วันนี้( 8 เม.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางศุภรัตน์ นาคบุญนำ และวีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกรัฐบาล ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนี้
ครม.อนุมัติหลักการร่างพ.ร.ฎ.ควบคุมการส่งยุทธภัณฑ์ออกนอกประเทศ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้การสงคราม (ฉบับที่ ... ) พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ เรื่องนี้ ก.กลาโหม เสนอว่า สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้การสงคราม พ.ศ. 2535 เพื่อให้การควบคุมอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม สอดคล้องกับประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่องกำหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2550 ลงวันที่ 30 พ.ย.2550 โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และอาวุธเคมี ทั้งในส่วนของการนำเข้าและส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ก็ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตลอดจนเป็นไปตามมาตรฐานของออนุสัญญาระหว่างประเทศ และมีความเหมาะสมกับสภาวะการณ์มากยิ่งขึ้น จึงได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญหลักๆ ของร่าง ก.ม.ฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้การสงคราม พ.ศ. 2535 นั่นเอง
ครม.เห็นชอบร่างระเบียบกท.คลังว่าด้วยการเบิกเงินช่วยเหลือทหารพราน
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า ครม.ก็เห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และเงินช่วยเหลืออาสาสมัครทหารพราน กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอและให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ ครม.ตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไป
เรื่องนี้ ก.คลัง เสนอต่อที่ประชุม ครม.ว่าเพื่อให้ อส.ทพ. กระทรวงกลาโหม ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมกรณีถูกปลด พิการ และทุพพลภาพ ตามนัยมติ ครม.22 ม.ค.2551 จึงเห็นควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลืออาสาสมัครทหารพรานกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงได้เสนอร่างระเบียบดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญมีการเปลี่ยนข้อความส่วนหนึ่ง เป็นการยกเลิกข้อความในข้อ 21 ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลืออาสาสมัครทหารพรานกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2548 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน "ให้อาสาสมัครทหารพรานที่ครบเกษียณอายุ หรือออกจากงานด้วยเหตุปลดพิการและทุพพภาพ หรือทายาทในกรณีอาสาสมัครทหารพรานถึงแก่ความตาย มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนเท่ากับเงินค่าตอบแทนเดือนสุดท้าย คูณด้วยเวลาทำงาน" นี่คือข้อความที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในร่างกฎหมายฉบับนี้
ครม.รับทราบการจัดสรรเงินรางวัลเพิ่มพิเศษสำหรับขรก.ระดับผู้บริหาร
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า ครม.รับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอในการจัดสรรเงินรางวัลสำหรับหน่วยงานและผู้ปฏิบัติ และเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2550 ก็เป็นข่าวดีสำหรับข้าราชการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ดังที่เรียนให้ทราบแล้ว ครม.เห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอทั้ง 3 ข้อดังนี้
1. การสรุปคะแนนผลการประเมินการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2550 ของส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ 2. การจัดสรรเงินรางวัลประจำปีให้ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัดที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการในปีงบประมาณ 2550 และมีผลการประเมินที่ครบถ้วนทุกตัวชี้วัด และผ่านเกณฑ์การประเมินผล ซึ่งเป็นการจ่ายครั้งเดียว ในวงเงินงบประมาณที่จะจัดสรรทั้งหมด 5,550 ล้านบาท นอกจากนี้ ให้นำเงินร้อยละ 50 ของผู้บริหารที่มีสิทธิได้รับเงินเติมพิเศษไปสมทบกับเงินรางวัลที่จะจัดสรรให้กับกลุ่มผู้ปฏิบัติด้วย โดยเป็นการใช้เงินงบกลางสำหรับจ่ายเป็นเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหารก็เป็นจำนวนเงินงบประมาณ ประมาณ 642.5 ล้านบาท เพื่อนำไปสมทบและจัดสรรเป็นเงินรางวัลให้กลุ่มผู้ปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร และเงินรางวัลสำหรับหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2550 ส่วนแนวทางในการดำเนินงานซึ่งระบุไว้เป็นข้อที่ 3 ที่สำนักงาน ก.พ.ร.ได้เตรียมการสรุปไว้ บอกว่า ให้ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด มีตัวชี้วัดจำนวนมาก โดยเฉพาะตัวชี้วัดเพื่อประมวลผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล ขออนุญาตยกตัวอย่างสัก 1 ตัวอย่าง เช่น ตัวชี้วัดที่เกี่ยวกับระดับความสำเร็จของการดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ก็จะมีส่วนราชการที่เป็นเจ้าภาพหลักก็คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างนี้เป็นต้น รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้และทุกเรื่องที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักฯ จะสำเนาแจ้งสื่อมวลชนที่สนใจในแต่ละประเด็นต่อไป
ครม.รับทราบรายงานกท.พาณิชย์กรณีการค้าระหว่างประเทศ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า อีกเรื่องหนึ่งเป็นรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ เรื่องเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 2 เดือนแรก ในปี 2551 นั่นคือมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ครม.รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 2 เดือนแรก ซึ่งสรุปสาระสำคัญที่น่าสนใจได้ดังนี้ การส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 12,991.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับระยะเดียวกันในปีที่แล้ว ก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 เป็นการขยายตัวในอัตราสูงต่อเนื่องเมื่อคิดในรูปเงินบาท การส่งออกมีมูลค่าถึง 427,547.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 การส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกหมวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งเพิ่มขึ้นชัดเจนถึงร้อยละ 21.1 ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ และสินค้าอื่นๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 และ 27.5 ตามลำดับ การส่งออกในระยะ 2 เดือนแรก ของปี 2551 เมื่อสรุปประมวลกันแล้วมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 26,951.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ถึงร้อยละ 24.6 และเมื่อคิดเป็นรูปเงินบาท มูลค่าการส่งออกมีทั้งสิ้นถึง 894,505.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15.7 การส่งออกก็เช่นเดิม เพิ่มขึ้นในอัตราสูงในทุกหมวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31 สินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าอื่นๆ ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 และ 32.5 ตามลำดับ
