แนวกั้นบางกะดีต้านกระแสน้ำไม่ไหว น้ำทะลักเข้าท่วมนิคมฯ แล้ว ด้าน ศปภ.แถลงเตือน คาดประตูหลักหกรับน้ำไม่ไหว สั่ง ปชช.ย้ายข้าวของขึ้นที่สูง เผยได้ประสานงานหาที่จอดรถกว่า 7,000 คันให้แล้ว
เมื่อเวลา 22.45 น.วันที่ 20 ต.ค. ศปภ.ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ว่า เนื่องจากน้ำในคลองระพีพัฒน์ได้ไหลเข้าสู่บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ในปริมาณมาก และคาดว่าประตูน้ำบริเวณหลักหกจะรองรับน้ำไว้ไมได้ทำให้น้ำทะลักบริเวณโดยรอบเขตดอนเมือง และหลักสี่ จึงขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวขนย้ายสิ่งของมีค่าและปลั๊กไฟขึ้นไปไว้บนที่สูงกว่าระดับ 1 เมตร พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ส่องสว่าง ส่วนผู้ที่มีรถยนต์สามารถนำไปจอดที่ลานจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิได้
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำจากนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี ว่าเมื่อเวลา 21.00 น.ที่ผ่านมา เกิดคันดินกั้นน้ำรอบนิคมฯ พังลงมา ส่งผลให้สวนอุตสาหกรรมบางกะดีกลายเป็นนิคมฯ แห่งล่าสุดที่ถูกน้ำท่วม
ทั้งนี้ เนื่องจากมีกระแสน้ำที่ไหลมาจากคลองเชียงราก ทะลักเข้าคลองประปาและไหลล้นเข้ามาประชิดมาชิดแนวคันดินของนิคมฯ และแนวคันดินของนิคมฯ ไม่สามารถต้านทานแรงน้ำได้ แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปช่วยอุดคันดิน แต่ล่าสุดได้ถอนกำลังออกมาแล้วเนื่องจากไม่สามารถกู้คันดินขึ้นมาได้ และน้ำได้ไหลทะลักเข้าไปในนิคมฯ แล้ว
ผู้สื่อขาวรายงานอีกว่า ในวันเดียวกันนี้ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ทาง ศปภ.ได้ประสานไปยังหน่วยราชการ และเอกชน เพื่อหาสถานที่จอดรถให้แก่ประชาชนแทนการนำไปจอดบนสะพานข้ามแยก และทางด่วน โดยสถานที่จอด ดังนี้
- โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถจอดได้ 3,000 คัน
- บางนา-ตราด จอดได้ 2,500 คัน
- ถนนสายสี่ จอดได้ 600 คัน
- โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายเรือ จุดละ 2,000 คัน
รวมทั้งหมดแล้วประชาชนน่าจะจอดรถได้ 7,000 คัน ทั้งนี้ยังมีการประสานให้รถ บขส. และ ขสมก.มารับส่งจากจุดจอดรถเพื่อเข้ามาเขตเมือง สอบถามได้ที่ โทร.1111 กด 5