่ดี มีมาขายก็ขาย มี อ.ย.ก็ขาย
ยกตัวอย่างเช่น มีอาหารเสริมปนเปื้อนแล้ว ประมาณว่า หน่วยงานรัฐยังไม่มีหลักฐาน แล้วแอดมินก็โพสต์ไป แล้วทีนี้ พ่อค้าแม่ค้ามาเจอเข้า ก็มาด่า ด่าปุ๊บ แล้วขู่ว่าจะฟ้อง ทีนี้มันไม่มีหลักฐาน แอดมินเลยทำได้เพียงขอโทษไปก่อน ทั้งๆ ที่ในใจก็รู้ว่ามันไม่ใช่ มันไม่ดี ซึ่งเราจำเป็นต้องขอโทษ เพราะว่าถ้าเกิดกรณีที่ฟ้องร้องขึ้นมา โอเค ศาลยอมรับ แต่ว่ารับฟัง เราชนะคดี แต่มันเสียเวลา เสียเงิน แล้วก็เสียอะไรหลายๆ อย่าง เพราะว่าแอดมินเป็นแค่นักวิชาการตัวเล็กๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นผู้ที่มีอิทธิพลใดๆ อันนี้เป็นอะไรที่น่าขมขื่นใจพอสมควร ต้องใช้คำนี้เลย เพราะ คือเห็นๆ กันอยู่ แต่มันทำอะไรไม่ได้
• รู้มาว่า เพจนี้เคยมีกรณีเพจเกือบปลิวด้วย ตรงนั้นเกิดจากอะไร
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในช่วงปีแรกๆ ของการตั้งเพจ คือไปแฉหรือว่าอะไรสักอย่างกับอาหารเสริมรายหนึ่ง ปรากฏว่าผู้ขายอาหารเสริมรายนี้ มีการระดมพลลูกเพจให้มารีพอร์ตเพจของเราจนเกือบปลิว (หัวเราะ) ซึ่ง ณ ขณะนั้น เพจเรายังเป็นตัวเล็กๆ อยู่ แอดมินเพจก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากเพจเพื่อนบ้าน เช่น จ่าพิชิต จาก เพจ Drama-Addict หรือ เพจพันทิป ห้องหว้ากอ ว่า เพจกำลังจะปลิวแล้วนะ ช่วยมากดไลค์หน่อย
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้น เพจเราก็สามารถผ่านมาได้ด้วยดี ด้วยยอดไลค์ที่เพิ่มมานิดหน่อย ก็เลยเป็นกำลังใจด้วยว่า เราทำดีแล้ว ยังมีคนปกป้อง ก็เลยทำแบบนี้ต่อไป แต่ทางแอดมิน ก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น ก็เลยพยายามที่จะปกปิดชื่อเสียงหน้าตาเอาไว้ และก็ปิดช่องข้อความ เพราะว่าก่อนหน้านี้ ก็มีพวกพ่อค้าแม่ค้ามาด่าเยอะมากเหมือนกัน เพราะในนั้นล้วนมีแต่คำด่าทั้งนั้นเลย
• ทุกวันนี้ คนรอบตัวรู้มั้ยว่าเราเป็นแอดมินเพจนี้
