คณะแพทย์นำ "หลวงพ่อคูณ" ทำกายภาพบำบัด เผยฟื้นฟูสุขภาพกลับมาได้ในระดับหนึ่ง มีสีหน้าที่สดใสขึ้น สามารถเดินได้จำนวน 89 ก้าว ด้านหลวงพ่อฝากบอกลูกศิษย์ “กูไม่เป็นอะไร แต่อย่าประมาทก็แล้วกั๊น”
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสฺทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งเดินทางมารักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยมหิดลวรานุสรณ์-วิบุลลักสม์ ชั้น 2 รพ.ศิริราช เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ตลอดทั้งวันยังคงมีเหล่าบรรดาลูกศิษย์ที่ทราบข่าวเดินทางมาเยี่ยมอาการอย่างต่อเนื่อง โดยแพทย์ยังคงไม่อนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมภายในห้อง เนื่องจากเกรงงว่าหลวงพ่อคูณจะติดเชื้อ ซึ่งลูกศิษย์ได้ลงนามในสมุดเยี่ยมที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น
จากนั้นเวลา 15.35 น. คณะแพทย์ และพยาบาล นำโดย รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์เจ้าของไข้ รศ.พญ.วิไล คุปต์นิรัติศัยกุล หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู ได้นำหลวงพ่อคูณไปทำกายภาพบำบัดที่ชั้น 3 ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู ระบบประสาท ตึกศรีสังวาลย์ หลวงพ่อคูณนั้งบนรถเข็น มีสีหน้าที่สดใส กล่าวฝากถึงลูกศิษย์ทั่วประเทศที่เป็นห่วงผ่านผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า “กูไม่เป็นอะไร แต่อย่าประมาทก็แล้วกั๊น” จากนั้นนักกายภาพบำบัดได้ให้พลวงพ่อคูณยกแขนยกขา เพื่อยืดเส้นและคลายกล้ามเนื้อ ก่อนที่จะฝึกให้นั่งตัวตรง เพื่อให้สามารถนั่งได้เอง จากนั้นได้นำหลวงพ่อเดินโดยมีลูกศิษย์และนักกายภาพคอยพยุง ซึ่งหลวงพ่อสามารถเดินได้จำนวน 89 ก้าว ซึ่งหลวงพ่อได้บอกกับแพทย์ว่า รู้สึกเหนื่อยแล้ว จึงหยุดทำกายภาพ โดยใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง 10 นาที
ด้าน รศ.พญ.วิไล คุปต์นิรัติศัยกุล กล่าวว่า จากการสังเกตการทำกายภาพของหลวงพ่อคูณเพียง 2 วันหลวงพ่อสามารถทำได้ดี ซึ่งหลังจากนี้จะนำหลวงพ่อทำกายภาพให้มากขึ้น 2 เวลาต่อวัน คือช่วงเช้าเวลา 10.00 น.และบ่ายเวลา15.30 น.จากนั้นในวันที่ 19 ก.ย.นี้คณะแพทย์จะประเมินสภาพร่างกายหลวงพ่ออีกครั้ง นอกจากนี้จะประเมินการกลืน เพราะหลวงพ่อได้ใช้เครื่องกระตุ้นการกลืนมา 2วันแล้ว ทุกวันนี้จะฝึกให้หลวงพ่อนั่งได้ ยืนและเดินเองได้ และระบายเสมหะเป็นหลัก เพราะหลวงพ่อมีเสมหะมาก ซึ่งดูแล้วน่าจะฟื้นฟูกลับมาได้ในระดับหนึ่ง โดยตั้งเป้าไว้ว่าอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคนไข้และปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย