สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงยกฉัตรขึ้นประดิษฐานถวายพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม
วันนี้ (18 พ.ค.) เวลา 17.22 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม
ในการนี้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ ท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธทศพลญาณ พระประธานพระอุโบสถ และประทับรถไฟฟ้าไปยังพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยกฉัตรประดิษฐานเหนือพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ซึ่งเป็นฉัตรที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และในโอกาสมหามงคลที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 โดยเป็นฉัตร 5 ชั้น มีความสูงจากกำภูถึงยอดฉัตร 3.31 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางระบายฉัตร 2 เมตร ถือเป็นฉัตรเหนือพระพุทธปฏิมากร ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ออกแบบโดย พลอากาศตรี อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติ
พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เดิมเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น อันเชิญจากวัดพระยาไกร มาประดิษฐานเมื่อปี 2478 ต่อมาปูนที่หุ้มองค์พระกระเทาะออก จึงพบว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะงดงาม หล่อด้วยทองคำเนื้อเจ็ด น้ำสองขา น้ำหนักประมาณ 5.5 ตัน
ในปี 2499 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ไปทรงนมัสการ และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ยอดพระเกตุมาลา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามว่า พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญของชาติอีกองค์หนึ่ง และในปี ค.ศ.1991 หนังสือกินเนสส์ บุ๊ก เวิลด์ออฟ เรคคอร์ด บันทึกว่า เป็นพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
วัดไตรมิตรวิทยาราม ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์มาโดยตลอด และในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 รัฐบาลร่วมกับทางวัด พุทธบริษัท และผู้มีจิตศรัทธา จัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติขึ้น โดยจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระมหาพุทธปฏิมากร ขึ้นใหม่ พร้อมกับจัดสร้างระฆัง จำนวน 2 ใบ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายเป็นพุทธบูชา โดยเป็นระฆังศิลปะสมัยอยุธยา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนแรกเริ่มในการจัดสร้าง พร้อมทรงเจิมแผ่นทอง นาค เงิน เพื่อร่วมในพิธีเททองหล่อระฆัง นอกจากนี้ ยังทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม และทรงปิดทองยอดฉัตรของพระมหามณฑป ณ วังไกลกังวล เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานที่ยอดพระมหามณฑป
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการศูนย์ประวัติศาสตร์ ที่จัดแสดงเรื่องราวของชุมชนเยาวราช ไชน่าทาวน์ เมืองไทย ย่านการค้าสำคัญที่มีความเจริญรุ่งเรืองมายาวนาน เกิดจากการสร้างตัวของชาวจีน ที่เข้ามาอาศัยภายใต้พระบรมโพธิสมภาร โดยการจัดแสดงมุ่งนำเสนอความเจริญรุ่งเรืองของเยาวราช แบ่งออกเป็น 6 ส่วน อาทิ ห้องพระบารมีปกเกล้า แสดงภาพถ่ายและวีดีทัศน์เรื่องราวพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงพระราชกรณียกิจที่สื่อถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ห้องตำนานชีวิต จัดแสดงเรื่องราวตำนานชีวิตของบุคคลที่เป็นแบบอย่างในย่านเยาวราช ห้องเส้นทางสู่ยุคทอง แสดงพัฒนาการของชุมชนจีน จากตลาดสำเพ็งสู่ย่านธุรกิจถนนเยาวราช โดยจำลองถนนเยาวราชในยุคเฟื่องฟู คือ ในปี 2500 ที่มีการค้าขาย การลงทุน และการก่อสร้างตึกขนาดสูงจำนวนมาก