โดยส่วนใหญ่ แอดมินหลายๆ ท่าน ครอบครัวอาจจะทราบ แต่เพื่อนฝูงน่าจะไม่ทราบ หรือ เพื่อนนักวิชาการที่เป็นเพื่อนในกลุ่มหว้ากอ อาจจะทราบ ซึ่งถ้าเวลาจะประชุมกัน ก็คือเฟซบุ๊ค แอดมินแต่ละท่าน บางคนก็ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย คือพื้นฐาน เรารู้จักผ่านทางห้องหว้ากอมาก่อน เกือบ 10 ปีแล้ว เพราะฉะนั้น เราจะสนิทกันในระดับหนึ่ง แต่ไม่เคยเห็นหน้า บางคนอยู่ต่างจังหวัด หรือบางคนอยู่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมา แต่เราก็ยังไม่เปิดเผยตัวตนมากเท่าไหร่ แต่กับบรรดาแอดมินทั้งหลาย ก็จะสนิทกันแบบออนไลน์ ก็รู้ว่าแต่ละคนมีนิสัยยังไง ครอบครัวเป็นยังไง และยังยินดีที่จะเป็นไอ้โม่งต่อไป (ยิ้ม)
• คิดว่ามีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนกับการทำแบบนี้
ปัญหาทางด้านสาธารณสุข หรือว่า ปัญหาการใช้ยาของคน แล้วก็พวกโฆษณายาหรืออาหารเสริมมันค่อนข้างหนัก แล้วนี่มันคือเรื่องของสุขภาพ คือถ้าคุณใช้ยาพลาด หรือ ถ้าคุณเข้าใจอะไรผิด มันก็เกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยตรง และบางทีมันย้อนกลับมาไม่ได้ ซึ่งมันก็สำคัญนะ เราก็พยายามหาข้อมูลมาเพื่อแก้ความเข้าใจผิด หรือเพื่อทำให้คุณใช้ยาหรืออาหารเสริมให้ถูกต้องที่สุด แล้วอีกอย่างคือ ที่รันเพจนี้ได้เรื่อยๆ เพราะว่า มีแอดมินที่เสียสละหลายท่าน คอยสับเปลี่ยนกันมาอยู่ ทำเองคนสองคนคงไม่ไหว
• ในฐานะที่เป็นเพจซึ่งสู้เพื่อผู้บริโภค อยากจะบอกอะไรกับพวกเขาเหล่านั้นบ้าง
ถ้าจะกินหรือว่าใช้อะไรก็ตามที ควรหาความรู้สักนิดว่า ไอ้ตัวนี้มันดีแน่ๆ หรือให้ผลเสียหรือเปล่า อย่าเชื่อตามคนอื่นบอก อย่าเชื่อเพราะว่ามีหน่วยงานรัฐประทับตราอยู่ อย่าเชื่อเพราะคนข้างบ้านบอก ว่าหวังจะปาฎิหาริย์อย่างเดียว ซึ่งคำนี้มันไม่มีจริงหรอก ปาฎิหาริย์มันประกอบด้วยองค์ความรู้ และผลการทดลองอะไรหลายๆ อย่าง แต่ถ้ามีปัญหาอะไร มาโพสต์ถามหลายๆ เพจที่เกี่ยวกับสุขภาพได้ เพราะพวกเขาเหล่านั้น พยายามที่จะให้ความรู้คุณอยู่
• คิดว่าปัญหาเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เห็นแทบจะทุกวัน เกิดจากอะไร
