ASTVผู้จัดการ – กรมบัญชีกลางเผยผลการเบิกจ่ายเงินตาม พ.ร.ก.เงินกู้เพื่อบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ตั้งแต่ปี 2555 สมัย รบ. ยิ่งลักษณ์ พบใช้ไปแล้วราว 10,627 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบท-กรมทางหลวง-สำนักปลัด ก.อุตฯ ใช้เยอะสุด จับตา “ปราโมทย์” นำทีมยื่นหนังสือประยุทธ์ เสนอยุบ สบอช.
เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง เผยผลการเบิกจ่ายเงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้าน ตั้งแต่ปี 2555 โดยเป็นข้อมูล ณ 23 พ.ค. 2557 หลังรัฐประหาร 1 วัน พบเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว 10,626.86 ล้าน กรมชลประทานเบิกแล้วกว่า 2.4 พัน ล. ส่วน กรมทางหลวงชนบท เบิกซ่อมถนนชนบทกว่า 6 พัน ล. จับตาวันนี้นักวิชาการด้านน้ำจับมือวิศวกรรมสถานฯ ยื่นหนังสือ คสช. โละโครงการลงทุนน้ำ 3.5 แสนล้าน พร้อมยุบ สบอช.
หลังจาก นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า วันที่ 4 มิ.ย. นี้ ตัวแทนนักวิชาการด้านน้ำและสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) จะยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ คสช. มีคำสั่งยกเลิกโครงการลงทุนตามแผนบริหารจัดการโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และให้ยุบสำนักนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) โดยเสนอให้ยุบแผนการป้องกัน (Prevention) โครงการพื้นที่ต้นน้ำ โครงการพื้นที่กลางน้ำ และโครงการพื้นที่ปลายน้ำ ก่อนมาทบทวนและจัดการใหม่
ผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการ ตรวจสอบผลการเบิกจ่ายเงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ภายหลังวันรัฐประหาร 1 วัน โดยเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง ได้เผยแพร่ไว้บางส่วนเป็นงบประมาณต่อเนื่องจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) พบว่า งบประมาณตาม พ.ร.ก.เงินกู้บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยในเอกสาร ระบุ วงเงิน 336,918.97 ล้านบาท มีการโอนเข้ามาอยู่ในกำกับของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ สำนักนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.)
สำหรับ ข้อมูล ณ วันที่ 23 พ.ค.2557 ระบุว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว 10,626.86 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.15 โดยมีรายละเอียดดังนี้
- กองทัพเรือ เบิกจ่ายเพื่อนำไปบริหารจัดการน้ำ เป็นค่าเครื่องผลักดันน้ำ วงเงิน 19.85 ล้านบาท
- กรมทางหลวงชนบทเบิกจ่าย โครงการซ่อมแซมทางหลวงชนบท วงเงินรวม 6,118.92 ล้านบาท
- กรมทางหลวง เบิกจ่ายวงเงิน 2,626.65 ล้านบาท เป็นโครงการแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งคลองระพีพัฒน์ และคลองรังสิต ฯลฯ โครงการขุดลอกคลอง 9 สาย เหนือใต้ 10 สาย กลางล่าง รวมถึงขุดลอกคลองต่างๆ
- กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เบิกจ่ายเป็นโครงการฟื้นฟูการอนุรักษ์ป่าและชายเลน รวม 12.62 ล้านบาท
- กรมป่าไม้ เบิกจ่ายโครงการตามแผนฟื้นฟูการอนุรักษ์ป่า ส่วนใหญ่เพื่อดำเนินการเพาะชำกล้าไม้เพื่อทำการปลูกป่า สร้างฝายถาวร ฯลฯ วงเงินรวม 396.62 ล้านบาท
- กรมโยธาธิการและผังเมือง มีการเบิกจ่ายเพื่อโครงการก่อสร้างคันกั้นน้ำริมคลองรังสิต วงเงินรวม 1,219.80 ล้านบาท
- กรุงเทพมหานคร เบิกจ่ายจัดซื้อเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า วงเงิน 27.58 ล้านบาท
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 170.42 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการป้องกันน้ำท่วมของมหาวิทยาลัย เป็นการก่อสร้างกำแพงเขื่อนพนังกันน้ำ
- สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เบิกจ่าย 2,592 ล้านบาท ทำโครงการปรับปรุงระบบเขื่อนป้องกันอุทกภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของกรมชลประทาน ที่ช่วงนั้นกำกับดูแลโดยพรรคชาติไทยพัฒนามีการ เบิกจ่ายหลายก้อนรวม 2,410 ล้านบาท เช่น เป็นแผนงานกำหนดพื้นที่รับน้ำนอง เป็นงานจ้างเหมาระบบ ปรับปรุงคันดินป้องกันน้ำท่วมฝั่งซ้ายคลองฯ ค่าขยายเขตไฟฟ้าติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ขุดลอกคลองมังกร ขุดลอกคลองลำปลาทิว ขุดลอกคลองทับยาว ขุดลอกคลองประเวศบุรีรมย์ แนวกั้นน้ำคลองพระยาบรรลือแนวกั้นน้ำใต้คลองมหาสวัสดิ์ โครงการปรับปรุงตอม่ออาคาร ปรับปรุงบานระบายน้ำ ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังพบว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีการตั้งงบประมาณไว้แล้ว 1,025 ล้านบาท แต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย เนื่องจากมีการรัฐประหารก่อน
