“ไปอยู่ที่ไหนมา ไม่รู้จักเจ๊อ้อ แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวสุดเซ็กซี่แห่งเพชรบุรี ซอย 5”
อย่าว่างั้นว่างี้เลย ถ้าคุณอยู่ในยุคโซเชียลครองเมือง แล้วยังทำหน้าเหรอหรา ราวกับว่าไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามบุคคลดังกล่าว คุณอาจจะต้องเจอคำถามทำนองนี้อย่างแน่นอน
เพราะไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่ “เจ๊อ้อ” หรือ “พี่อ้อ” ณ ตอนนี้ ดังไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนา ฮ่องกง อินเดีย ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน ลาว มาเลเซีย ฯลฯ ต่างได้ยินชื่อเสียงกิตติศัพท์ของเธอผู้นี้ ถึงขนาดที่ว่า มาติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดสาขา
เจ๊อ้อเป็นแม่ค้า แต่ทว่าลวดลายลีลาที่บรรดาฟอลโลเวอร์ในโลกแห่งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แจ่มชัดถนัดตา คือท่วงท่าเอกลักษณ์การโพสต์ภาพและคำ ที่ทำให้เธอแตกต่างไปจากแม่ค้าคนอื่นๆ
“คนหื่นๆ ก็ชอบน่ะสิ” ใครบางคนอาจแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้ เมื่อเห็นภาพของเจ๊อ้อในเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม อย่างไรก็แตม...อืมมม...อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุผลที่มา
ด้วยเหตุนี้นั้น ก่อนจะปล่อยสายตาและอารมณ์ให้ตะลึงพรึงเพริดไปกับท่าโพสต์สุดบรรเจิดของเจ๊ เรามารับฟังกันหน่อยดีไหมว่า เพราะอะไร เจ๊ถึงได้ “แรง” และ “แร๊งงงงงงส์ส์ส์...” ถึงเพียงนั้น?
พี่เริ่มทำเฟซบุ๊กเมื่อ 2 ปีที่แล้วค่ะ เพราะคิดว่าเราต้องทำเพจเพื่อจะได้ให้ข้อมูล ให้ประโยชน์กับลูกค้าอย่างเต็มที่ ตอนนี้มีแฟนเพจในเฟซบุ๊กราวสองแสนกว่าคน ในอินสตาแกรมก็มีคนติดตามมากกว่า 3 หมื่นคน
แต่ตอนแรกเราทำไม่เป็นนะ ก ข ค อยู่ตรงไหน ยังไม่รู้เลย แม้แต่เปิดคอมพิวเตอร์ก็ยังเปิดไม่เป็นเลย เราก็เริ่มต้นฝึกด้วยการท่องแป้นพิมพ์ พรินต์แป้นพิมพ์มาแปะติดเพดาน ฝาผนัง ติดไว้ทุกที่ เอาไว้ท่อง ต้องจำให้ได้หมด จนถึงตอนนี้ก็สามารถพิมพ์ได้คล่องมากๆ
พี่คิดว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน เราพยายามทำออกมาให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด พี่ทำเองทั้งหมดนะ ตั้งแต่ทำเพจ ถ่ายรูป ตอบแฟนเพจ สร้างกระแสเอง ทำทุกอย่างเองหมดเลย แล้วจะบอกว่าไม่เคยซื้อโฆษณานะคะ (น้ำเสียงจริงจัง) ที่ไม่ซื้อโฆษณาเพราะมองว่ามันไม่ยั่งยืน สู้เราเอาเงินตรงนั้นมาซื้อของแจกสมนาคุณลูกค้าหรือแฟนเพจดีกว่า
จริงๆ เพจเฟซบุ๊กนี้ถูกสร้างขึ้นมาก่อนนานพอสมควรแล้วล่ะ โดยมีน้องๆ พนักงานในร้านเป็นผู้ดูแล มีแฟนเพจประมาณ 2 พันคน เริ่มเป็นที่รู้จักโดยวงกว้างบ้างแล้ว แต่สุดท้ายพี่นึกสนุก เอาวะ เอามานี่ เดี๋ยวเราทำเอง