ขอแยกอย่างนี้ก่อนว่า คนไทยจะแบ่งเป็นพวกที่หาข้อมูลได้ง่ายและยากอยู่ กลุ่มแรก จะเป็นคนที่ไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ทหรืออ่านภาษาอังกฤษไม่แตกฉาน หรือคนที่ไม่กล้าคุยกับหมอ พวกนี้จะเป็นเหยื่อได้ง่าย กลุ่มที่สอง เป็นคนที่เข้าหาได้ แต่ไม่ใส่ใจ ไม่หาข้อมูล อันนี้มีปัญหาคือ ไปบอกให้ตาย เขาก็ไม่เชื่อ แค่ต้องการปาฎิหาริย์ หรือต้องการอะไรง่ายๆ และกลุ่มที่สาม จะเป็นคนที่หาข้อมูล คนที่ซื้อยาออกมา แล้วปรากฏว่ามันไม่ดีแล้วเข้ามาถาม ซึ่งกลุ่มหลังสุดนี้ จะเป็นกลุ่มที่น่าช่วยเหลือเพราะว่า เขาซื้อมาเพราะความไม่รู้ แล้วอีกอย่างคือ ยาหรืออาหารเสริมตัวหนึ่ง มีตรา อย. ประทับอยู่ก็จริง แต่ปรากฏว่า ตัวพ่อค้าแม่ค้า ฉ้อฉล แอบใส่อะไรก็ไม่รู้ หลังจากมีการประทับ อันนี้คือความไม่รู้ของเขา ซึ่งน่าเห็นใจมาก
และด้วยระบบของเมืองไทย ทั้งระบบยาหรืออาหารเสริม ต้องรอให้เป็นข่าวก่อน หรือว่าต้องรอให้ทางสะดวกก่อน ถึงจะเริ่มทำอะไรให้เป็นจริงจังขึ้นมา
เรื่อง : สรวัจน์ ศิิลปโรจนพาณิช
ขอบคุณภาพประกอบจาก : Facebook Fanpage : เชื่อแมวเหอะ(รู้ไหมว่าตัวเองโดนหลอก)
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กับปรากฏการณ์ปัญหาที่กล่าวถึง จึงนำไปสู่การก่อกำเนิดของ “เพจ” ในโลกเฟซบุ๊กจำนวนหนึ่ง ซึ่งเล่นกับกระแสดังกล่าว ที่มีตั้งแต่ “แฉ” และ “ฉะ” ไปจนกระทั่งให้สาระความรู้แก่ผู้คน ซึ่งในประเภทหลังนี้ เราคงมิอาจมองข้ามแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า “เชื่อแมวเหอะ (รู้ไหมว่าตัวเองโดนหลอก)” ไปได้
จำนวนยอดไลค์ที่มากกว่าหนึ่งแสน คงแทนคำตอบเรื่องความนิยมของมหาชนคนออนไลน์ได้อย่างไม่ต้องอธิบายอะไร สาระความรู้ที่มาคู่กับอารมณ์ขัน ทำให้ผู้ติดตามเพลิดเพลินเจริญใจในการกดไลค์มาตลอดระยะเวลากว่าสองปี กระนั้นก็ดี ในอีกหนึ่งด้าน ว่ากันว่า พวกเขาเหล่านี้มีสถานะไม่ต่างอะไรไปจาก “ไม้เบื่อไม้เมา” ของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ถึงขั้นที่เคยมีกรณีวิวาทะกันมาแล้ว
ในโลกที่ปีศาจสามารถ “พรางตา” และ “ซ่อนตัว” อยู่ในบรรจุภัณฑ์อันสวยสด
ไม่ว่าใครก็สามารถตกเป็นเหยื่อของความ “สวยอันตราย” แบบนั้นได้
แต่ก่อนที่คุณจะเป็นเหยื่อรายต่อไป บางที การกดไลค์ “เชื่อแมวเหอะ” ไว้ก่อน
แล้วชั่งใจสักนิด ชีวิตที่ว่าจะพลาด อาจไม่พลาด เหมือนกับหลายๆ คน...
