ตาก - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชายแดนไทย-พม่าเร่งดึงประชาชนร่วมคัดแยกขยะ ลดปัญหาขยะล้นเมือง ตั้งชุมชนต้นแบบคัดแยกขยะ เพื่อสร้างรายได้ หลังปริมาณขยะในเขตเทศบาลพุ่งสูงขึ้นถึงวันละ 15-20 ตัน
นายคณิศร มณเฑียรทอง หัวหน้ากองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชายแดนไทย-พม่า กล่าวถึงผลการดำเนินการจัดเก็บขยะมูลฝอยในเขตเทศบาล โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลท่าสายลวดว่า ที่ผ่านมามีขยะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-20 ตันต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ประมาณ 5 ตันต่อวัน ด้วยสาเหตุการเพิ่มจำนวนของประชากร ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีมากกว่า 40 โรงในพื้นที่ ตลอดถึงจำนวนของร้านค้า และร้านอาหารที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในแต่ละเดือน เทศบาล ต.ท่าสายลวด ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการจัดการขยะมูลฝอย ทั้งการเก็บรวบรวม การขนย้าย และการกำจัดขยะ
ดังนั้น เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย และลดปัญหาภาวะโลกร้อน รวมทั้งป้องกันขยะ ที่อาจเป็นแหล่งที่อยู่ของพาหะนำโรคติดต่อทางเดินอาหาร น้ำ จึงจำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ และได้รับความร่วมมือจากประชาชน โดยนำหลักการลดการใช้ การนำกลับมาใช้ใหม่ จากวิทยากรที่มีความรู้ และมีประสบการณ์ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก เพื่อให้ประชาชนนำความรู้ กระบวนการการคัดแยกขยะ นำไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยเริ่มตั้งแต่ในครัวเรือน
โดยชุมชนบ้านสหกรณ์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นชุมชนต้นแบบการคัดแยกขยะในชุมชน ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดการขยะมูลฝอยในเขตเทศบาล ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดขยะในชุมชนได้ปีละกว่า 20,000 กิโลกรัม และสร้างรายได้ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า 40,000 บาทต่อปี