คือเรื่องแบบนี้ต้องอาศัยวาทศิลป์มากๆ ต้องให้มันมีอะไร อะไรในที่นี้คือคำถาม จะมีคนเข้ามาตอบ เข้ามาคอมเมนต์ เข้ามาช่วยเหลือ เช่น มีบางอันที่เราทอนเงินผิด ก็ถามให้ลูกค้าช่วยคิดจริงๆ ก็รู้อยู่แล้วแหละ แต่อยากได้คอมเมนต์ไง (ยิ้ม)
เพจเฟซบุ๊กทำอะไรหลายๆ อย่างให้พี่มหาศาลเลยนะ อย่างเช่น จะมีคนเอาเสื้อผ้ามาให้ใส่ฟรี เพราะเขาเห็นคนติดตามเราเยอะ เพื่อให้เราใส่แล้วมีคนถามว่าซื้อที่ไหน อะไรยังไง (ยิ้ม) มันเหมือนเป็นการโฆษณาให้เขาไปในตัว แต่ก็ไม่ได้โฆษณาแบบตรงๆ นะ อีกอย่างจะใช้นมเข้ามาช่วย แล้วโพสให้มันเก๋ๆ เข้าไว้ มันต้องมีเทคนิค (หัวเราะ) พี่ใช้เทคนิคจากตัวเองนี่แหละเป็นตัวโปรโมต
เทคนิคง่ายๆ เลยคือพี่จะไม่โพสต์รูปร้านก๋วยเตี๋ยวหรือโพสต์ตอนทำก๋วยเตี๋ยว โพสต์แบบนี้ทุกวัน ใครมันจะกดไลค์ น่าเบื่อไหม น่าเบื่อ (เน้นเสียง) เป็นเรา เราก็เบื่อ คือรู้แล้วว่าคุณขายก๋วยเตี๋ยว คุณไม่ต้องโพสต์ทุกวันก็ได้มั้ง คนก็ฮือฮา แชร์แป๊บเดียว เดี๋ยวเขาก็ไม่สนใจแล้ว เพราะว่าเคยแชร์แล้ว แต่ของพี่มันต่างจากตรงนั้น
พี่เรียนรู้ว่าโพสต์แบบไหนคนจึงจะเข้าถึงมากที่สุด อย่างการโพสต์รูป ในขณะที่คนอื่นอาจโพสต์รูปทำก๋วยเตี๋ยว แต่เรา “ไม่” จ้าาาาา... เรายกขา หมี่กูจะออกแล้ว เอาสิไม่อยากกดไลค์กันให้มันรู้ไป และที่สำคัญ พี่จะเน้นเล่นกับชีวิตประจำวันของคน ถ่ายทอดให้เขาเห็นว่ามันไม่ได้สวยงามไปหมดทุกอย่างหรอก นี่เป็นความตั้งใจนะ เป็นการโปรโมตร้านอย่างหนึ่ง ให้เขาด่าไปเถอะ แต่คุณรู้จักร้านเราแล้ว ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยววันหนึ่ง เสพไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมึงก็รักกูเองโดยธรรมชาติ (หัวเราะ)
เราสร้างตัวเองให้เป็นที่รู้จักโดยใช้หน้าตาตัวเอง ใช้ตัวเองทั้งหมดมาสร้างให้คนจดจำ เพราะร้านเราไม่มีเงินจ้างพริตตี้ นางแบบ หรือดารา เพราะฉะนั้น เราต้องใช้ตัวเราเอง ต่อให้เราไม่ใช่คนสวย เป็นคนอ้วน ขี้เหร่ แต่เราจะพยายามนำเสนออกมาให้ฮา ให้ตลกเข้าไว้ แบบนี้แหละคนจะติด คนเสพสื่อโซเชียลเขาเห็นเราทุกวันๆ จนเขาติด เหมือนกับการติดละคร เราก็เป็นตัวละครตัวหนึ่งในเฟซบุ๊ก
พี่ชอบแต่งตัว เป็นคนแต่งตัวเก่งอยู่แล้วด้วย ชอบแต่งตัวให้มีรสนิยม จะบอกว่าอายุพี่นี่ครึ่งชีวิตคนแล้วนะ วัยเกือบ 50 ปี ถ้าไม่เซ็กซี่ตอนนี้ จะให้ไปเซ็กซี่ตอนไหน แล้วอีกอย่างพี่มองว่าท่าทางหรือการโพสอะไรต่างๆ คนอื่นเขาแรงกว่านี้อีกนะ ของพี่มันเรียกว่าศิลปะ เซ็กซี่ ไม่ได้โป๊และอนาจาร
