น่ารักจนน่าเลิฟ “มุก จินต์จุฑา” ว่าที่ทันตแพทย์สาว ฉาวแค่ในฮอร์โมนส์

เปิดใจสาวน้อยผู้มาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสปานดอกไม้แรกแย้ม
ที่พร้อมทำให้หัวใจทุกดวงเจิดแจร่มแจ่มใสไปกับเธอ
ในโลกการแสดง เธอคือตัวละครสุดฉาวในซีรีส์ดังอย่างฮอร์โมนส์
แต่ในชีวิตจริง วันข้างหน้า ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องฟัน ต้องไปหาเธอ...

แม้จะปิดฉากซีซันสองไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับซีรีส์วัยรุ่นยอดนิยม อย่าง “ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น” แต่กระแสแห่งเรื่องราวยังคงไม่จางหาย และเป็นที่กล่าวถึงอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาของวัยโจ๋ ที่หนังหยิบมาถ่ายทอด สื่อสะท้อนถึงประเด็นร่วมสมัยของวัยรุ่นยุคปัจจุบัน และหนึ่งในนั้น คือเรื่องราวของเด็กสาวทำแท้ง ซึ่งแสดงโดยสาวน้อยผู้นี้ 'มุก-จินต์จุฑา รัตนบุรี'...

จากชีวิตที่บังเอิญเดินผ่านสายตาของโมเดลลิ่ง ตอนนี้ “มุก จินต์จุฑา” มีสถานะเป็นดาราอีกดวงที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างหนาหูจากบทบาทในซีรีส์เรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกัน นอกแสงสปอตไลต์แสงสีในวงการมายา เธอคือหญิงสาวที่กำลังก้าวไปตามฝันของตนเองอย่างมั่นคง

ในละคร เธอทำหน้าที่ได้สมบทบาท ชวนสะเทือนใจ
ในชีวิตจริง เธอก็ทำหน้าที่ได้ไม่ตกหล่น และน่าประทับใจ
เชิญรู้จักกับหญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มน่ารักสดใส ได้ ณ บัดนาว...

• รู้สึกอย่างไรบ้างกับบทสาวทำแท้ง เพราะจะว่าไป บทนี้ค่อนข้างแรงเอาการอยู่
ตอนแรกก็คิดเหมือนกันนะคะว่ามันแรงไปหรือเปล่า (หัวเราะ) ไปปรึกษาคุณแม่ว่าจะเอายังไงดี แม่ว่ามันแรงไปไหม เพราะท้องเลยนะ แต่ไปๆ มาๆ ก็โอเคกับบทนะคะ ถ้าเราเป็นส่วนหนึ่งซึ่งได้ช่วยสะท้อนปัญหาสังคม มันก็โอเค ที่บ้านมุกทุกคนเขาก็โอเคกับผลงานที่ออกมา เพราะมันไม่ได้มีซีนที่ถึงเนื้อถึงตัว มันเป็นเรื่องที่สื่อออกมาว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีนะ จะได้เป็นข้อคิดให้แก่คนอื่นๆ ด้วย

ส่วนตัวมุกดีใจนะคะ เพราะว่าบทนี้มันได้สอนอะไรให้สังคมเยอะเลย อีกอย่างมุกคิดว่ามันท้าทายดีด้วย เพราะมันทำให้เราได้พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก จริงๆ บอกตามตรงเลยว่าถ้ามุกไม่ได้มาทำตรงนี้ก็จะไม่ค่อยรู้เลยว่าข้างนอกเขามีปัญหาเยอะขนาดนี้ เพราะเราไม่เคยไปคุยกับคนอื่นถึงปัญหาที่ว่านี้เลย แต่พอได้รับบทนี้ก็ต้องไปหาข้อมูลเพื่อทำมันออกมาให้ดีที่สุด เราได้รู้อะไรมากขึ้น กลายเป็นเตือนตัวเองไปในตัวด้วยเหมือนกัน (ยิ้ม)

• จริงๆ แล้ว มุกมองเรื่องของการท้องแล้วทำแท้งนี้ยังไงบ้าง
มันเป็นปัญหาที่มีมานานแล้วล่ะค่ะ เพียงแต่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น คือมุกเองก็เป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง ถ้าเกิดว่ามีปัญหาแบบนั้นขึ้นมาบ้าง คงรู้สึกว่ามันสูญเสียชีวิตวัยรุ่นไปนะ เพราะเราต้องไปนั่งดูแลลูก วัยนี้มันควรจะเป็นวัยที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมากกว่า หรืออย่างสมมติ ถ้าท้องขึ้นมาแล้วอยากทำแท้ง มันดูผิดศีลธรรมด้วยนะ เป็นการทำบาปอย่างหนึ่ง เพราะเราฆ่าชีวิตคนคนหนึ่งซึ่งเขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย มุกมองว่า ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เราน่าจะปรึกษาผู้ใหญ่ดีกว่าไปทำกันเอง อย่างในซีรีส์ที่เขาสะท้อนออกมาให้ดู มันเป็นเรื่องที่เกินตัวไปสำหรับวัยเรา

