ทหารกองกำลังสุรนารี จัดชุดลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านตามแนวชายแดน พร้อมสำรวจ และซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายให้แก่ชาวบ้าน ด้าน ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เผยจำนวนผู้อพยพลดลง ชาวบ้านเริ่มกลับเข้าพื้นที่ เร่งฟื้นฟูจิตใจชาวบ้าน ยันสัปดาห์หน้าช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนที่เสียหายแน่
วันนี้ (10 ก.พ.) สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ โดยนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า คืนที่ผ่านมาไม่มีรายงานการปะทะ ส่วนศูนย์อพยพได้ลดจำนวนเหลือ 34 จุด จากทั้งหมด 37 จุด ยอดผู้อพยพลดลงเหลือ 13,000 คน จากเมื่อวานที่มียอดกว่า 21,000 คน เนื่องจากเช้านี้ชาวบ้านเริ่มไว้วางใจและทยอยกลับเข้าพื้นที่ ส่วนหมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงมาก ต้องรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง โดยในวันอาทิตย์นี้ จะมีการประเมินร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ว่า จะสามารถให้ชาวบ้านกลับเข้าพื้นที่ได้หรือไม่
สำหรับบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ในสัปดาห์หน้าทางราชการจะเริ่มเข้าไปฟื้นฟู โดยใช้เวลาประมาณ 7 วัน ในการซ่อมแซม แต่บ้านที่เสียหายทั้งหลังคาดว่า จะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน โดยช่วงนี้ จะเน้นการดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของชาวบ้านเป็นหลัก
ด้านทหารกองกำลังสุรนารี ได้จัดชุดออกลาดตระเวนตามหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ภูผาหมอก ต.เสาธงชัย ต.ละลาย และ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และได้รับผลกระทบจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา เมื่อหลายวันก่อน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตามบ้านเรือน และช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย พร้อมกับพูดคุยกับชาวบ้านที่ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังให้กำลังใจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ขณะทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน
สำหรับเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บริเวณแนวชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร ยังคงเป็นปกติ เจ้าหน้าที่กำลังประเมินเรื่องความปลอดภัย ก่อนอนุญาตให้ชาวบ้านกลับเข้าไปพักอาศัยในบ้านตามปกติ
ส่วนบรรยากาศที่ศูนย์อพยพ ที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่วงเช้าวันนี้ ประชาชทำกิจกวัตรประจำวัน และจับกลุ่มพูดคุยถึงสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา บางส่วนมีท่าทีผ่อนคลาย เนื่องจากไม่มีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา แต่ยังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลจะให้ประชาชนเข้าบ้านเรือนตนเองเมื่อใด ทำให้ชาวบ้านกังวลเรื่องนี้เพราะเป็นห่วงทรัพย์สินและบ้านเรือนของตนเอง ทั้งนี้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ประชาชนที่อพยพไปยังจุดห่างไกลต่างทยอยกลับมาที่ศูนย์อพยพเพื่อรอคำสั่งให้กลับเข้าบ้านเรือน
อย่างไรก็ตาม ที่ศูนย์อพยพมีประชาชนทยอยมาแจกสิ่งของให้ผู้อพยพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะกระจายสิ่งของไปยังศูนย์อพยพอื่นๆ ต่อไป