• จุดแรกเริ่ม และเป้าหมายของการสร้างเพจนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร
เริ่มมาจากบรรดาแอดมินของเพจในปัจจุบัน เป็นสมาชิกของเว็ปไซต์พันทิปดอตคอม คือในเว็บนี้ในก็มีห้องซึ่งแต่ละห้องก็จะมีคนมาโพสถามเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ ทีนี้ แอดมินบางท่านก็พยายามที่จะตอบคำถาม แต่บางทีมันก็มีพวกที่ไม่รู้ หรือพวกที่รู้ไม่จริงมาตอบมั่วๆ และพวกเกรียนต่างๆ มาก่อกวน จนมีอยู่ช่วงหนึ่ง เรามีความคิดว่า เรามาทำเพจที่ให้ความรู้ เกี่ยวกับสุขภาพในเฟซบุ๊คดีกว่า ก็เลยขยับมาเฟซบุ๊ค แล้วแอดมินหลายท่านก็เลยตามมา เลยมาเป็นเพจนี้
ส่วนจุดประสงค์ของเพจนี้ คือให้ข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ป่วยและคนภายนอกค่ะ แนะนำว่าควรจะทำยังไงต่อ หรือควรจะรับยังไงต่อ ส่วนการวินิจฉัยหรือการรักษา เราแนะนำการรักษาเบื้องต้นได้ แต่ถ้าการรักษาที่แท้จริง ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ที่วินิจฉัยเท่านั้น
• ชื่อเพจ “เชื่อแมวเหอะ” ฟังๆ ดู เหมือจะล้อคำพูด “เชื่อหมอเหอะ” อยู่นะ
ไม่เชิงค่ะ เราอยากให้คุณเชื่อหมอ หรือเชื่อบุคลากรทางด้านสุขภาพ มากกว่าที่จะไปเชื่อใครคนอื่นที่ไม่ได้เรียนมาหรือไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ทีนี้ เราก็ไม่ต้องการที่จะให้เพจมีเนื้อหาที่หนักมาก ประมาณว่า ‘ฉันจะสอนคุณ เชื่อหมอสิ’ ซึ่งมันไม่ใช่ เราควรจะเสนอเพจในแง่ที่ให้ความรู้แบบไม่เครียดมาก เราไม่ต้องการให้เนื้อหาเพจของเราหนักเกินไป ประมาณว่าคุณเดินเข้ามา คุยกับเราได้ อะไรกับเราได้ เราไม่ได้อยู่ในหน้ากากของความเป็นหมอหรือว่านักวิชาการจ๋ามาก
สำหรับรูปแมวที่เป็นสัญลักษณ์ของเพจนั้น เพราะคนก่อตั้งเป็นคนรักแมว แอดมินหลายท่านก็รักแมว และอีกอย่างแอดมินเป็ด ที่เป็นหนึ่งในแอดมิน เลี้ยงแมวอยู่ 2-3 ตัว แล้วมันมีแมวอยู่ตัวนึง ซึ่งแอดมินรักมาก ก็เลยเอามาเป็นโลโก้ ซึ่งถ้าเป็น “เชื่อหมา” อาจจะอะไรยังไง แต่ถ้าจะเป็น “เชื่อแมว” อาจจะสุภาพ มุ้งมิ้งกว่า จะดูแบบไม่ค่อยเครียดมาก เท่า “เชื่อหมอเหอะ” เราคิดว่าอย่างงี้ (ยิ้ม)
• แอดมินเพจเป็นใครมาจากไหนบ้าง
มีอาชีพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเภสัชกร สัตวแพทย์ นักศึกษาปริญญาเอก หรือแม้กระทั่งเป็นแพทย์ก็มี คือนักวิชาการทางด้านนี้ ก็คือคนคนหนึ่ง สามารถพูดได้ คุยได้ เล่นหัวได้ ไม่ได้จริงจังขนาดนั้น แต่ถ้าถามฐานข้อมูล เราก็พยายามที่จะหาข้อมูลที่ถูกต้องที่เรารู้มากที่สุด แล้วเราก็อิงตามข้อมูลที่เรามี หรือหลักฐานที่เรามี อะไรประมาณนี้