• คิดว่าปัญหานี้เยอะไหมในวัยรุ่น
เยอะนะ (ตอบเร็ว) ก่อนหน้าที่จะได้รับบทนี้จะไม่ค่อยรู้อะไรมาก พอได้มาแสดงก็จะเริ่มรู้ขึ้นมาบ้างเพราะอย่างที่บอกไปว่ามุกจะพยายามศึกษาข้อมูลเพื่อให้การแสดงออกมาโอเคที่สุด จะไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ไปนั่งอ่านข้อความที่คนอื่นเขาเขียนเล่าประสบการณ์ โอ้โห มันเยอะมาก อีกอย่าง มุกไปถามคนรู้จัก ถามเพื่อน ว่ามีคนรู้จักคนที่เคยทำแท้งหรือท้องก่อนวัยอันควรบ้างไหม ก็ได้ข้อมูลมาเยอะเลยนะคะว่ามันเป็นแบบนั้นแบบนี้นะ รู้ไหมคะ มุกตกใจที่หลายคนตอบว่ามีทั้งนั้นเลย ไม่คิดเลยว่าเขาจะตอบว่ามีกันเยอะมากๆ

ส่วนใหญที่ไปถามจะเป็นวัยรุ่น หรือถ้าเป็นผู้ใหญ่เขาก็จะเล่าย้อนไปในอดีตให้ฟังว่ามีคนรู้จักเคยทำ มุกว่าส่วนใหญ่จะเป็นวัยคึกคะนองนี่แหละ ทำไปโดยไม่คิดอะไรมาก อย่างถ้าเป็นผู้ใหญ่ เขาคงมีวุฒิภาวะที่คิดอะไรได้มากขึ้น เขาคงมีสติมากกว่าวัยรุ่น

• อย่างในซีรีส์ เฟิร์นเลือกที่จะปิดบังพ่อแม่ แก้ปัญหาด้วยตัวเอง ตรงนี้เราคิดยังไง
คือมุกเป็นคนที่มีอะไร มุกจะเล่าแม่หมด แม่จะรู้ทุกเรื่องของเรา บางเรื่องพ่ออาจจะไม่ได้รู้เยอะแต่มุกก็เล่าหมดนะคะ ส่วนใหญ่ก็จะรู้ แต่อย่างเรื่องผู้หญิงๆ จะคุยกับแม่มากกว่าเพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกันน่าจะเข้าใจกันมากกว่า มุกสนิทกับแม่มาก ตามติดเลยตั้งแต่เด็กๆ แม่จะคอยให้คำปรึกษา แนะนำ พยายามเข้าใจเรา เข้าใจในจุดของเราด้วยว่าลูกควรจะทำแบบนี้แบบนั้นนะ เขาจะไม่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ จะมองถึงความรู้สึกเราด้วย มีอะไรสามารถคุยได้หมด

• แล้วแบบนี้ ความรักในวัยรุ่นควรเป็นยังไง ถึงจะทำให้ไม่เกิดปัญหาแบบที่ว่านี้กัน
มุกคิดว่าวัยรุ่นมีความรักได้นะแต่ควรอยู่ในจุดที่พอดีกันทั้งคู่ ทั้งในเรื่องการวางตัว ถ้าเป็นผู้หญิงมุกว่าควรวางตัวให้ดี วัยรุ่นเป็นช่วงที่เปลี่ยนแปลงเยอะ มุกไม่ได้จะแช่งให้คู่ไหนเลิกกันนะคะ แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาก็ไม่ได้คบกันยืดยาว รู้สึกว่าจะทำอะไรก็ต้องคิดถึงอนาคตให้มากๆ อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวมาก เพราะว่าอะไรที่พลาดไปแล้วมันพลาดเลย

