ชาวนาบุกทำเนียบ จี้รัฐช่วยเหลือประกันราคาข้าว

กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ภาคกลาง ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เพื่อร้องขอให้ช่วยเหลือด้านการประกันราคาข้าวตลอดทั้งปี โดยยึดราคาตลาด 12,000 บาทต่อเกวียน และลดขั้นตอนการลงทะเบียนของเกษตรกรให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

วันนี้ (1 ก.ย.) ชาวนาไทยจาก จ.สุพรรณบุรี ประมาณ 200 คน มาชุมนุมอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และได้ส่งตัวแทนประมาณ 30 คน นำโดยนายยุทธนา โพธสุธน อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี เข้ายื่นหนังสือต่อนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ เพื่อขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยขอให้รัฐบาลประกันราคาข้าวในราคาเกวียนละ 12,000 บาท เพราะขณะนี้โรงสีกดราคาเหลือเกวียนละ 6,500 บาท ขอให้ช่วยเหลือชาวนาไทยบ้าง เพราะเป็นอาชีพของบรรพบุรุษไทย รัฐบาลอย่ามัวแต่ช่วยอาชีพอื่นอย่างกรณีเช็คช่วยชาติ 2 พันบาท จนลืมช่วยชาวนา และยังขอให้รัฐบาลประกันราคาข้าวเปลือกตามความเป็นจริงพื้นที่เพาะปลูก ประกันราคาตลอดทั้งปี รวมทั้งลดขั้นตอนการประกันราคาเพราะทำให้เกิดความยุ่งยากในการประกันราคาอย่างมาก ทั้งนี้ ตัวแทนชาวนาได้หารือกับนายกอร์ปศักดิ์ เพื่อหายุติอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มตัวแทนเกษตรกรจากเชียงใหม่ และลำพูน นำโดยนายสมาน ทัดเที่ยง ประธานชมรมกลุ่มผู้ใช้น้ำลุ่มแม่กวง ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านทางนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ และนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ให้เร่งแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ไร่นากว่าแสนไร่ โดยขอให้เร่งทำฝนเทียม และเดินหน้าโครงการขุดอุโมงค์จากเขื่อนแม่งัดมาที่แม่กวงโดยด่วน นอกจากนี้ยังขอให้นายกรัฐมนตรีเดินทางไปดูแลปัญหาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยรับปากว่าไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะชาวบ้านจะช่วยดูแลให้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้นายธีระ รับปากที่จะแก้ปัญหาให้ และนำเสนอเรื่องต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ กำลังเร่งรัดเกษตรกรลงทะเบียนเพื่อดำเนินการตามนโยบายประกันราคาสินค้าเกษตรทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง ข้าว ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อาจจะเกิดปัญหาบ้าง เช่น ข้าว ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างข้าวนาปรัง และนาปี เพราะมีข้าวบางส่วนออกสู่ตลาดแล้ว จึงไม่สามารถเข้าโครงการประกันราคาข้าวได้ และโครงการรับจำนำก็สิ้นสุดไปแล้ว ซึ่งเราต้องยอมรับว่าเมื่อข้าวออกสู่ตลาดแล้ว เป็นเรื่องที่พิสูจน์ยากว่าเป็นข้าวรุ่นไหน คงจะเข้าสู่โครงการยาก