สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา และคณะรัฐมนตรี รอรับเสด็จฯ
วันนี้ (7 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ พร้อมด้วย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ไปในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
โอกาสนี้ รัฐบาลได้เชิญพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ทูตานุทูต กงสุล องค์การระหว่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข้าราชการทหาร 3 เหล่าทัพ ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการการเมือง ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการพลเรือน ประธานมูลนิธิ สมาคมการกุศล ผู้นำนักธุรกิจ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ รวมจำนวนประมาณ 3,600 คู่ ร่วมในงานสโมสรสันนิบาตฯ ครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ เวลา 19.00น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยา พร้อมคณะบุคคลต่างๆ อาทิ รองนายกรัฐมนตรีและภริยา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฯลฯ ได้รอรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ กองทหารเกียรติยศ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงมหาชัย ภริยานายกรัฐมนตรีและภริยารองนายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยพระกร จากนั้น นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ทอดพระเนตรพระบรมศาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งวาดโดยศิลปินชั้นนำของประเทศ ภายในตึกไทยคู่ฟ้า เสร็จแล้วกราบบังคมทูลเชิญเสด็จ ตามลาดพระบาทไปจนถึงที่ประทับ เมื่อได้เวลานายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลฯ ขอพระราชทานพระราชานุญาต กล่าวถวายพระพรชัยมงคล และเชิญชวนผู้ร่วมงานดื่มถวายพระพรชัยมงคล มีใจความว่า
“ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ใต้ฝ่าละอองพระบาทเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ มาทรงเป็นประธานในงานสโมสรสันนิบาตที่รัฐบาลจัดขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในมหามงคลสมัยวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ได้เวียนมาบรรจบครบรอบ 82 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้
ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่าหกทศวรรษ นับแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงสิริราชสมบัติ เมื่อพุทธศักราช 2489 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ทรงมุ่งมั่นปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน ทรงทุ่มเทอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา ตลอดจนกำลังพระราชทรัพย์ ทรงงานด้วยพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถในสรรพศาสตร์และศิลป์ เพื่อสร้างสรรค์ความสุข ความเจริญแก่ราษฎร และทรงนำความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ามาสู่ พระราชอาณาจักรอย่างยั่งยืน พสกนิกรล้วนมีความร่มเย็นเป็นสุขและมีความจงรักภักดี เทิดทูนพระมหากรุณาธิคุณไว้เหนือเศียรเกล้า ก่อให้เกิดความรักความผูกพันอันยิ่งใหญ่ระหว่างราษฎรและพระมหากษัตริย์ อันมิอาจพรรณนาได้ถูกต้องครบถ้วน ณ โอกาสอันเป็นมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้ พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จึงพร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ แสดงความจงรักภักดี และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชน ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา
เนื่องในวาระอันเป็นมิ่งมงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษานี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอ พระราชทานพระราชานุญาตเชิญชวนผู้ที่เฝ้าทูลละอองพระบาท ในงานมหาสโมสรสันนิบาตแห่งนี้ ร่วมจิตพร้อมน้อมตั้งสัตยาธิษฐาน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ได้โปรดอภิบาลบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจงทรงพระเจริญ พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง โรคาพาธประลาตร้างห่างไกล สถิตเสถียรในมไหศูรย์สมบัติ เป็นฉัตรแก้วร่มเกล้าของเหล่าพสกนิกรตราบจิรัฐิติกาล พร้อมทั้งขอเชิญชวนผู้มีเกียรติทุกท่านดื่มถวายพระพรชัยมงคล เพื่อความเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
จากนั้น ดนตรีกรมศิลปากรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ระหว่างนั้นมีการจุดสายธารา ภปร. และจุดพลุดอกไม้ไฟ พร้อมกับดนตรีกรมศิลปากรบรรเลงเพลงสดุดีมหาราชา เมื่อได้เวลาอันสมควร นายกรัฐมนตรีและภริยาส่งเสด็จ ณ รถยนต์พระที่นั่ง เพื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับ โดยมีกองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงส่งเสด็จ