คืออย่าลืมสิว่า พี่ต้องพรีเซนต์เสื้อผ้าให้เขาด้วย เพราะฉะนั้น เสื้อผ้าที่เขาส่งมาให้ เราต้องใส่ได้ทุกชุด โป๊เหรอแบบนี้ ดาราบางคนผ่ายิ่งกว่าอีก หรือบางคนมาแบบสะพานโค้งเลย ทำไมไม่ไปด่า มึงมาด่ากูทำไม กูเป็นแค่แม่ค้าเอง จะทำอะไรมันก็เรื่องของกู ยิ่งด่ายิ่งดัง อยากด่า ด่าไปเลย โป๊เหรอ พี่ว่าดูดี ดูไฮโซจะตายไป ไฮโซบางคนใส่เสื้อสายเดี่ยวซีทรูออกงาน ไม่ใส่เสื้อในนะคะ แต่คนก็มองว่าเขาเป็นไฮโซเป็นเซเลบ อย่างนั้นเหรอที่ควรสรรเสริญเยินยอ
คำว่าโป๊กับคำว่าเซ็กซี่ไม่เหมือนกันนะคะ โป๊คืออุจาด อุบาทว์ ผู้ชายชอบ ผู้ชายที่มาในร้านเรา มันไม่มองหรอกแค่นี้ เพราะในมือถือมันโหลดเก็บไว้เป็นเรื่องเลย แค่นี้พี่เลยมองว่ามันเล็กๆ พี่อายุก็ครึ่งชีวิตแล้วนะ ผู้หญิงที่อายุขนาดนี้รักษาผิวพรรณและรูปร่างได้ขนาดนี้ มันเป็นการสอนคนทางอ้อมวิธีหนึ่งนะว่า ถึงจะทำงานหนักขนาดไหน ก็ต้องดูแลตัวเอง พี่มีความสุข สวย สนุก เลยอยากจะสื่อให้ลูกค้า ให้แฟนเพจเห็นว่าฉันอายุจะ 50 ปีแล้ว ฉันยังเป๊ะได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ฉันก็ทำงานหนักมาก
“พี่เรียนรู้ว่าโพสต์แบบไหนคนจึงจะเข้าถึงมากที่สุดอย่างการโพสต์รูป
ในขณะที่คนอื่นอาจโพสต์รูปทำก๋วยเตี๋ยว แต่เรา “ไม่” จ้าาาาา...
เรายกขา หมี่กูจะออกแล้วเอาสิ ไม่อยากกดไลค์กันให้มันรู้ไป”
พี่มองว่ารสชาติอาหารกับการบริการค่ะ ซึ่งทั้งสองอย่างมันต้องมีควบคู่กันไปนะ ถ้าเราบริการดี อาหารไม่อร่อยมันก็เท่านั้น แต่ถ้าเราบริการไม่ดี ต่อให้อาหารอร่อย เขาก็ไม่มา อย่างบางร้าน อาหารโคตรอร่อยเลย แต่แม่งไม่สนใจเราเลย อร่อยแล้วต้องง้อสุดชีวิต ต้องเสียเงินมากินนะเว้ย เราอยากไปอีกไหม เราก็ไม่อยากไป
คนรักพี่เยอะมากจริงๆ นะ เวลาไปไหนต้องใส่หนวด ใส่แว่น ใส่วิก พรางตัวเลยนะ บางทีเขามาทัก แต่เรารีบไง (หัวเราะ) พี่ได้เป็นเน็ตไอดอลด้วยนะ ที่ได้เป็นเพราะว่ามีคนติดตามในโลกโซเชียลเยอะ แล้วเราก็เป็นบุคคลธรรมดา เป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวธรรมดาๆ ตอนแรกๆ ก็ไม่เข้าใจนะว่าเน็ตไอดอลคืออะไร ก็ได้แต่ถามเขา ซึ่งเขาก็บอกว่าเราเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่คนดัง แต่มีคนติดตามเยอะ ซึ่งคนดังบางคนเขายังทำไม่ได้เลย พี่ก็งงนะว่าแค่นี้มันเยอะแล้วเหรอวะ (หัวเราะ)
พี่เฉยๆ กับพวกโลกสวยนะ เจอมาเยอะมาก แต่เราคิดว่ายิ่งด่ายิ่งดัง ไม่รู้จะโกรธไปทำไม ไม่เห็นต้องสนต้องแคร์เลย เพราะคนที่ด่าเราเขาเป็นใครก็ไม่รู้ เขาอยู่ในมุมมืด เราอยู่ในมุมสว่าง คนรักเราก็มี และไม่แปลกถ้าจะมีคนเกลียด เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ พี่อายุจะครึ่งชีวิตแล้วนะ เพราะฉะนั้น เรื่องพวกนี้ไม่สามารถทำให้พี่หวั่นไหวได้เลย ต่อให้เขาจะไปขุดประวัติมาหาว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ เชิญเลย เพราะมันจะยิ่งทำให้เราดังขึ้นอีก (ยิ้ม)
