เจ้าหน้าที่เร่งทำแนวกั้นน้ำ หลังตลาด อ.ต.ก.ท่วมแล้ว 20 ซม.ด้านคลองเลียบวิภาวดีรังสิต ระดับน้ำเพิ่มสูง บขส.เดินรถตามปกติ วางประตูน้ำพระอินทร์-สุวรรณภูมิ เป็นสถานีขนส่งสำรอง กทม.เตือนชาวมีนบุรี-บางกะปิ เฝ้าระวังน้ำ หลังเร่งระบายน้ำจากคลองบางซื่อ กรมชลฯ คาดน้ำจ่อเข้ากรุงอีก 1 สัปดาห์
สถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพมหานคร วันนี้ (9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ย่านพหลโยธิน บริเวณตลาด อ.ต.ก.ระดับน้ำสูงราว 10-20 เซนติเมตรแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตลาด อ.ต.ก.เร่งทำแนวคันกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่ค้าขาย ขณะที่ถนนพหลโยธินไปถึงวิภาวดีรังสิต น้ำยังไม่ข้ามคลองบางซื่อ แต่การจราจรในเส้นทางดังกล่าว สามารถเดินทางได้ถึงแยกสุทธิสารเท่านั้น
ส่วนหลังตลาดหมอชิตใหม่มีน้ำท่วมเต็มผิวถนนทำให้รถที่จะเดินทางเข้าติดขัดอย่างมาก ด้านสวนจตุจักรมีน้ำท่วมเกือบเต็มพื้นที่ทำให้ส่วนที่ค้าขายบางส่วนต้องปิดตัวลงอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่โลคัลโรดมีน้ำท่วมขังเกือบตลอดทั้งสาย รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้
คลองเลียบวิภาวดีรังสิตน้ำเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ จากการสำรวจลำคลองเลียบถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งขาเข้าและออก ช่วงหลังคลองบางซื่อ พบว่า ระดับน้ำมีความสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ภายในท่อระบายน้ำตลอดแนวถนน มีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่องทิศทางมุ่งหน้าแยกดินแดง
บขส.เดินรถตามปกติ วางประตูน้ำพระอินทร์-สุวรรณภูมิ เป็นสถานีขนส่งสำรอง
ด้าน บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่สถานีขนส่งหมอชิต มีรายงานว่า ยังคงเปิดให้บริการเดินรถไปในเส้นทางภาคเหนือ และภาคอีสานตามปกติ แม้จะมีน้ำท่วมทั้งห้าแยกลาดพร้าว และถนนวิภาวดีรังสิตก็ตาม โดยผู้โดยสารสามารถเดินทางมายังสถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยใช้เส้นทางด้านหน้าถนนพระราม 6 วิ่งเข้าถนนกำแพงเพชร ผ่านหน้า อ.ต.ก.เข้ากำแพงเพชร 2 หรือใช้เส้นทางด่วน ลงด่านกำแพงเพชร หรือลงด่านกำแพงเพชร 2 และสามารถวิ่งเส้นทางถนนพระราม 7 ลงรัชวิภา และมากลับรถที่ กม.11 วิ่งเข้าถนนกำแพงเพชร 2 ได้
ทั้งนี้ บขส.ยืนยันว่า จะเปิดให้บริการจนกว่าจะเดินรถไม่ได้ โดยได้เตรียมแผนสำรองเอาไว้ ซึ่งได้จัดการสถานีขนส่งสำรองไว้ 2 แห่งคือ ที่บริเวณประตูน้ำพระอินทร์ ซึ่งเป็นสถานีสายเหนือชั่วคราว และสถานีขนส่งที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นสถานีขนส่งสายอีสาน และตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน
ระบายน้ำคลองบางซื่อ กทม.เตือนกระทบมีนบุรี บางกะปิ
ขณะที่ ถ.พหลโยธิน น้ำอยู่ที่บริเวณสวนจตุจักร โดยทาง กทม.เร่งระบายน้ำที่เพิ่มขึ้น จากคลองบางซื่อ ไปลงบึงมักกะสันเพื่อสูบออกทะเล และระบายออกสู่คลองอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ คลองแสนแสบ บางช่วงทำให้ระดับน้ำบริเวณ มีนบุรี และบางกะปิ จะสูงขึ้น จึงต้องขอให้ประชาชนระวังและติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด
พล.ร.ท.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รองเสนาธิการทหารเรือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องดันน้ำบริเวณคลองบางซื่อ ไว้ใต้สะพานเตชะวณิช ซึ่งเป็นจุดที่ขนานกับคลองประปา โดยจะทำการดันน้ำบริเวณจตุจักร และวิภาวดี ให้ลอดใต้สะพานเตชะวณิช ลงสู่สถานีสูบน้ำคลองบางซื่อต่อไป ซึ่งจะเริ่มดำเนินการดันน้ำภายในเที่ยงวันนี้
สำหรับเครื่องดันน้ำที่นำมาใช้ในครั้งนี้ เป็นเครื่องดันน้ำขนาดใหญ่ สามารถดันน้ำได้ 3 เท่า ซึ่งจะส่งผลให้สามารถระบายน้ำได้วันละ 150,000 ลูกบาศก์เมตต่อวัน
ส่วนความกังวลว่าการติดตั้งเครื่องดันน้ำในคลองที่มีขนาดเล็กจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานนั้น รองเสนาธิการทหารเรือ ยืนยันว่า หากคลองมีขนาดเล็ก ไม่ได้เป็นผลเสียต่อการติดตั้งเครื่องดันน้ำ แต่ในทางกลับกัน ยิ่งจะส่งผลดี เพราะจะช่วยให้สามารถดันน้ำได้แรงและมากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ คณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่ประสบภัยร้ายแรง ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งขึ้น ได้มีการประเมินสถานการณ์การใช้เครื่องดันน้ำทุกจุดในวันต่อวัน เพื่อที่จะกำหนดจุดติดตั้งและเคลื่อนย้ายเครื่องดันน้ำให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ซึ่งยืนยันว่า เครื่องดันน้ำที่ใช้นั้นสามารถใช้งานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
มวลน้ำจ่อเข้ากรุง อีก 1 สัปดาห์
กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมทางตอนเหนือ ตั้งแต่ดอนเมือง จนถึงบางเขน และจตุจักร ว่า แม้ขณะนี้ระดับน้ำจะลดลงบ้าง แต่คาดการณ์ว่า ภายใน 1 สัปดาห์ข้างหน้า มวลน้ำที่ยังค้างอยู่ในทุ่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ ปทุมธานี จะหลากลงมาเพิ่มเติมอีก ซึ่งกรมชลประทาน ยอมรับยังมีน้ำเหลืออยู่ในทุ่งทางตอนเหนือจำนวนมาก และมีโอกาสที่มวลน้ำก้อนนี้จะไหลมาสมทบกับน้ำในกรุงเทพมหานคร