• วิธีการทำงานของเพจ แบ่งหน้าที่กันยังไง
เริ่มแรกคือ ต้องมีปัญหามาก่อน อาจจะมาจากที่เราไปเห็นในเว็บไซต์หนึ่ง ที่โพสต์ข้อความไม่ถูกต้อง หรือมีปัญหามาจากสินค้าที่ไม่ถูกต้อง ใช้แล้วคนไข้ไม่ดีขึ้น หรือหน้าแหกกลับมา แอดมินท่านนั้นหรือกลุ่มนั้นก็จะมานั่งคุยกันว่ามีปัญหาอย่างนี้นะ มีข้อมูลไหม ถ้าแอดมินคนหนึ่งบอกว่ามี โอเค คุณไปหาหลักฐานมา เราต้องหาหลักฐาน เพราะจำเป็นต้องมีหลักฐานอ้างอิง ไม่งั้นเราอาจจะโดนฟ้องขึ้นมา หรือคนไม่เชื่อ
พอมีข้อมูลแล้ว เราก็พยายามเขียนออกมายังไงก็ได้ ให้คนอ่านที่เราคิดว่ามีพื้นฐานทางสุขภาพ หรือไม่มีพื้นฐาน เขียนยังไงก็ได้ให้อ่านเข้าใจ อาจจะสร้างมุกตลก หรือแทรกมาที่ภาพแล้วก็โพส หลักสำคัญของข้อมูลเพจนี้ก็คือ เราอิงทางด้านหลักฐาน เพราะมันมีปัญหาตรงที่ว่า ปัญหาบางอย่างเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้องนัก เช่น อาหารเสริม A ตัวหนึ่ง ตราบใดที่ยังไม่มีผลตรวจจากหน่วยงานรัฐหรือยังไม่มีผลตรวจจากแหล่งวิชาการที่เชื่อถือได้ เราจะพยายามไม่บอกแฟนเพจโดยตรง ไม่งั้นอาจจะโดนฟ้องหรืออาจจะมีข้อขัดแย้งอื่นๆ ตามมา เป็นต้น
• อยากมีชื่อเสียงก็ไม่ใช่ เพราะไม่เปิดหน้ากันสักคน แล้วอะไรคือเจตนารมณ์จริงๆ
เราคิดว่า ทุกคนในประเทศนี้ ไม่ว่าจะป่วยหรือไม่ป่วย ควรจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ถูกต้อง ไม่ควรที่จะถูกหลอก โอเค คุณอาจจะไม่ถูกหลอก แต่คุณไม่รู้ เพราะฉะนั้น เป็นหน้าที่ของเราที่เรามีข้อมูลอยู่ในหัว ในมือแล้ว เป็นหน้าที่ของเราที่จะส่งไป บอกข้อมูลตรงนี้ให้คนอ่าน และเราก็ยังยืนหยัดที่จะทำต่อไป ซึ่งถ้ามีปัญหามาถาม เราก็หาข้อมูลให้ ถ้าเราตอบได้ เราก็ตอบ
• ฟังดูคล้ายๆ เหมือนเป็นศาลาร้องทุกข์หรือไม้เบื่อไม้เมาของเหล่าแม่ค้าออนไลน์
ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ โอเคคือคุณอยู่ในวงสนทนาวงหนึ่ง แต่บังเอิญว่าเพื่อนคุณพูดอะไรไม่ดีออกมา แล้วเราไปขัด เขาอาจจะขอบคุณหรือพอใจเรา แต่มันไม่ถึงกับเป็นศัตรูตัวเอ้หรอก จริงๆ พ่อค้าแม่ค้าอาหารเสริมบางท่านก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาขาย มันเป็นอะไรที่ไม่ดี มีมาขายก็ขาย มี อ.ย.ก็ขาย
