อุทาหรณ์สอนใจ เมื่อ "พนง.เก็บขยะ" ไม่รู้กฏหมาย เก็บวีซีดีเถื่อนในกองขยะไปขายต่อที่ตลาดนัด จนถูกตร.รวบตัวพร้อมของกลาง ด้านอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ฐานขายของผิดกฏหมาย ไม่รับอนุญาตถูกต้อง เจ้าตัวเปิดใจกับสื่อ ที่นำวีซีดีไปขาย เพราะหวังหารายได้เสริมเลี้ยงปากท้อง ลั่นหากว่ารู้ผิดกฏหมายจะไม่ทำเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2552 สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 สำนักงานคดีอาญา ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา อายุ 22 ปี อาชีพพนักงานชั่วคราว ทำหน้าที่เก็บขยะมูลฝอยในพื้นที่ต่างๆของกรุงเทพมหานคร ฐานประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายภาพยนตร์โดยถือเป็นธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ตอบแทนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
ทั้งนี้ นายปฏิพงษ์ ผู้เป็นจำเลย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลหัวหมาก จับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2551 บริเวณตลาดนัดใกล้สี่แยกกรุงเทพกรีฑา แขวงบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยขณะนั้น กำลังขายวีซีดีภาพยนตร์ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือว่าทำผิดกฏหมาย ทั้งนี้ นายปฏิพงษ์ ถูกจับกุมตัว พร้อมของกลางเป็นแผ่นวีซีดีภาพยนตร์ จำนวน 83 แผ่น และป้ายแสดงราคาสินค้า ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้แก่พนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ นายปฏิพงษ์ กล่าวเปิดเผยความจริงกับสื่อมวลชน ว่า ตนทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว มีหน้าที่เก็บขยะมูลฝอย ในพื้นที่ต่างๆของกทม. ซึ่งแต่ละครั้งในระหว่างปฏิบัติหน้าที่มักจะพบเจอสิ่งของที่หลุดติดมากับพวกขยะมูลฝอย ที่ประชาชนเผลอทิ้ง ตนจึงได้เก็บสิ่งของดังกล่าวไปใช้เองบ้าง หรือนำเอาไปจำหน่าย เพื่อหารายได้เสริม
"วีซีดีภาพยนตร์ที่นำมาจำหน่าย ล้วนแล้วแต่เป็นของที่เก็บได้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น การนำไปจำหน่าย จึงเป็นการกระทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งถ้าหากทราบเรื่องนี้มาก่อนว่า ผิดกฏหมาย ก็จะไม่ทำเด็ดขาด" นายปฏิพงษ์ กล่าว
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2552 สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 สำนักงานคดีอาญา ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา อายุ 22 ปี อาชีพพนักงานชั่วคราว ทำหน้าที่เก็บขยะมูลฝอยในพื้นที่ต่างๆของกรุงเทพมหานคร ฐานประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายภาพยนตร์โดยถือเป็นธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ตอบแทนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
ทั้งนี้ นายปฏิพงษ์ ผู้เป็นจำเลย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลหัวหมาก จับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2551 บริเวณตลาดนัดใกล้สี่แยกกรุงเทพกรีฑา แขวงบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยขณะนั้น กำลังขายวีซีดีภาพยนตร์ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือว่าทำผิดกฏหมาย ทั้งนี้ นายปฏิพงษ์ ถูกจับกุมตัว พร้อมของกลางเป็นแผ่นวีซีดีภาพยนตร์ จำนวน 83 แผ่น และป้ายแสดงราคาสินค้า ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้แก่พนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ นายปฏิพงษ์ กล่าวเปิดเผยความจริงกับสื่อมวลชน ว่า ตนทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว มีหน้าที่เก็บขยะมูลฝอย ในพื้นที่ต่างๆของกทม. ซึ่งแต่ละครั้งในระหว่างปฏิบัติหน้าที่มักจะพบเจอสิ่งของที่หลุดติดมากับพวกขยะมูลฝอย ที่ประชาชนเผลอทิ้ง ตนจึงได้เก็บสิ่งของดังกล่าวไปใช้เองบ้าง หรือนำเอาไปจำหน่าย เพื่อหารายได้เสริม
"วีซีดีภาพยนตร์ที่นำมาจำหน่าย ล้วนแล้วแต่เป็นของที่เก็บได้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น การนำไปจำหน่าย จึงเป็นการกระทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งถ้าหากทราบเรื่องนี้มาก่อนว่า ผิดกฏหมาย ก็จะไม่ทำเด็ดขาด" นายปฏิพงษ์ กล่าว