“ปานเทพ” เผยเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ร่วมทุน “ดร.คล้ายอัปสร” จัดตั้ง “ศูนย์ห้องปฏิบัติการแมนเนเจอร์” เพื่อปฏิวัติสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยการเอาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไปเป็นพลังในการเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในแนวทางธรรมชาติบำบัด โดยมีบริการตรวจหาอาหารต้องห้ามเฉพาะบุคคล - โลหะหนักในกระแสเลือด - ดีเอ็นเอความเสี่ยงเป็นโรค - น้ำเอนไซม์ เชิญชวนร่วมประเดิม 21 - 22 มิ.ย. ที่อาคารอนุรักษ์ บ้านเจ้าพระยา
วันที่ 13 มิ.ย. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตย พร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร นักชีวเคมีผู้เชี่ยวชาญการถอดรหัสพันธุกรรม ร่วมในรายการ “ปฏิวัติสุขภาพกับปานเทพ” เผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทิวบ์ ในชื่อตอน MANNATURE Lab Center
โดย นายปานเทพ ได้เปิดเผยว่า จะมีการจัดตั้งองค์กรเพื่อสุขภาพขึ้น โดยการร่วมทุนของสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ กับ รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร ชื่อว่า Man Nature Lab Center หรือ ศูนย์ห้องปฏิบัติการแมนเนเจอร์ โดยทำหน้าที่เอาผลทดลองทางวิทยาศาสตร์มาเป็นข้อมูลเพื่อเป็นพลังในการเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ในการมีสุขภาพที่ดีขึ้น
ในเบื้องต้นจะมีการตรวจ 4 ประเภท คือ 1. ตรวจอาหาร หรือ Food Test เพื่อตรวจอาหารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ หรืออาหารที่ไม่เหมาะเฉพาะตัวบุคคล เพื่อไปปฏิวัติสุขภาพตัวเองว่าไม่ควรรับประทานอะไรถึงสุขภาพดี
2. ตรวจโลหะหนักในกระแสเลือด เนื่องจากอากาศเป็นพิษ น้ำดื่มไม่สะอาด อาหารที่กิน เช่น ปลา ผักผลไม้ อาจมีโลหะหนักปนเปื้่อนมา ข้อมูลจะเป็นประโยชน์อย่างมาก อาจทำให้รู้ว่าแหล่งน้ำที่ใช้มีปัญหา อาจต้องเปลี่ยนระบบท่อใหม่ หรือพื้นที่เกษตรใกล้บ้านมีปัญหา จะได้หาแหล่งอาหารใหม่ที่ไม่มีสารพิษ ส่วนคนที่อยู่ใกล้โรงงาน ก็จะสามารถเอาเป็นข้อมูลฟ้องร้องโรงงานได้ หรือย้ายที่อยู่อาศัยไปในที่ปลอดภัย
3. ตรวจรหัสพันธุ หรือ ดีเอ็นเอ เพื่อจะได้รู้ล่วงหน้าว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคอะไร
4. ตรวจน้ำเอนไซม์ เนื่องจากระบบเอนไซม์ หรือการย่อยอาหารพอนานไปร่างกายสังเคราะห์เอนไซม์ได้ช้าลง ถ้าจะเพิ่มเอนไซม์ก็ทำได้ด้วยการกินพืชอาหารสด หรือน้ำหมัก ซึ่งน้ำหมักที่ขายกันทั่วไปไม่มีใครไปตรวจว่าจริงหรือเท็จ มีเชื้อโรคไหม มีข้อเสียหรือไม่ ไม่เคยมีใครให้คำตอบเพราะธรรมชาติบำบัดไม่เป็นวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไม่สนใจธรรมชาติบำบัด เลยมีความเห็นว่าจะตั้ง Ensyme Lab Center เพื่อศึกษาเอนไซม์โดยเฉพาะ เพื่อตรวจหาการหมักที่ถูกวิธี จำนวนเวลาที่เหมาะสม หาเชื้อจุลินทรีย์ดีและไม่ดีว่าเหลือเท่าไหร่ มีสรรพคุณทางยาจริงหรือไม่ ถ้าตรวจสอบได้ก็จะมีประกาศนียบัตรเฉพาะขวดนั้นๆ เลย แล้วข้อมูลที่ได้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ชาวบ้านที่ทำน้ำหมักก็จะได้ทำในแนวทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำตามคำบอกเล่า
ทั้งนี้ 4 ภารกิจหลักนี้จะเป็นศูนย์ปฏิบัติการเพื่อการปฏิวัติสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งเราเชื่อว่าพลังข้อมูลเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงประเทศได้ โดยเราจะให้เฉพาะข้อมูล ไม่มีขายอาหารเสริมหรือวิตามิน
ทางด้าน รศ.ดร.คล้ายอัปสร ได้กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายจะไม่แพงเท่าที่ทั่วไปทำกัน ไม่แพงอย่างการตรวจดีเอ็นเอ เจาะเลือดน้อยกว่า โดยเจาะเลือดครั้งเดียวสามารถรู้ได้หมดทั้งฟู้ดเทสต์ โลหะหนัก และดีเอ็นเอ ส่วนเหตุผลที่จับมือกับผู้จัดการเพราะสุขภาพเป็นกระแสของโลก แล้วประเทศเรายังไม่มีใครทำแบบครบถ้วน เลยคิดว่าทำแบบครบถ้วนจะใช้ประโยชน์ได้จริง แล้วค่าใช้จ่ายคุ้มค่ากว่าการใช้จ่ายจากการป่วย
นายปานเทพ กล่าวถึงรายละเอียดเพิ่มเติมว่า จะมีการตั้งแลปที่บ้านพระอาทิตย์ อาคารบี และเนื่องจากเป็นศูนย์ตรวจอาหารใหญ่ที่สุดในประเทศ ก็เลยต้องประสานหลายส่วน ทั้งสถานพยาบาล เทคนิคการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ พยาบาลที่มีใบประกอบวิชาชีพถูกต้อง
โดยจะเปิดทดลองครั้งแรกในวันที่ 21 - 22 มิ.ย. 2557 ซึ่งเป็นวันที่มีงานพระอาทิตย์แฟร์ ที่อาคารอนุรักษ์ บ้านเจ้าพระยา โดย ตน กับ รศ.ดร.คล้ายอัปสร จะบรรยายในเวลา 10.00 - 11.00 น. ทั้งสองวัน โดยจะเล่าข้อมูลอย่างละเอียด หากใครสนใจสามารถตรวจเดี๋ยวนั้นได้เลย จะมีสถานพยาบาลคอยเจาะเลือดตรวจ ซึ่งจะรู้ผลไม่เกิน 7 - 10 วัน สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทรได้ที่เบอร์ 09-6065-3684 และ 09-6065-3685