ยกตัวอย่างเช่น มีอาหารเสริมปนเปื้อนแล้ว ประมาณว่า หน่วยงานรัฐยังไม่มีหลักฐาน แล้วแอดมินก็โพสต์ไป แล้วทีนี้ พ่อค้าแม่ค้ามาเจอเข้า ก็มาด่า ด่าปุ๊บ แล้วขู่ว่าจะฟ้อง ทีนี้มันไม่มีหลักฐาน แอดมินเลยทำได้เพียงขอโทษไปก่อน ทั้งๆ ที่ในใจก็รู้ว่ามันไม่ใช่ มันไม่ดี ซึ่งเราจำเป็นต้องขอโทษ เพราะว่าถ้าเกิดกรณีที่ฟ้องร้องขึ้นมา โอเค ศาลยอมรับ แต่ว่ารับฟัง เราชนะคดี แต่มันเสียเวลา เสียเงิน แล้วก็เสียอะไรหลายๆ อย่าง เพราะว่าแอดมินเป็นแค่นักวิชาการตัวเล็กๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นผู้ที่มีอิทธิพลใดๆ อันนี้เป็นอะไรที่น่าขมขื่นใจพอสมควร ต้องใช้คำนี้เลย เพราะ คือเห็นๆ กันอยู่ แต่มันทำอะไรไม่ได้
• รู้มาว่า เพจนี้เคยมีกรณีเพจเกือบปลิวด้วย ตรงนั้นเกิดจากอะไร
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในช่วงปีแรกๆ ของการตั้งเพจ คือไปแฉหรือว่าอะไรสักอย่างกับอาหารเสริมรายหนึ่ง ปรากฏว่าผู้ขายอาหารเสริมรายนี้ มีการระดมพลลูกเพจให้มารีพอร์ตเพจของเราจนเกือบปลิว (หัวเราะ) ซึ่ง ณ ขณะนั้น เพจเรายังเป็นตัวเล็กๆ อยู่ แอดมินเพจก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากเพจเพื่อนบ้าน เช่น จ่าพิชิต จาก เพจ Drama-Addict หรือ เพจพันทิป ห้องหว้ากอ ว่า เพจกำลังจะปลิวแล้วนะ ช่วยมากดไลค์หน่อย
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้น เพจเราก็สามารถผ่านมาได้ด้วยดี ด้วยยอดไลค์ที่เพิ่มมานิดหน่อย ก็เลยเป็นกำลังใจด้วยว่า เราทำดีแล้ว ยังมีคนปกป้อง ก็เลยทำแบบนี้ต่อไป แต่ทางแอดมิน ก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น ก็เลยพยายามที่จะปกปิดชื่อเสียงหน้าตาเอาไว้ และก็ปิดช่องข้อความ เพราะว่าก่อนหน้านี้ ก็มีพวกพ่อค้าแม่ค้ามาด่าเยอะมากเหมือนกัน เพราะในนั้นล้วนมีแต่คำด่าทั้งนั้นเลย
• ทุกวันนี้ คนรอบตัวรู้มั้ยว่าเราเป็นแอดมินเพจนี้
โดยส่วนใหญ่ แอดมินหลายๆ ท่าน ครอบครัวอาจจะทราบ แต่เพื่อนฝูงน่าจะไม่ทราบ หรือ เพื่อนนักวิชาการที่เป็นเพื่อนในกลุ่มหว้ากอ อาจจะทราบ ซึ่งถ้าเวลาจะประชุมกัน ก็คือเฟซบุ๊ค แอดมินแต่ละท่าน บางคนก็ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย คือพื้นฐาน เรารู้จักผ่านทางห้องหว้ากอมาก่อน เกือบ 10 ปีแล้ว เพราะฉะนั้น เราจะสนิทกันในระดับหนึ่ง แต่ไม่เคยเห็นหน้า บางคนอยู่ต่างจังหวัด หรือบางคนอยู่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมา แต่เราก็ยังไม่เปิดเผยตัวตนมากเท่าไหร่ แต่กับบรรดาแอดมินทั้งหลาย ก็จะสนิทกันแบบออนไลน์ ก็รู้ว่าแต่ละคนมีนิสัยยังไง ครอบครัวเป็นยังไง และยังยินดีที่จะเป็นไอ้โม่งต่อไป (ยิ้ม)
• คิดว่ามีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนกับการทำแบบนี้