ไม่เคยมีอะไรที่ทำให้พี่หวั่นไหวได้เลย บางคนแรงมาก ด่าว่าพี่ขายอวัยวะเพศ ขายตัวนู่นนี่นั่น พี่ก็ตอบสวยๆ ว่าไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ถ้าเราขายอย่างอื่น เราจะประกาศบอกผ่านทางเพจเฟซบุ๊กนะคะ ถ้าเราขายแบบนั้นจริงๆ เราจะโพสต์รูปสะพานโค้งให้ดู จะได้เลือกถูกว่ากลีบมันบานหรือไม่บาน หงอกหรือไม่หงอก คนที่ชื่นชอบ เขาก็ชม บอกว่าเป็นคนตรงดี
พี่มองว่าบางคนที่เขาเป็นดารา เขายังต้องสร้างกระแส จ้างคนด่าตัวเองอะไรแบบนี้ แต่นี่พี่ไม่ต้อง เพราะคนเข้ามาด่าโดยอัตโนมัติ (หัวเราะ) ด่ามาเถอะ ไม่ได้ใส่ใจ เพราะไม่ได้เป็นคนอาฆาตแค้นอะไรเลย จะทำก็แค่แท็กรูปคนที่ด่ามาที่หน้าเพจ ให้เขาโดนด่าบ้าง แค่นั้นจบ ให้รู้ว่าเพจฉัน แม่ค้าแม่งแรงนะ (หัวเราะ) ขายต้มยำนะยะ จะให้มาคะๆ ขาๆ มันไม่ใช่ ขายต้มยำ ไม่ได้ขายแกงจืดเต้าหู้ เพราะฉะนั้น บุคลิกแม่ค้าต้องแซ่บ คำพูดแม่ค้าต้องแซ่บด้วยเหมือนกัน
เรื่องท่าโพสก็เหมือนกัน กูนั่งท่านี้ เพราะกูเมื่อย (พูดพร้อมชันขาข้างหนึ่งขึ้นบนเก้าอี้) นี่เป็นชีวิตจริงของมนุษย์ อยู่บ้านนั่งไหม ก็นั่งกัน แล้วเคยมีใครโพสต์ไหม แต่พี่กล้าโพสต์เพราะพี่ไม่อยากให้คนรู้สึกโลกสวยจนเกินไป ให้เขาได้เห็นว่าเราเป็นของเราแบบนี้ เป็นแม่ค้าธรรมดาๆ ที่สามารถจับต้องได้
“คนหื่น มันหื่นกันทุกคนแหละ
ต่อให้ปิดถึงกระดุมคอ มันก็หื่น
แอร์โฮสเตสโดนตบตูดเยอะแยะไป
ขนาดเขาใส่กระโปรงยาวเลยเข่า
เสื้อปิดถึงคอแถมมีผ้าผูกคอ ยังโดนตบตูดเลย”
คนมาจีบเหรอ เยอะมาก (ตอบทันที) มีทั้งลูกค้าไทย ลูกค้าต่างชาติเข้ามาเยอะมาก จะซื้อรถซื้อบ้านให้ แต่เราบอกไม่เป็นไร ซื้อเองได้ มาจีบเยอะมาก บางวันมีเป็นร้อยคนเลยก็มี (ยิ้ม) เขาเข้ามาทางไลน์เลย ถามประมาณว่ามีแฟนหรือยัง ขอเป็นแฟนได้ไหม ได้ข่าวว่าเป็นม่ายอยู่นะ ไม่คิดจะแต่งงานใหม่เหรอครับ (หัวเราะ) ถ้าเจอแบบนี้ จะไม่ตอบเลยหรือส่งแค่อีโมชันรูปยิ้มให้ จบ เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนเป็นลูกค้าดีกว่านะคะ
คนหื่น มันหื่นกันทุกคนแหละ ต่อให้ปิดถึงกระดุมคอ มันก็หื่น แอร์โฮสเตสโดนตบตูดเยอะแยะไป ขนาดเขาใส่กระโปรงยาวเลยเข่า เสื้อปิดถึงคอแถมมีผ้าผูกคอ ยังโดนตบตูดเลย คนมันจะหื่น ไม่ต้องแต่งโป๊ มันก็หื่น อย่างพี่นี่ทำให้คนเกิดอารมณ์ทางเพศเหรอ ไม่จริง (เสียงแข็ง) ลองไปดูในโลกโซเชียลสิ มันยิ่งกว่าอีก บางคนมาทั้งเต้าเลย ไม่ปิดหัวนมด้วย เปิดทั้งบนทั้งล่าง แบบนั้นมันอนาจารแล้ว ของพี่นี่เขาเรียกว่ามีรสนิยม เพราะรสชาติอาหารจะดีไหม คนติดไหม อยู่ที่รสนิยมแม่ค้า ดังนั้น รสนิยมแม่ค้าต้องดีด้วย
