xs
xsm
sm
md
lg

“เน วัดดาว” เปิดใจ ปัดเอี่ยวทำร้าย “แอล โอรส” เตือนวัยรุ่นอย่าเลียนแบบคลิป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการ - เจ้าของฉายา “เน วัดดาว” ในยูทิวบ์ เปิดใจผ่านรายการทีวีดาวเทียมของอาร์เอส เผย ก่อนตอบโต้กันไปมาในอินเทอร์เน็ตเคยมีปัญหากันมาก่อน แสดงความบริสุทธิ์ใจ ยันไม่ได้อยู่เบื้องหลังทำร้าย “แอล โอรส” เพราะถูกจับคดีทะเลาะวิวาท ส่วนคลิปกรีดหน้า-เอาขวดเหล้าตีหัวตัวเอง ยันทำไปเพราะขาดสติ เตือนอย่าทำตาม วอนอยากให้จบแบบต่างคนต่างอยู่ ตำรวจคอยโทร.หาเพื่อดูแลความปลอดภัย



วานนี้ (24 ธ.ค.) นายเน (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) เจ้าของฉายา “เน วัดดาว” อดีตสมาชิกแก๊งโอรส เจ้าของวิดีโอคลิปท้าทาย “แอล โอรส” ทางโซเชียลมีเดีย ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ได้ออกรายการปากโป้ง ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง 8 ในเครืออาร์เอส ดำเนินรายการโดย นายกรรชัย กำเนิดพลอย และ นางสาวรุจิรา ช่วยเกื้อ โดย นายเน กล่าวว่า เมื่อก่อนตนเคยเป็นลูกน้องในแก๊งโอรส ภายหลังได้ออกมาจากแก๊ง เนื่องจากเบื่อและอยากกลับมาอยู่ในที่ของตน ซึ่งอยู่กับเด็กรุ่นน้อง สนุกกับเด็กๆ ไปวันๆ เดิมตนใช้ชื่อว่า เน วัดดาว มาตลอด แม้จะมีคนเรียกว่า เน โอรส อยู่บ้าง ซึ่งตนได้มาอยู่แก๊งโอรสตั้งแต่ปี 2552 ภายหลังตนได้ออกจากแก๊งโอรสสักพักแล้ว

เมื่อถามว่า เพราะอะไรถึงได้มีการตอบโต้กันทางอินเทอร์เน็ต นายเน กล่าวว่า เพราะตนเคยอยู่ด้วยกันมา พอออกมาแล้วมีปัญหากัน เหมือนกับว่าจะไม่ยุ่งกัน คนก็รู้กันเยอะว่า ตนอยู่ด้วยกัน เวลาเจอก็จะถามว่าเป็นยังไงบ้าง เจอคนโน้น คนนี้บ้างไหม ซึ่งตนก็จะตอบว่าไม่ได้ยุ่ง หรือเกี่ยวข้องกันแล้ว เมื่อถามว่า นายเน เป็นฝ่ายที่ทำร้ายเขาก่อน นายเน กล่าวว่า ฝั่งของ แอล โอรส คิดว่า เป็นฝีมือของตนและเพื่อนทำร้ายร่างกาย แต่ตนไม่ได้ไป ซึ่งวันที่นายแอลโดนยิงน่าจะเลยหกโมงเย็นไปแล้ว แต่ตนมีปัญหาทะเลาะวิวาทอยู่แถวบ้าน ถูกจับกุมขึ้นไปอยู่บนโรงพักตั้งแต่ช่วงเวลาสี่-ห้าโมงเย็น และอยู่ในนั้นถึงทุ่ม-สองทุ่ม ก่อนหน้านี้ ตนกับแก๊งโอรสมีปัญหากระท่อนกระแท่น ทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้ ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ยุ่งกัน แต่พอมีประเด็นนี้มาก็เลยเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา นายเน พยายามตีตัวออกห่างจากแก๊งนี้ ทางแก๊งมีความพยายามไม่ให้ออกจากแก๊ง พอออกจากแก๊งแล้วถึงได้หมั่นไส้ขึ้นมา นายเน ตอบว่า ไม่เกี่ยว ส่วนปัญหาที่มีกันมาก่อน ที่ทำให้ตัดสินใจออกจากแก๊ง นายเน กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าสาเหตุที่เขาไม่พอใจตน แต่ตอนนี้เรียกว่าเป็นแก๊งไม่ได้ เพราะขณะนี้ต่างฝ่ายต่างแยกกันอยู่เป็นส่วนใหญ่แล้ว บางคนก็ไปเลี้ยงลูก ไม่ได้มายุ่งในแก๊งแล้ว แต่เป็นความเข้าใจของคนรอบนอก เพราะบางสิ่งบางอย่างที่ตนไปอ่านตามอินเทอร์เน็ต มีเรื่องที่เป็นความจริงที่ถูกต้องไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

“อย่างล่าสุด ก่อนหน้านี้ ประเด็นแก๊งโอรสมันดังขึ้นมา ที่ในคลิปแก๊งโอรสอวดศักดาโชว์เพลง อันนั้นไม่ใช่พวกแก๊งที่ทำเลยเป็นใครไม่รู้ไปก๊อบรูปจากไฮไฟว์ ก๊อบรูปจากอะไรอย่างเนี้ยมา อันนี้ผมอยากจะชี้แจงให้เข้าใจกัน” นายเน กล่าว และว่า ทุกวันนี้ยังมีคนที่ไม่เกี่ยวแล้ว ถอนตัวมาแล้ว ยังโดนหางเลขไปด้วย เพราะถูกเหมารวมว่าเป็นแก๊งโอรส เหมือนกับว่าคนเคยอยู่ในกลุ่ม ก็ยังคิดว่ายังอยู่ในกลุ่ม โดยเพลงที่เขียนว่า “บอย โอรส” นายเน ยืนยันว่า คนๆ นั้นไม่มีตัวตน เป็นพวกที่อยากจะให้รู้ว่าอยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่