ปัญหาทางด้านสาธารณสุข หรือว่า ปัญหาการใช้ยาของคน แล้วก็พวกโฆษณายาหรืออาหารเสริมมันค่อนข้างหนัก แล้วนี่มันคือเรื่องของสุขภาพ คือถ้าคุณใช้ยาพลาด หรือ ถ้าคุณเข้าใจอะไรผิด มันก็เกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยตรง และบางทีมันย้อนกลับมาไม่ได้ ซึ่งมันก็สำคัญนะ เราก็พยายามหาข้อมูลมาเพื่อแก้ความเข้าใจผิด หรือเพื่อทำให้คุณใช้ยาหรืออาหารเสริมให้ถูกต้องที่สุด แล้วอีกอย่างคือ ที่รันเพจนี้ได้เรื่อยๆ เพราะว่า มีแอดมินที่เสียสละหลายท่าน คอยสับเปลี่ยนกันมาอยู่ ทำเองคนสองคนคงไม่ไหว
• ในฐานะที่เป็นเพจซึ่งสู้เพื่อผู้บริโภค อยากจะบอกอะไรกับพวกเขาเหล่านั้นบ้าง
ถ้าจะกินหรือว่าใช้อะไรก็ตามที ควรหาความรู้สักนิดว่า ไอ้ตัวนี้มันดีแน่ๆ หรือให้ผลเสียหรือเปล่า อย่าเชื่อตามคนอื่นบอก อย่าเชื่อเพราะว่ามีหน่วยงานรัฐประทับตราอยู่ อย่าเชื่อเพราะคนข้างบ้านบอก ว่าหวังจะปาฎิหาริย์อย่างเดียว ซึ่งคำนี้มันไม่มีจริงหรอก ปาฎิหาริย์มันประกอบด้วยองค์ความรู้ และผลการทดลองอะไรหลายๆ อย่าง แต่ถ้ามีปัญหาอะไร มาโพสต์ถามหลายๆ เพจที่เกี่ยวกับสุขภาพได้ เพราะพวกเขาเหล่านั้น พยายามที่จะให้ความรู้คุณอยู่
• คิดว่าปัญหาเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เห็นแทบจะทุกวัน เกิดจากอะไร
ขอแยกอย่างนี้ก่อนว่า คนไทยจะแบ่งเป็นพวกที่หาข้อมูลได้ง่ายและยากอยู่ กลุ่มแรก จะเป็นคนที่ไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ทหรืออ่านภาษาอังกฤษไม่แตกฉาน หรือคนที่ไม่กล้าคุยกับหมอ พวกนี้จะเป็นเหยื่อได้ง่าย กลุ่มที่สอง เป็นคนที่เข้าหาได้ แต่ไม่ใส่ใจ ไม่หาข้อมูล อันนี้มีปัญหาคือ ไปบอกให้ตาย เขาก็ไม่เชื่อ แค่ต้องการปาฎิหาริย์ หรือต้องการอะไรง่ายๆ และกลุ่มที่สาม จะเป็นคนที่หาข้อมูล คนที่ซื้อยาออกมา แล้วปรากฏว่ามันไม่ดีแล้วเข้ามาถาม ซึ่งกลุ่มหลังสุดนี้ จะเป็นกลุ่มที่น่าช่วยเหลือเพราะว่า เขาซื้อมาเพราะความไม่รู้ แล้วอีกอย่างคือ ยาหรืออาหารเสริมตัวหนึ่ง มีตรา อย. ประทับอยู่ก็จริง แต่ปรากฏว่า ตัวพ่อค้าแม่ค้า ฉ้อฉล แอบใส่อะไรก็ไม่รู้ หลังจากมีการประทับ อันนี้คือความไม่รู้ของเขา ซึ่งน่าเห็นใจมาก
และด้วยระบบของเมืองไทย ทั้งระบบยาหรืออาหารเสริม ต้องรอให้เป็นข่าวก่อน หรือว่าต้องรอให้ทางสะดวกก่อน ถึงจะเริ่มทำอะไรให้เป็นจริงจังขึ้นมา
เรื่อง : สรวัจน์ ศิิลปโรจนพาณิช
ขอบคุณภาพประกอบจาก : Facebook Fanpage : เชื่อแมวเหอะ(รู้ไหมว่าตัวเองโดนหลอก)