"สุขุมพันธุ์" ลั่น กทม.ยังบริหารตลาดนัดจตุจักรต่อไปได้ แม้สัญญาเช่าจะหมดลง 2 ม.ค. 55 อ้างมติ ครม.ปี 2522 และ 2525 กำหนดให้ กทม.ใช้ที่ดินของการรถไฟฯ เพื่อจัดตลาดนัด แต่ไม่กำหนดระยะเวลาในการเช่า เผยยินดีจ่ายค่าเช่าเพิ่มขึ้น 79 ล้านบาท/ปี แต่การรถไฟฯเรียกเก็บค่าเช่าสูงถึง 420 ล้านบาท/ปี อาจทำให้ต้องเปลี่ยนตลาดนัดเป็นศูนย์การค้าแทน และเสน่ห์ตลาดนัดจตุจักรจะหมดไป
วันนี้ (25 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารนพวงศ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หัวลำโพง กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักรได้เข้าร่วมประชุมหาข้อสรุปกับตัวแทนการรถไฟ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงคมนาคม ก่อน ร.ฟ.ท.จะเข้ามาเป็นผู้บริหารตลาดนัดจตุจักรแทนกรุงเทพมหานคร โดยนายนิสิต สินธุไพร ตัวแทนคณะทำงานเพื่อบริหารงานตลาดนัดจตุจักร ได้เชิญตัวแทนผู้ค้า 29 โซน ตัวแทนสมาคม สหกรณ์ ผู้ค้าอิสระ เพื่อประชุมร่วมกับ ร.ฟ.ท. เพื่อให้ผู้ค้ามีส่วนร่วมในการบริหารและพัฒนาตลาดนัดจตุจักร และจะมีการเลือกตั้งตัวแทนเข้าไปทำงานร่วมกับ ร.ฟ.ท. หลังจากที่วานนี้ (24 ธ.ค.) กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร ได้รวมตัวและเสนอ 6 ข้อเรียกร้อง ในการบริหารตลาด ทั้งนี้ ในเวลา 15.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะแถลงข่าวเรื่องตลาดนัดสวนจตุจักร ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม.
ล่าสุด เวลา 15.45 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้แถลงข่าว กรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้บริหารพื้นที่จตุจักร หลังสัญญาเช่าจะหมดลงในวันที่ 2 ม.ค. 2555 ว่า กทม.มีความชอบธรรมในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักตรต่อไป ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 281 บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำบริการสาธารณะ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม.มีหน้าที่ตามที่กฎหมายระบุไว้ อีกทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2522 และวันที่ 14 เม.ย. 2525 กำหนดให้กทม.ใช้ที่ดินของการรถไฟฯ เพื่อจัดตลาดนัด ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการใช้ที่ดินไว้ โดยการรถไฟฯ มีเพียงสิทธิของการเป็นเจ้าของพื้นที่แต่ไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร หากการรถไฟฯ จะเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรหรือจัดตั้งบริษัทเข้ามาดำเนินการแทนก็จะขัดต่อ พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ดังนั้นการรถไฟจะขอมติคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดให้การรถไฟเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าอำนาจในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรยังเป็นของ กทม.
"ที่ผ่านมา กทม. ได้หารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งผลการเจรจาทุกครั้งเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่เห็นพ้องให้กทม.บริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไป แต่ที่ไม่ได้ข้อสรุปคือในส่วนของค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ซึ่งกทม.ยินดีที่จะจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในอัตราที่สูงขึ้นโดยยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม โดยอ้างอิงค่าเช่าพื้นที่ของตลาด อตก. ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงเป็นแนวทาง ในอัตราค่าเช่า 779 บาท/ตร.ม./ปี คิดเป็นค่าเช่าพื้นที่ตลาดนัดทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 79 ล้านบาท/ปี แต่การรถไฟเรียกร้องให้กทม.จ่ายค่าเช่าพื้นที่สูงถึง 420 ล้านบาท/ปี" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า หาก กทม.จ่ายค่าเช่าในอัตราดังกล่าวก็สามารถทำได้ใน 2 แนวทาง ได้แก่ ใช้การพัฒนาแนวดิ่งเข้ามาแทนที่ด้วยการปรับพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรเป็นศูนย์การค้าแทน จะส่งผลให้เสน่ห์ของการเป็นตลาดนัดจตุจักรหมดไป และการขึ้นค่าเช่าจนส่งผลกระทบต่อผู้ค้าและผู้ซื้อ เมื่อค่าเช่าพื้นที่สูงขึ้นก็จะมีผู้ค้ารายใหญ่เข้ามาแทน เป็นการขัดกับเจตนารมณ์เดิมตั้งแต่เริ่มตั้งตลาดนัดจตุจักรขึ้นมาซึ่งมีแนวทางในการช่วยเหลือให้ผู้ค้ารายย่อยมีสถานที่จำหน่ายสินค้า
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า กทม.มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไปแม้สัญญาเช่าฉบับเดิมจะหมดลงในวันที่ 2 ม.ค. 2555 เนื่องจากมติ ครม. ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมากำหนดไว้ว่า เมื่อสัญญาเช่าหมดลงคู่สัญญาจะต้องกลับสู่สถานะเดิมก่อนวันทำสัญญา ซึ่งทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย และกทม.ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามกทม.จะรอความชัดเจนของมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 27 ธ.ค. 2554 อีกครั้ง หาก ค.ร.ม. มีมติเห็นเป็นอย่างอื่น กทม.ยังสามารถบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรได้อีก 6 เดือน และกทม.จะยื่นขอให้ทบทวนมติดังกล่าวอีกครั้ง