ควรคบกันในกรอบ อย่าทำอะไรที่มันเกินเลย ควรทำอะไรให้อยู่ในความพอดี แบ่งเวลาด้วย ถ้าหมกหมุ่นอยู่ในเรื่องความรัก การเรียนก็จะเสีย ควรแบ่งชีวิตตัวเองให้ดีว่าช่วงเวลาเรียนนะ ช่วงเวลากิจกรรมนะ หรือช่วงเวลาอยู่กับคนรักนะ รู้จักแบ่งเวลา จะได้ไม่มีปัญหา รู้จักการยับยั้งชั่งใจด้วย จะได้ไม่มีปัญหา อย่าให้เกินเลย วัยรุ่นจะคิดว่าตัวเองโตแล้ว แต่มุกมองว่ามันก็ยังเด็กอยู่น่ะ มันไม่ได้โตขนาดที่จะรับผิดชอบอะไรได้เยอะขนาดนั้น ไม่ได้มีวุฒิภาวะขนาดนั้น มุกมองว่าต้องให้โตกว่านี้ ถ้าคิดจะทำอะไร มันจะได้ดีกับตัวเอง

• ในฐานะที่ยังเป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง มีอะไรที่อยากจะสื่อสารถึงวัยรุ่นวัยเดียวกันบ้าง
อยากให้ทุกคนมีความรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง คิดถึงผลที่จะตามมา คิดถึงคนที่รักเราให้มากๆ ถ้าเราผิดพลาดขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่จะเสียใจมาก ดังนั้น เราต้องมีความรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง คิดให้มากๆ มีสติก่อนทำค่ะ

• ก่อนจะมาถึงบทบาทในฮอร์โมนที่เป็นสาวทำแท้ง มุกเคยผ่านงานแสดงมาก่อนไหม
เคยเล่นหนังสั้นมาก่อนค่ะ แต่ยังไม่เคยแสดงอะไรที่ต้องมีบทพูดยาวๆ ขนาดนี้มาก่อน รู้สึกเลยค่ะว่ายาก และก่อนที่จะได้เล่นจริงๆ ก็มีไปเข้าเวิร์กช้อปนู่นนี่นั่น ช่วยให้เบาใจไปเปลาะหนึ่ง แต่พอถึงตอนออกกองจริงๆ มันไม่เหมือนกัน จริงๆ ก็เป็นคนที่ชินกับการออกกอง เพราะออกกองบ่อย แต่ออกกองซีรี่ย์เราไม่เคยรู้เลยว่าเขาทำงานอะไรยังไงกัน ตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูก บทยาวมาก ซึ่งซีนแรกก็ถ่ายกลางสยามเลย มันกดดัน ต้องทำเวลา เพราะมันเป็นที่สาธารณะ คนเยอะ ต้องรีบเร่งทำเวลาด้วย ตอนนั้นถ่ายหลายเทคมากกว่าจะผ่าน เหมือนเราตื่นเต้นด้วย ซีนแรกต้องเข้าซีนกับพี่ต่อ (ธนภพ ลีรัตนขจร รับบทเป็นไผ่) แต่ก็โอเค ผ่านมาได้ ต้องขอบคุณพี่เขาเลย เพราะพี่เขาจะช่วยแนะนำว่าควรทำยังไง หลังจากนั้นพอเข้าซีน เข้าฉากมาเรื่อยๆ ก็เริ่มปรับตัวได้ง่ายขึ้น

• จุดเริ่มต้นของการได้เข้ามาอยู่ในแวดวงการแสดงนั้นเริ่มตรงไหน
โมเดลลิ่งมาเจอค่ะ คือตอนนั้นมุกน่าจะเดินอยู่แถวๆ โรงเรียน (โรงเรียนบดินทร์เดชา 1) พอโมเดลลิ่งมาเดินเจอ เขาก็เรียกเราไปแคสต์งาน เริ่มงานแรกก็คือถ่ายโฆษณา AIS 3G ตั้งแต่ปี 2554 ตอนนั้นอายุประมาณอายุ 16-17 ปี ได้ค่ะ (ยิ้ม)

• เป็นความฝันเลยไหม สำหรับงานในวงการ
ตอนเด็กๆ ไม่เคยใฝ่ฝันเลยว่าอยากจะเป็นดารา เหมือนเรารู้ตัวเองด้วยว่าเราเป็นคนไม่ค่อยมีเวลา แต่ถ้ามีโอกาสมากกว่านี้ ก็อยากจะไปให้ได้ไกลกว่านี้เหมือนกัน เพราะสนุก แล้วเราเองก็ชอบด้วย แต่จริงๆ เมื่อก่อนไม่ค่อยชอบงานในวงการเลย (ยิ้ม)

