นางคำเบ็ง มูลเชียงใต้ ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการ เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีรังวัดที่ดิน
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 18.00 น. นางคำเบ็ง มูลเชียงใต้ อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 164 หมู่ที่ 6 ตำบลสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการ ในกรณีถูกโกงที่ดินขนาด 2 งาน 61 ตารางวา อันเนื่องมาจากการทำรังวัดที่ดิน หลังจากเคยร้องเรียนจากหน่วยงานต่างๆ แล้ว แต่ไม่ปรากฏผลความคืบหน้า
จากการสอบถามนางคำเบ็งทำให้ทราบว่า ที่ดิน 2 งาน 61 ตารางวาดังกล่าว นางคำเบ็งได้รับเป็นมรดกตกทอดจาก สิบเอกวิชัย มูลเชียงใต้ ผู้เป็นสามี โดยภายหลังได้แบ่งที่ดินดังกล่าวให้ลูกทั้งสามของตน ต่อมาเมื่อนายพันศักดิ์ มูลเชียงใต้ บุตรชายคนเล็กต้องการแต่งงาน นางคำเบ็งและนายพัลลภ มูลเชียงใต้ บุตรชายคนโต จึงได้นำพื้นที่ส่วนของนายพัลลภไปขายกับนางประมวล กุลศรี เพื่อนบ้าน แต่นางประมวลศรี ไม่มีเงินในขณะนั้น จึงขอโฉนดที่ดินดังกล่าวไปจำนองได้เงินมาจำนวน 82,000 บาท ให้แก่นางคำเบ็ง แต่หลังจากนั้นที่ดินส่วนที่เหลือกลับถูกนางประมวลศรีบุกรุก โดยการทำรังวัดที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งจะทำตอนนางคำเบ็งไม่อยู่บ้าน ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ทั้งยังถูกดาบตำรวจ พรชัย กุลศรี สามีของนางประมวล และทำงานอยู่ภายในอำเภอสมเด็จ ออกโฉนดทับที่ดินให้ ทำให้กรรมสิทธิ์เหนือที่ดินตรงนั้นกลายเป็นของบุคคลอื่น
นอกจากนี้ นางคำเบ็งยังเปิดเผยอีกว่า เคยขึ้นศาลหลายครั้ง มีการจ้างทนาย แต่ถูกผู้ใหญ่ในพื้นที่บอกไม่ให้จ้างทนาย ไม่ให้ออกข่าว และไม่ให้ฟ้องคู่กรณี แม้กระทั่งเมื่อเดือนกันยายน 2551 ช่วงที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ผู้เสียหายได้ไปนั่งร้องไห้ถือป้ายผ้าประท้วงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ จนเจ้าหน้าที่ต้องเชิญตัวนางคำเบ็งออกไปจากบริเวณทางเข้า เพราะเกรงว่าจะสร้างความวุ่นวาย
นางคำเบ็งยังได้แสดงใบแจ้งความที่นำติดตัวมาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ กรณีทำเรื่องมอบอำนาจในการจัดการที่ดิน แต่ไม่ทราบว่ามอบอำนาจนั้นให้แก่ผู้ใด เนื่องจากไม่รู้หนังสือ และใบมอบอำนาจนั้นหายไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2549