สันติ! ฉาวได้เพราะแน่นปึ้ก “แม้ว” อนุโลมเหตุกระเป๋าใหญ่เพื่อไทย

เบื้องหลังข่าวฉาวไม่อาจทำลาย “สันติ พร้อมพัฒน์” กระทั่งล่าสุด ศึกในอย่าง “ประวัฒน์ อุตตะโมต” ขึ้นมางัดข้อ เพราะไม่พอใจย้ายฟ้าผ่าปลัด พม.แต่สุดท้ายก็ต้องใส่เกียร์ถอย พ่ายแพ้ความปึ้กและสัมพันธ์ “ชินวัตร” ที่เหนือกว่า โดยเฉพาะยามที่ “ทักษิณ” ต้องเร่ร่อน “สันติ” ย่อมเป็นกระเป๋าใบใหญ่ให้พรรคเพื่อไทย จนเป็นเหตุให้ “ทักษิณ” ส่ง “เจ๊แดง” เคลียร์!

โดนมาแล้วทั้งใบปลิวโจมตีในมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดนทั้งฝ่ายค้านขุดเรื่องทุจริตในการสอบปริญญาตรี และมีการปลอมแปลงเอกสารราชการของทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อให้ตัวเองจบการศึกษา กระทั่งล่าสุด นายสันติ พร้อมพัฒน์ โดนเล่นแรง เพราะย้ายฟ้าผ่า นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต เพราะเธอเป็นพี่สาวแท้ๆ ของ นายประวัฒน์ อุตตะโมต สมาชิกพรรคเพื่อไทย หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ที่ประกาศกลางวงประชุมพรรคเพื่อไทยมาแล้วว่า จะไม่ให้เกียรติ “นายสันติ” อีกต่อไป

ศึกงัดข้อครั้งนี้ใหญ่มาก แต่สุดท้ายเรื่องกลับเงียบไป ด้วยเหตุผลง่ายๆ แต่ได้ใจความว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ ปึ๊กกว่า นายประวัตร!

“ผู้ใหญ่ของพรรค มองว่า เป็นเรื่องการทะเลาะกันส่วนตัว และไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต กลัวว่า จะเป็นภาพลบซึ่งจะส่งผลต่อพรรคเพื่อไทยในภาพรวม รวมถึงตัว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย” ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ระบุ

กระเป๋าเงินเพื่อไทย

ที่สำคัญ หากจะวัดบารมีกันระหว่าง นายสันติ และ นายประวัฒน์ เวลานี้ในพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่า นายสันติ ยังมีภาษีหรืออยู่เหนือ นายประวัฒน์ แน่นอน

“ส.ส.ในพรรคให้การยอมรับ สันติ มากกว่า เนื่องจากทุกคนในพรรครู้ดี ว่า สันติ เป็นผู้สนับสนุน หรือเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินของพรรคที่มีการสนับสนุนเงินให้พรรคเพื่อไทยมานาน”

อย่างไรก็ดี แม้ นายสันติ จะเคยเป็นคนของ “เสี่ยเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายทุนพรรคที่สนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเกื้อกูล ส.ส.ในพรรคมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นผู้ผลักดันนายสันติ จนก้าวเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยที่ นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อนในช่วงที่พรรคเพื่อไทย ยังมีกลุ่มก๊วน แต่หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีบารมีตัวจริงของพรรคเพื่อไทย ได้เข้ามาผ่าตัดระบบการบริหารจัดการ การดูแล ส.ส.แบบระบบกองกลาง แบ่งสรรประโยชน์เท่าๆ กันแล้ว กลุ่มก๊วนการเมืองก็คลายอำนาจลง ดังนั้น รัฐมนตรีคนไหนจะอยู่หรือไป คนที่จะตัดสินใจ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น

ดังนั้น การที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ยังกอดเก้าอี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไว้ได้ จึงมีนัยสำคัญที่คนในพรรครู้ดี

“สันติ เป็นคนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังดูแล เพราะในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ลำบาก สันติถือเป็นกระเป๋าเงินให้พรรค ออกเงินช่วยเหลือ ส.ส.ภาคเหนือของพรรคแทน พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ ไปก่อน โดยเฉพาะช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา จึงทำให้มีความสนิทชิดเชื้อกับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย”

ศึกครั้งนี้ “เจ๊แดง” จึงต้องออกโรงคุยกับ นายประวัฒน์ ให้เบาลงด้วยตัวเอง

“เรืองไกร” ช่วยฟัน “พนิตา”

ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่า ความขัดแย้งในครั้งนี้ นายสันติ ยังมีตัวช่วยที่สำคัญ ในประเด็นที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ที่รู้กันดีว่าเป็น “มือกระบี่เสื้อแดง” ก็ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องการขออนุมัติก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวง พม.ที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในสาระสำคัญ และมีการเพิ่มเติมงบประมาณมากไปกว่าเดิมเกินร้อยละ 5 คือ จากวงเงิน 878,568,500 บาท เป็นวงเงิน 1,289,954,000 บาท และมีการดำเนินการประกวดราคาไปก่อนที่จะมีการขออนุมัติจาก ครม.ซึ่งมีลักษณะที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติ ครม.ที่เกี่ยวข้อง อันอาจเข้าลักษณะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการต่อไป

สำหรับการร้องขอของนายเรืองไกร ให้มีการตรวจสอบจึงเป็นการพุ่งเป้าไปที่อดีตปลัดพนิตาโดยตรง และสอดคล้องกับที่นายสันติเคยระบุไว้ถึงเหตุผลในการปลดเช่นกัน

ส่วน นายประวัตร จะใส่เกียร์ “ถอย” หรือ “ไม่ถอย” ก็ตาม แต่กลับพบว่าเรื่องความขัดแย้งและการประลองกำลังกลับค่อยๆ เงียบหายไปในวันนี้ คงเป็นคำตอบจากนายประวัฒน์ ได้ดี หลังจากมีการวัดกำลังกันไปแล้วพบว่ายังแพ้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ อยู่หลายขุม

“คุณสันติ เมื่อเป็นนักธุรกิจ จึงมีความเข้าใจ และมีความเก่งเรื่องการบริหารเงินทอง ค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในยามที่พรรคเดือดร้อนในการเลือกตั้ง ตรงนี้ยากที่เก้าอี้รัฐมนตรีคุณสันติจะหลุดไป แต่อาจจะไม่ได้เก้าอี้กระทรวงเศรษฐกิจใหญ่ๆ เท่านั้น เพราะไม่มีที่ลง” แหล่งข่าว ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย กล่าว

เรื่องฉาวๆ ที่ผ่านมาทั้งหมดของ นายสันติ ที่โดนโจมตีจากคนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า จึงกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วที่มิอาจเลื่อยเก้าอี้รัฐมนตรีของเขาได้!