คือพี่มีแพลนจะขยายสาขา แต่ยังไม่รู้ว่าจะย้ายไปไหน มีคนติดต่อมาเพื่อจะให้ขยายสาขาเยอะมาก เป็นร้อยๆ เจ้าแล้ว ตอนนี้ดังไปถึงฮ่องกง อินเดีย ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย ลาว เพราะสื่อหลายสำนักจากประเทศเหล่านี้ เขามาถ่ายทำรายการเพื่อไปออกอากาศที่บ้านเขา
เรื่องแฟรนไชส์ก็มีคุยๆ อยู่นะ แต่อีกใจก็คิดเหมือนกันว่าเราอยู่แบบนี้ก็โอเคแล้วจะไปทำให้เหนื่อยทำไม อยากอยู่แบบนี้ นั่งสวยๆ ลูกค้าเข้ามาหาเราเอง คิดว่าถ้าวันหนึ่งมีแฟนเพจทางเฟซบุ๊กสัก 1 ล้านคน มี 1 เปอร์เซ็นต์ที่มาจากเพจ แล้วมากินร้านเรานี่ มันเยอะมาก ไม่หมดแล้วนะ จะยังไงต่อไป คงต้องขอดูอีกทีค่ะ
รู้จักเพิ่มสักนิด “ร้านพี่อ้อ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง เพชรบุรีซอย 5”
ร้านพี่อ้อ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง เพชรบุรีซอย 5 เปิดขึ้นมา เนื่องจากความอยากมันส์ของแม่ค้าร้านนี้ นั่นก็คือ พี่อ้อ หรือ ‘อรนุช อัศวกุล’ อดีตสาวนักศึกษาด้าน ปวช. เริ่มต้นการทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศและลาออกมาช่วยงานในร้านอาหารของแม่ แต่ด้วยความอยากลองและหลายคนมองว่าเป็นคนเก่งจึงมองหาลู่ทางอาชีพด้วยการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว จากนั้นเป็นต้นมา เธอเลยมองหาเมนูแปลกๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้งด้วยการใช้กุ้งแม่น้ำตัวโตมาขายในราคาที่คนธรรมดาก็ซื้อหาได้ นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ ให้ลิ้มลองอีกมากมาย อีกทั้งเธอยังมีความคิดที่ว่าอาหารหน้าตาสวย รสชาติอร่อยใครๆ ก็อยากถ่ายรูปโชว์
จากประสบการณ์การลองผิดลองถูกมาเป็นเวลา 7 ปี ด้วยรสชาติอาหารที่อร่อยและการสร้างกระแสของแม่ค้าเป็นที่น่าสนใจ เหล่านี้เองทำให้ร้านพี่อ้อก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง เพชรบุรีซอย 5 กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ แถมตอนนี้ยังโด่งดังไปยังต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งตอนนี้เธอให้น้องสาว (คุณตา) เป็นผู้จัดการร้าน ส่วนเธอเป็นผู้คุมมาตรฐาน
อาหารร้านนี้เจาะกลุ่มลูกค้าตั้งแต่เด็กอายุประมาณ 3-4 ขวบ จนถึงผู้สูงอายุ 90 ปี ส่วนอาหารสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 50-5,000 บาท ซึ่งหากใครอยากมาลิ้มลอง สามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทร. 0-2612-9013 หรือทาง facebook : ร้านพี่อ้อก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง เพชรบุรีซอย 5, Instagram: aor44
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช และภาพจาก facebook ร้านพี่อ้อก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง (เพชรบุรีซอย 5)