ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ด่วน! ทหารไทย-กัมพูชา เปิดฉากปะทะเดือดบริเวณภูมะเขือ และรอบเขาพระวิหาร ชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กระสุนปืนใหญ่เข้ามาตกฝั่งไทย ชาวบ้านภูมิซรอล เด็กนักเรียนวิ่งหนีตายเข้าหลุมหลบภัยอลหม่าน ผอ.โรงเรียนภูมิซรอลสั่งปิดเรียนให้ นร.กลับบ้าน จนท.เร่งอพยพ ปชช.ออกจากหมู่บ้านชายแดนโกลาหล ล่าสุดชาวภูมิซรอลสังเวยปืนใหญ่เขมรดับ 1 ราย ขณะทหารไทยเจ็บ 4-5 นาย ถูกจับ 4 นาย ส่วนทหารเขมรตาย 2 เจ็บ 2 นาย
วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย โดยได้มีการระดมยิงทั้งปืนใหญ่และอาวุธนานาชนิดเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง เสียงกระสุนปืนได้ยินเข้ามาถึงบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างชัดเจน
จากการปะทะอย่างต่อเนื่องดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้ป่าตลอดแนวเขาพระวิหาร ซึ่งการปะทะครั้งนี้เบื้องต้นยังไม่มีรายงานทหารทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยขณะรายงานข่าว ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงปะทะยิงถล่มเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่องและมีกลุ่มควันขนาดใหญ่จากเพลิงไหม้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ที่บริเวณเขาพระวิหาร สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ครูพานักเรียนหนีเข้าหลุมหลบภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ที่หมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ บรรดาครู นักเรียน และชาวบ้านภูมิซรอลต่างพากันวิ่งหนีเข้าหลุมหลบภัยกันจ้าละหวั่น เนื่องจากมีกระสุนปืนใหญ่จากทางฝ่ายทหารกัมพูชาเข้ามาตกอยู่ห่างจากหมู่บ้านภูมิซรอลทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.)
หลังจากนั้น ในช่วงที่ไม่มีเสียงปืนใหญ่เข้ามาตก นายบุญรวม พงษ์ปาน ผู้อำนวยการโรงเรียนภูมิซรอล และครูผู้สอนจึงได้อนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านอย่างเร่งด่วน ซึ่งบรรดาประชาชน ผู้ปกครองนักเรียนได้พากันเก็บทรัพย์สินและของมีค่า เตรียมอพยพสู่พื้นที่ปลอดภัยตามที่ได้ซ้อมแผนอพยพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
นายบุญรวน พงษ์ปาน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านภูมิซรอล กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและกัมพูชาตามแนวชายแดน จ.ศรีษะเกษว่า ขณะนี้รั้วด้านหน้าโรงเรียนพังทั้งแถบ และเกิดหลุมขนาดใหญ่ 2 หลุมขึ้น แต่ที่เสียหายหนักคือบ้านประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านภูมิซรอลไฟไหม้ถึง 4 หลังคาเรือน ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน
ด้านบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ปรากฏว่ามีรถทหารไทยนำกำลังพลพร้อมอาวุธเดินทางผ่านขึ้นไปยังบริเวณชายแดนเขาพระวิหารอย่างต่อเนื่อง
ปืนใหญ่เขมรตกในหมู่บ้านคนไทยหลายนัด-ชาวบ้านดับ 1 ราย
เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในพื้นที่หมู่บ้านชุมชนของ ต.เสาธงชัย อย่างต่อเนื่องจำนวนนับ 10 ลูก ทั้งตกใส่บ้านเรือนประชาชนภายในหมู่บ้านภูมิซรอล และอีกหลายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดนทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายหลายหลัง
นอกจากนี้ยังมีประสุนปืนใหญ่ตกลงบริเวณโรงเรียนบ้านภูมิซรอล อาคารเรียนได้รับความเสียหลายจุด และกระสุนปืนใหญ่ได้ตกใกล้ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย ด้วย ชาวบ้านต่างแตกตื่นพากันจูงแขนคนชรา อุ้มลูกหลานวิ่งหนีเข้าหลุมหลบภัยกันอย่างโกลาหล
ล่าสุดมีรายงานว่า นายเจริญ ผาหอม อายุ 59 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล ถูกกระสุนปืนใหญ่ คอขาดเสียชีวิตคาที่ 1 ราย ขณะหลบอยู่ภายในร่องน้ำ โดยศพยังติดอยู่ในที่เกิดเหตุ และยังมีรายงานชาวบ้านได้รับบาดเจ็บด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอาสาสมัคร ได้เร่งอพยพประชาชนออกจากบ้านภูมิซรอลไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่บริเวณที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ เกือบทั้งหมดแล้ว ส่งผลให้ถนนสายต.เสาธงชัย - กันทรลักษ์ แน่นไปด้วยรถของประชาชนหนีภัยสงคราม และ พบว่าได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นหลายจุดด้วย