• เพราะอะไรถึงไม่ชอบ
ง่ายๆ เลยค่ะ ขี้เกียจไปนั่งรอ (หัวเราะ) แต่พอได้เข้าไป มันก็สนุกดีนะ ก็ยังมีขี้เกียจอยู่บ้าง แต่งานตรงนี้มันทำแล้ว มันได้อะไรเยอะแยะมาก เป็นประสบการณ์ชีวิต เรามีโอกาสที่จะทำตรงนี้ก็อยากจะทำให้เต็มที่ ฝึกความกล้าแสดงออกไปด้วยในตัว พอได้ทำไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกสนุก ท้าทาย มีอะไรแปลกใหม่ให้เราทำตลอดเวลา

• นอกจากงานในวงการ อะไรคือความฝันจริงๆ ของมุก
มุกอยากเป็นหมอฟันค่ะ ตอนนี้ก็เรียนทันตแพทย์อยู่ แต่ตอนแรกก็ไม่ได้อยากเป็นหมอฟันเหมือนกันนะ เพิ่งมาเปลี่ยนความคิดตอนเอนทรานซ์ ตอนแรกเรียนเทคนิคการแพทย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยากเข้าหมอ แต่สอบไม่ติด รู้สึกโชคดีเหมือนกันนะที่ไม่ติด เพราะมานั่งคิดจริงๆ แล้ว เราก็ไม่ได้อยากเป็นหมอเท่าไหร่ หมอเป็นอะไรที่ต้องรับผิดชอบคนและเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสมาก อีกอย่าง มุกเป็นคนที่ไม่ชอบตื่นเช้า (หัวเราะ) ถ้าเป็นหมอก็ต้องมีเข้าเวร ต้องทำทุกวัน ต้องมีระเบียบวินัยกับตัวเองค่อนข้างสูง (เน้นเสียง) เราเลยรู้สึกว่าเราจะรับผิดชอบได้ขนาดนั้นเลยไหม นั่นมันชีวิตคนเลยนะ

เนื่องจากมุกชอบสายวิทยาศาสตร์ เลยลองหาข้อมูลเกี่ยวกับหมอฟันดู ไปๆ มาๆ มันก็โอเคนะเพราะว่ามันก็ดูเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราด้วย ถึงตอนแรกจะเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าเราทำไปเรื่อยๆ เปิดคลินิกให้กับตัวเองได้ เราก็จะกำหนดตัวเองได้แล้วว่าเราอยากเปิดกี่โมง ปิดกี่โมง รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เหมาะกับตัวเองดีค่ะ (ยิ้ม)

• เรียนทันตแพทย์แบบนี้ แสดงว่าต้องเรียนเก่งมากแน่ๆ
ไม่ถึงขนาดนั้นนะคะ (หัวเราะ) มุกแค่ตั้งใจเรียนเพราะอยากให้พ่อกับแม่สบายใจและดีใจ เพราะอะไรที่เราทำให้เขาได้ เราก็อยากทำให้

• เกรดเป็นยังไงบ้าง
ตอนประถมก็ 4.00 ม.ปลายก็ได้ประมาณ 3.9 กว่าๆ ค่ะ (ยิ้ม) แต่มุกคิดว่าไม่เก่งนะคะ มันก็เป็นแค่ตัวเลข มุกไม่ได้มองว่าตัวเองเก่งเลย ยังมีอะไรที่เราต้องพัฒนาตัวเองเยอะเลย อย่างเวลาไปเจอเพื่อนที่คณะ ก็จะมีแต่คนเก่งๆ เพื่อนก็เก่งกันทุกคนเลย เราก็จะมองว่าตัวเองไม่เก่งเลย แต่เวลาอยู่ในคณะก็จะช่วยกัน ใครถนัดวิชาไหนก็ช่วยกันติว ดังนั้น มันไม่น่าจะเรียกว่าเก่งหรอกค่ะ น่าจะเรียกว่าถนัดมากกว่า อย่างทำกับข้าว มุกก็ไม่เก่งนะ ทอดไข่เจียวได้หนูก็ดีใจแล้ว (หัวเราะ)

แต่คิดว่ามุกเป็นคนขยันมากกว่าค่ะ ชอบอ่านหนังสือ อย่างครูสั่งอะไร จะอ่านล่วงหน้า ท่องหมดเลย ถึงขนาดว่า เวลาเดินตามแม่ทำงานบ้านหรือทำกับข้าว มุกก็จะเดินไปอ่านให้แม่ฟัง มุกจะติดอ่านหนังสือ แต่ไม่ค่อยติดพวกหนังสือเรียนเท่าไหร่นะ จะติดหนังสือการ์ตูน หนังสือนิยาย มันดูเป็นพื้นฐานเกี่ยวกับการรักการอ่านที่ดีเลยนะคะ มุกคิดว่า ถ้าตอนเด็กๆ เราตั้งใจมาดี พื้นฐานดี มันก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