เมื่อถามว่า เรื่องที่ท้ากันไปมาจะจบลงอย่างไร นายเน กล่าวว่า ยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าตนอยู่ของตนแล้ว ตนไม่มีอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง อย่างช่วงเช้าตนก็ออกไปหน้าวัดดาว (วัดดาวดึงษาราม) วิ่งวินจักรยานยนต์รับจ้าง กับพวกน้าๆ คนในซอยบ้าน ซึ่งเต็มที่ก็อยู่ในบริเวณนั้น ส่วนใหญ่ก็ไปส่งเด็กนักเรียนไปโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งตนไม่กลัวถูกดัก เพราะช่วงเช้าคนพลุกพล่าน กลางวันก็จะอยู่แต่ในบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านเกม นั่งดูแลเด็ก เฝ้าร้าน วันๆ ตนก็ไม่ใช้เงินอะไรมากมาย เพราะอยู่บ้านก็กินข้าวบ้าน ทุกวันนี้ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ปกติมีการชกต่อยกับฝั่งนายแอลหรือไม่ นายเน กล่าวว่า ไม่เคย เพราะเป็นรุ่นน้อง ส่วนเคยมีซ้อมก็เคยแบบเล่นๆ ซึ่งตนสู้เขาไม่ได้ แต่ถ้าสู้แล้วเรื่องมันจบทุกอย่าง ถ้าอยากให้ตนเจ็บตัวแล้วเรื่องมันจบ แล้วไม่ยุ่งกับน้องสาว ไม่ยุ่งกับแฟนตน ตนก็เอา ให้มันจบๆ กันไป แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น

ในช่วงท้าย นายเน กล่าวถึงคลิปที่มีการกรีดหน้าตัวเอง โดยให้เหตุผลว่า ก่อนหน้านั้น ตนเลิกกับแฟน ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งตนกรีดหน้านานแล้ว และที่เป็นรอยแดง คือ เป็นการลงหมึก ซึ่งตนตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ ส่วนอีกคลิปเอาขวดเหล้าตีหัวตัวเอง เพราะมีปัญหาไม่เข้าใจกันนิดหน่อย จากกรณีเพื่อนตนกับพี่ของตนต่อยกันเอง ตนเข้าไปห้าม แต่พี่ของตนไม่เข้าใจ หาว่าตนล็อกทางฝั่งพี่ของตนมากกว่า เมื่อเข้าใจผิดจึงเอาขวดเหล้าตีหัวตัวเอง แล้วพูดว่า ผมรักทุกคน

“อย่ามาทำอย่างผมเลย มันไม่ดีหรอก ตอนนั้นที่ผมทำไปผมขาดสติ มาคิดอีกทีตอนนี้ผมคงไม่ทำ” นายเน กล่าว

เมื่อถามว่า จากวันนี้จะวางแผนชีวิตอย่างไร และเรื่องนี้จะจบอย่างไร นายเน กล่าวว่า ตอนนี้ตนไม่รู้ว่าอีกฝั่งหนึ่งจะจบอย่างไร แต่สำหรับตนใช้ชีวิตตามปกติ ถ้าวันนี้อยากให้จบ ก็จบแบบต่างคนต่างอยู่ ตนอยากให้เขา (นายแอล) เข้าใจมากกว่า ว่า ตนไม่ใช่เป็นคนที่ไปทำร้ายเขา ไม่ได้อยากจะมีเรื่องกับเขาด้วย แม้ตนจะมีหลักฐานเขาก็มองว่าตนอยู่เบื้องหลังอยู่ดี ซึ่งชีวิตต่อจากนี้ตนก็อยู่อย่างที่ตนอยู่เป็นประจำ วันนี้ตนก็ไม่ออกไปไหนเลย เพราะที่บ้านไม่ให้ตนออกไปไหนเลย ซึ่งพ่อแม่ของตนเสียตั้งแต่เด็กแล้ว ปัจจุบันอาศัยอยู่กับปู่ ย่า น้อง และอา

นายเน กล่าวทิ้งท้ายถึงกระแสที่ทำให้ถูกมองว่าเป็นฮีโร่ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี ไม่ใช่เรื่องที่น่าทำตาม ตอนที่ตนทำไปกะแค่ว่าจะดูเฉพาะของตนกันเองและเพื่อนๆ ที่ติดตามตนในโซเชียลมีเดีย แต่มันกลายเป็นว่ามีคนเอาไปแชร์ต่อ กลายเป็นประเด็นใหญ่ขึ้นมา มันผิดความตั้งใจ ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเสนอให้คนทั้งหมด ส่วนคนที่จะทำตาม ก็อยากให้ค่อยๆ คิดผลที่มันจะตามมา ทุกวันนี้ตำรวจคอยโทรหาและกำชับว่าอย่าออกไปไหนนะ เพื่อความปลอดภัย

มีรายงานว่าระหว่างถ่ายทำรายการนั้น ตำรวจได้โทรศัพท์เข้ามาในรายการเป็นช่วงๆ เพื่อสอบถามถึงความปลอดภัย และถามความคืบหน้าว่าถ่ายทำรายการไปถึงไหนแล้ว และพบว่า มีสายตำรวจขับรถมารับ-ส่งจากบ้าน ไปยังสตูดิโออาร์เอส ย่านลาดพร้าวตั้งแต่เช้า และหลังถ่ายทำรายการเสร็จก็ขับมาส่งที่โรงพัก เพราะเกรงว่าจะมีการดักทำร้ายระหว่างทาง





กำลังโหลดความคิดเห็น