ทหารไทยบาดเจ็บ 4 ถูกจับ 4 นาย-เขมรดับ 2 ศพ
เวลาประมาณ 18.30 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้การปะทะกันของทหาร 2 ฝ่ายได้ยุติลงแล้ว มีทหารไทยถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และทหารกองทัพภาคที่ 2 ชุดประสานงานร่วมไทย-กัมพูชาที่ วัดแก้วสิขาคีรีสวาระ บนเขาพระวิหาร พื้นที่ 4. 6 ตารางกิโลเมตร (กม.) ถูกฝ่ายกัมพูชาควบคุมตัวไว้จำนวน 4 นาย ซึ่งทหารระดับสูงทั้ง 2 ฝ่าย กำลังนัดเจรจาพูดคุยกันอยู่
ส่วนฝ่ายกัมพูชามีรายงานว่า ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย และ ได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย จากประทะกันในครั้งนี้ ซึ่งต่างฝ่ายต่างอ้างว่าถูกเปิดฉากยิงถล่มด้วยกระสุนปืนใหญ่ก่อน
“จุรินทร์” ระบุทหารไทยเจ็บ 5 ชาวบ้านตาย 1
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากรายงานล่าสุดเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ มีทหารไทยบาดเจ็บเพิ่มเติมรวมเป็น 5 ราย คือ จ.ส.ต.อ.มงคล พลเยี่ยม อายุ 49 ปี มีเลือดออกที่ใต้ตาจากแรงสะเก็ดระเบิด, อาสาสมัครทหารพราน ดำรง พรมโอตร อายุ 51 ปี หูอื้อจากแรงระเบิด และมีแผลถลอกมือขวา, จ.ส.ต.นิรัตน์ งามสูงเนิน อายุ 49 ปี ปวดศีรษะจากแรงระเบิด และอาสาสมัครทหารพราน สุรรณ ก่อแก้ว อายุ 40 ปี ศีรษะแตก มีแผลประมาณ 45 ซม. อยู่ระหว่างการเย็บแผล ทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว รักษาตัวในโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ รวมทหารบาดเจ็บ 5 ราย ชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย
เผยปะทะฝ่ายไทยยังไม่สูญเสีย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 12.10 น.วันเดียวกันนี้ ( 4 ก.พ.) ชุดเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 23 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้เกิดการปะทะด้วยอาวุธสงครามกับทหารกัมพูชาที่บริเวณทิศใต้ปราสาทพระวิหาร เป็นช่วงเส้นทางที่ฝ่ายทหารกัมพูชา สร้างเส้นทางขึ้นมายังปราสาทพระวิหาร การสู้รบกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชาในจุดนี้ได้รับการยืนยันจากนายทหารชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยังไม่มีการสูญเสีย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจ ได้แจ้งเตือนประชาชนที่บ้านห้วยตามาเรีย ต.รุง อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ให้เคลื่อนย้าย ออกจากพื้นเพื่อความปลอดภัย
สั่งชาวบ้านใกล้เขาวิหารอพยพออกนอกพื้นที่
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณด้านทิศตะวันออกปราสาทพระวิหาร ใกล้กับช่องตาเฒ่า และพื้นที่ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษณ์ ก็ได้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา การต่อสู้เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้ฝ่ายปกครองต้องแจ้งให้ประชาชนบ้านเรือนอยู่ใกล้ชายแดน ต.ภูผาหมอก อพยพออกจากพื้นที่ ล่าสุดยังไม่ทราบความสูญเสีย ทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนที่บริเวณปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และพื้นที่ช่องสายตะกู จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 สั่งเตรียมพร้อมเต็มพิกัด
พ่อค้าแม่ค้าชายแดนแตกตื่น-ปิดร้านค้าหนี
ทางด้านประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชาที่ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยเฉพาะที่เข้าไปแสวงโชคในกาสิโนฝั่งกัมพูชา ได้ตื่นตระหนกต่อข่าวการปะทะกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณปราสาทพระวิหาร ได้แตกตื่นหนีออกจากบ่อนกาสิโน กลับเข้ามาในเขตแดนไทย เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาค้าขายที่ตลาดช่องจอมก็พากันปิดร้านค้าและเตรียมเดินทางกลับฝั่งกัมพูชาแล้ว
ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าว “ASTV ผู้จัดการ” จะรายงานให้ทราบต่อไป