• ในฐานะที่เรียนดี มีเทคนิควิธีอะไรแนะนำเพื่อนๆ หรือน้องๆ ไหม
ก่อนอื่นต้องเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่เนิ่นๆ อยากเป็นอะไรก็เริ่มหาตัวเองได้แล้ว จะให้ดี มุกแนะนำให้เริ่มอ่านตั้งแต่ ม.5 เทอม 2 เลยค่ะ หยิบมาอ่านทุกวันได้แล้ว เพราะมันจะไม่หนักตอนใกล้สอบ แต่ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ก็อยากให้แบ่งเวลาตอน ม.6 ให้ดี วิชาไหนที่ถนัด ก็อยากให้เก็บให้ได้มากๆ ไม่ใช่ว่าวิชานั้นคิดว่าตัวเองโอเคแล้ว ทำได้แล้ว ถนัดแล้ว อ่านนิดหน่อยก็พอ แล้วเอาเวลาไปอ่านวิชาอื่น เอาจริงๆ นะมุกว่ามันจะล่มหมดเลยเพราะเคยเป็นมาแล้ว (หัวเราะ) จริงๆ มุกถนัดเลขมากกว่าวิทย์ แต่เรามัวไปเก็บทางด้านวิทย์ สรุปมันก็ไม่ทันสักอย่าง อย่าทำแบบว่า วิชานั้นก็ต้องอ่าน วิชานี้ก็ต้องอ่าน ควรอ่านที่มันทำได้แน่ๆ เก็บไว้ให้ได้แน่นอนดีกว่า

• งานในวงการก็ทำ เรียนก็หนัก แบ่งเวลาเรียนยังไง
มุกเคยมีปัญหาเรื่องแบ่งเวลานะเพราะมัวแต่รับงาน แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วนะคะ มุกจะพยายามเก็บความเข้าใจตั้งแต่ตอนเรียนในห้องเรียนให้เยอะๆ เพราะถึงตอนอ่านเอง มันจะได้ไม่ต้องทำความเข้าใจเองใหม่หมด มุกจะชอบพกหนังสือ อย่างวันนี้ก็พกมา (ยิ้ม) เพราะเราไม่รู้ว่าตอนไหนเราจะมีเวลาว่าง อย่างอยู่บนรถไฟฟ้า ว่างๆ เราหยิบมาอ่านสักหน่อยก็ยังดี มุกรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนที่มีอะไรต้องทำเยอะ เลยอยากทยอยอ่านไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีงานเข้ามาเมื่อไหร่ด้วย

• กิจกรรมยามว่างจากการเรียนหรือทำงาน มุกชอบทำอะไร
กินกับนอนค่ะ (หัวเราะ) อาจจะมีดูหนัง ฟังเพลง แล้วก็นั่งหาคลิปเต้น ชอบดู ดูแล้วเพลินมากเลย ชอบอันไหน ก็จะเปิดมานั่งแกะท่าเต้น ชอบไปสวนสาธารณะ ไปปั่นจักรยาน นั่งพักผ่อน อย่างชอปปิ้งก็ชอบนะคะ ถ้าว่างตอนบ่ายจะเลือกชอปปิ้ง แล้วก็ชอบดูหนังมาก เพราะมันดูเงียบสงบ บางทีใครไม่ว่าง ก็สามารถเข้าไปดูเองคนเดียวได้

• สุดท้าย เห็นว่ามีคนยกให้เราเป็นเน็ตไอดอลไปแล้วด้วย
เดี๋ยวนี้ มุกว่าเน็ตไอดอลมีค่อนข้างเยอะนะคะ มุกก็ไม่รู้ว่ามีใครยกให้เราเป็นไอดอลเขาหรือเปล่า มุกยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาทั่วไปมากๆ เลยนะ แต่ถ้ามีคนให้เราเป็นไอดอล แล้วเอาเรื่องดีๆ ของเราไปทำ เราก็ดีใจนะคะ (ยิ้ม)

Profile

ชื่อ : จินต์จุฑา รัตนบุรี

ชื่อเล่น : มุก

วันเกิด : 16 มิถุนายน 2538

การศึกษา : ปี 1 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ฉายา : ดาวโก๊ะ

งานอดิเรก : ดูหนัง, ดูคลิปเต้น

ไอดอล : แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์