"ธาริต" ประสานงาน อย.คดียาแก้หวัดหาย เผยเจ้าหน้าที่ สธ.มีเอี่ยวหลายระดับ วอนสื่ออย่าถามเชิงลึก ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานบ้าง ยันคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คาด เม.ย.นี้ข้อมูลจะชัดเจนขึ้น พร้อมแจงดีเอสไอจะรับผิดชอบคดีเพิ่มเติมด้านยา อาหาร วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต ประสาท และเครื่องสำอาง
วันนี้ (28 มี.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และชุดพนักงานสอบสวน เดินทางเข้าหารือกับ นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อชี้แจงขั้นตอนที่ดีเอสไอเข้ามารับผิดชอบคดีความ
นายธาริต กล่าวว่า ภายในเดือนเมษายนนี้ คาดว่าจะมีการออกกฎกระทรวง กำหนดคดีพิเศษที่เป็นบัญชีแนบท้ายเพิ่มเติม ซึ่งจะมีกฎหมายที่ดีเอสไอเข้าไปรับผิดชอบเพิ่มเติมคือ ยา อาหาร วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต ประสาท และเครื่องสำอาง ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการสนับสนุนและสนธิกำลังร่วมกัน และหากพบความผิดเกี่ยวกับกรณียาซูโดอีเฟดรีน ก็ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ เนื่องจากจะเข้าเป็นคดีพิเศษโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ดีเอสไอจะจัดให้มีการประชุมร่วมกันกับ อย.เพื่อเดินหน้าทางคดีในวันจันทร์ที่ 2 เมษายนนี้ เวลา 14.00 น. โดยจะมี น.พ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ อย. เข้าร่วมประชุมด้วย โดยเฉพาะกรณีทุจริตยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน โดยจากนี้ไปจะลงลึกข้อเท็จจริง เช่น โรงพยาบาลไหนสั่งยาเท่าไร เมื่อใด และที่ไหน จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด
จากนั้น นายธาริต ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยขอร้องว่าอย่าถามในเชิงลึก เนื่องจากจะต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ทำงาน ก่อนที่จะเข้าพบ น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือต่อไป โดย น.พ.ไพจิตร์ ได้ให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เข้ารับฟังการหารือด้วย เนื่องจากหากมีการตรวจค้นโรงพยาบาล ตำรวจต้องได้รับอนุญาตจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ทั้งนี้ นายธาริต กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกรณียาซูโดอีเฟดรีนว่า มีเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวข้องหลายระดับ ซึ่งขณะนี้กล่าวได้ว่าสามารถหาต่อจิ๊กซอว์หาความเชื่อมโยงได้เป็นภาพใหญ่แล้ว เหลือเพียงแต่ออกไปดูรายละเอียดเรื่องต่างๆ ให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นว่า เป็นกระบวนการเดียวกันหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ยังคงติดตามเป้าหมายซึ่งเป็นผู้ชอปปิ้งยา ซึ่งตัวกลางในการซื้อยาตามแหล่งต่างๆ อย่างใกล้ชิด อาทิ เรื่องการใช้เงินและการใช้โทรศัพท์เชื่อมโยงไปยังตัวบุคคลอื่นๆ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากกว่านี้ และขอให้สื่อมวลชนอย่าคาดคั้นถามถึงกรณีดังกล่าว เนื่องจากจะต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ในการทำงาน พร้อมยืนยันว่าจะตรวจสอบและคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ รวมถึงให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยภายในเดือนเมษายนนี้จะได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นในระดับหนึ่ง
