จนท.กางเต็นท์เพิ่มเติมรองรับผู้อพยพ เหตุปะทะไทย-เขมร บางส่วนไปอาศัยบ้านญาติในตัวเมืองศรีสะเกษ ขณะที่อีกส่วนยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพราะห่วงทรัพย์สิน ด้านทีมแพทย์ รพ.กันทรลักษ์ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ส่วนชายแดนไทย-เขมรสั่งปิดด่านช่องจอม-โอร์เสม็ด ไม่มีกำหนด พร้อมตึงกำลังทหารมากขึ้น ร.ร.บ้านภูมิซรอลสั่งปิดการสอน รอดูสถานการณ์
วันนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณศูนย์อพยพประชาชนจากแนวชายแดนท่าสว่าง ต.โนนสำราญ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่นำเต็นท์มากางเพิ่มเพื่อรองรับประชาชนที่อพยพมา ภายหลังมีเหตุการณ์ทหารไทยปะทะทหารกัมพูชา ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (6 ก.พ.) โดยจำนวนประชาชนที่อาศัยอยู่นั้นบางตาลง เนื่องจากมีข่าวลือว่าการยิงระเบิดและกระสุนปืนใหญ่จะตกที่ทำการ อ.กันทรลักษ์ ทำให้ผู้อพยพหวาดกลัวและเกรงความไม่ปลอดภัย จึงพากันย้ายเข้าไปอาศัยตามบ้านญาติในตัวเมืองศรีสะเกษ บางรายมีญาติอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี และใกล้เคียง พากันแยกย้ายออกจาก จ.ศรีสะเกษ ทั้งนี้ ประชาชนบางส่วนยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพื่อดูแลทรัพย์สินในบ้านพักและยุ้งข้าวที่เพิ่งทำการเก็บเกี่ยว เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจสบโอกาสในช่วงนี้ก่อเหตุได้
โดยล่าสุดได้มีเหตุปะทะกันอีกเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.ที่บริเวณภูมะเขือ บ้านซำร่อง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีเสียงปืนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาหลายนัด ส่งผลให้ชาวบ้านต้องอพยพออกจากที่พำนักไปยังศูนย์พักพิงที่อยู่ในตัวอำเภอกันทรลักษ์ อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่หลบหนีลงหลุมหลบภัย แต่ความเสียหายของฝ่ายพลเรือนจากการสู้รบเมื่อคืนนี้และเช้าวันนี้ถือว่าไม่มากอย่างที่มีการประเมินกันก่อนหน้านี้ โดยพบว่ามีถนนใน ต.เสาธงชัย รวมทั้งบ้านชาวบ้าน และอาคารสำนักสงฆ์ธุดงคสถาน พระวิหารเพชร มีหลุมระเบิดขนาดใหญ่ ซึ่งในช่วงเช้าทหารนำดินมากลบหลุมบนถนนแล้ว
ด้านชาวบ้าน อ.น้ำขุ่น อ.น้ำยืน และ อ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดชายแดนกัมพูชาเช่นกัน ต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ยิงปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยเร่งอพยพไปรวมกันภายในศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือประชาชนที่โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี โดยทางอำเภอและ อบต.ได้จัดอาหารบรรเทาความหิวให้ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางส่วนไปขออาศัยตามสถานที่ราชการและสถานีตำรวจในพื้นที่
ส่วนชาวบ้านซำงู อ.ทุ่งศรีอุดม ซึ่งอยู่ลึกจากชายแดนประมาณ 30 กิโลเมตร ได้จัดชุดเวรยามรักษาความปลอดภัย และจัดศาลากลางหมู่บ้านให้ชาวบ้านใช้เป็นที่พักแรมชั่วคราว
ด้าน โรงพยาบาลกันทรลักษ์ ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลประมาณ 30 ราย โดยทีมแพทย์และพยาบาลเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว หากผู้บาดเจ็บรายใดอาการสาหัส เจ้าหน้าที่จะส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้บาดเจ็บจากเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ล่าสุดทางโรงพยาบาลกันทรลักษ์รายงานว่า มีจำนวนผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร 15 ราย ชาวบ้าน 12 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ด้าน จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้แนวชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ มีการเข้มงวดกำลังทหารมากขึ้น โดยล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งปิดด่านช่องจอม และโอร์เสม็ด ไม่มีกำหนด พร้อมประสานผู้จัดการตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาทั้งหมดเดินทางกลับประเทศ และประกาศให้ชาวไทยที่ตกค้างในบ่อนกาสิโนกลับประเทศโดยเร็วเช่นกัน
ทั้งนี้ ทหารพรานกองกำลังสุรนารีได้ตรึงกำลังเข้มบริเวณชายแดนปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย พร้อมเฝ้าจับตาฝ่ายทหารกัมพูชาอย่างใกล้ชิดด้วย
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนบ้านภูมิซรอลได้สั่งปิดการเรียนการสอนจนถึงวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ และขอประเมินสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยก่อน และรอฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาในจังหวัดสั่งการ ซึ่งเหตุทั้งหมดนั้นตนเองและผู้นำหมู่บ้านยังไม่ออกจากพื้นที่ ต้องคอยเฝ้าตรวจตราดูแลทรัพย์สินของชาวบ้าน รวมทั้งข้าวที่ชาวบ้านเพิ่งเก็บเกี่ยวมา และคอยประสานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหารอีกแรงหนึ่ง