ผอ.โรงพยาบาลบางบัวทอง เผยแนวคันกั้นน้ำพัง น้ำทะลักเข้าพื้นที่จนสูง รถเข้าไม่ได้ แต่ระบบการทำงานทั้งหมดยังทำงานได้เป็นปกติ ระดมทหารพัน 1 รอ.เข้าอพยพผู้ป่วย ด้านผู้ว่าฯนนท์ เร่งระดมสรรพกำลังกู้วิกฤตน้ำด่วน พร้อมยอมรับตอบไม่ได้จะสำเร็จเมื่อไร
วันนี้ (11 ต.ค.) นพ.ประพุทธ ลีลาพฤทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางบัวทอง ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ทีวีไทยว่า ขณะนี้น้ำได้ไหลเข้ามาในพื้นที่โรงพยาบาลแล้ว โดยแนวคันกั้นน้ำได้พังลงทำให้น้ำไหลเข้าท่วมสูง รถจากภายนอกไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ได้ อย่างไรก็ตาม พื้นที่โรงพยาบาลอยู่ในพื้นที่สูง และน้ำยังไม่ได้เข้ามาในพื้นที่สำคัญ ทั้งนี้เราได้เตรียมระบบป้องกันและเตรียมการรับมือโดยระบบการทำงานภายในโรงพยาบาลยังเป็นปกติ ทั้งไฟฟ้า น้ำดื่ม เพียงแต่ประชาชนไม่สามารถนำรถเข้ามาได้ ซึ่งเราได้ย้ายแผนกผู้ป่วยนอก และแผนกฉุกเฉินออกไปให้บริการอยู่ที่เทศบาลบางบัวทอง
ทั้งนี้ ผอ.โรงพยาบาลบางบัวทองยืนยันว่าได้เตรียมแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไว้แล้วหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ซึ่งได้ประสานไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อเตรียมรับมือ อีกทั้งยังได้เตรียมเสบียงอาหารแห้ง น้ำดื่มไว้รองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 1 เดือน และน้ำมันก็มีสำรองไว้ใช้กว่าครึ่งเดือน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงาน ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 20 ราย ขณะเดียวกันได้มีการลำเลียงผู้ป่วยส่วนหนึ่งไปไว้ที่เทศบาลแล้ว 20 ราย โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ 1 ราย โรงพยาบาลพระปิ่นเกล้า 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยหนัก ส่วนการเดินทางเข้า-ออกโรงพยาบาล มีทหารจากหน่วยทหารปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน พัน 1 รอ. คอยอำนวยความสะดวก โดยการนำเรือท้องแบนติดเครื่องมาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งขณะนี้ในส่วนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปให้ความช่วยเหลือ
ด้าน นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุที่น้ำทะลักเข้าท่วมณหลายพื้นที่จังหวัดนนทบุรีนั้น เป็นผลมาจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายวัน คันกั้นน้ำเกิดพังทลายมประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมประมาณ 3 พันครัวเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ 1.20 เมตร ส่วนที่โรงพยาบาลบางบังทองนั้น เวลานี้ทางโรงพยาบาลได้มาเปิดรับผู้ป่วยอยู่ที่เทศบาลเมือง ส่วนผู้ป่วยหนักทางโรงพยาบาลได้ย้ายไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว อย่างไรก็ตามเวลาทางจังหวัดกำลังเร่งระดมสรรพกำลังทั้งท้องที่ ทหาร ตำรวจ เข้ากู้วิกฤตน้ำที่ทะลักเข้าท่วมในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดดนนทบุรีแต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าใดจึงจะสามารถกู้สถานการณ์ได้ เวลานี้ปัญหาคือต้องการเครื่องสูบน้ำ ซึ่งแจ้งขอรับการสนับสนุนไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ศปภ.แล้ว