ในส่วนของการนำเข้า การนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2551 มีมูลค่าถึง 13,680.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.13 โดยกลุ่มสินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง ร้อยละ 66.4 สินค้าทุน ร้อยละ 23.4 สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 27.2 สินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 30.9 และสินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ร้อยละ 34.1 ส่วนสินค้าอาวุธยุทธปัจจัยและสินค้าอื่นๆ ก็ปรากฏว่ามีมูลค่าการนำเข้าลดลง ร้อยละ 95.8 เมื่อมองข้อมูลการนำเข้าในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2551 นำมารวมกันแล้ว มูลค่าการนำเข้าก็ 28,293.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.9 โดยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิง ร้อยละ 69.5 สินค้าทุน ร้อยละ 44.7 สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 29.5 สินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 42.4 สินค้ายานพาหนะ และอุปกรณ์การขนส่ง ร้อยละ 42.7 ส่วนสินค้าอาวุธยุทธปัจจัยและสินค้าอื่นๆ ก็นำเข้าลดลงร้อยละ 93.5
ดุลการค้าเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ปรากฏว่าประเทศไทยขาดดุลการค้า 688.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2551 ขาดดุลการค้ารวม 1,342.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากที่เกินดุลการค้า 1,560.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระยะเดียวกันของปี 2550
แนวโน้มการส่งออกและการนำเข้าในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป กระทรวงพาณิชย์ศึกษาและสรุปรายงานข้อมูลว่า สถานการณ์การส่งออกของไทยยังมีปัจจัยบวกสนับสนุน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สินค้าจีนถูกต่อต้านด้านคุณภาพ ทำให้สินค้าไทยได้รับความสนใจมากขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลจีนประกาศยกเลิกการอุดหนุนผู้ส่งออกด้วยการงดคืนภาษี 15 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีผลกระทบต่อผู้ส่งออกของจีน โดยผู้ส่งออกและผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเน้นการผลิตสินค้าที่ขายดีไซน์และคุณภาพทดแทนการแข่งขันด้วย ราคา รวมทั้งการเจาะตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมก็จะต้องมีการพยายามสร้างจุดแข็งในเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ระดับราคาน้ำมันที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูง และเงินบาทที่แข็งค่าก็อาจทำให้ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ใช้วัตถุดิบสูง ทำให้ผู้ส่งออกไม่สามารถกำหนดราคาที่เหมาะสมได้ ก็อย่างที่ทราบกันว่าราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน ยังคงเป็นปัจจัยหลัก อุปสรรคสำคัญสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเราอยู่
แนวโน้มการนำเข้าและดุลการค้าจากสถานการณ์การส่งออกที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการแข็งค่าของค่าเงินบาท รวมทั้งการวางแผนเพื่อการผลิต ก็คาดการณ์กันว่าการนำเข้าในกลุ่มทุน เช่น เครื่องจักรกล และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้ากลุ่มวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป อุปกรณ์ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการผลิตและการส่งออกโดยตรง จะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการผลิต การส่งออก ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ในเรื่องของการกำหนดนโยบายในการกระตุ้นการส่งออกปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเน้นการเจาะตลาดใหม่ ให้มีสัดส่วนการส่งออกสูงขึ้น เพื่อทดแทนตลาดหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น โดยเพิ่มกิจกรรมในประเทศที่มีเป้าหมายการส่งออกสูง เช่น จีน อินเดีย ยุโรปตะวันออก แอฟริกา และปรับปรุงให้บริการผู้ส่งออกและผู้นำเข้าให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น
ครม.พิจารณาแผนเรื่องความปลอดภัยช่วงสงกรานต์
นางศุภรัตน์ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีการพิจารณาเรื่องความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีเห็นความสำคัญว่า ในส่วนการจะป้องกันและลดอุบัติเหตุนั้นจะทำอย่างไร คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และมอบหมายให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบต่อไป โดยเป้าหมายของเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ รัฐบาลชุดนี้ไม่มีการกำหนดเป้าหมายว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะต้องไม่เกินกี่คน จำนวนผู้บาดเจ็บจะต้องไม่เกินกี่คน แต่เป้าหมายคือ จะต้องมีจำนวนผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และจำนวนอุบัติเหตุลดน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2550 แต่ไม่มีเป้าหมายกำหนดเป็นตัวเลขชัดเจนว่าจะต้อง ตายเท่าไหร่ เจ็บเท่าไหร่ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้กำหนดเป้าหมายอย่างนั้น ในส่วนของมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน มีการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านวิศวกรรมการจราจร ด้านการให้ความรู้ การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม ด้านการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ด้านการประเมินผลและระบบสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาดำเนินการในช่วง 7 วันอันตราย คือวันที่ 11-17 เมษายน 2551 จะมีแผนปฏิบัติการเข้มข้นตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติทางถนน ภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก 5 ด้าน อย่างที่กล่าวไปแล้ว โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นอกจากนี้จะมีการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจร่วมแบบบูรณาการบนถนนสายหลักและสายรอง มีการตั้งจุดสกัดกั้นชุมชนหมู่บ้าน โดยมอบหมายให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหัวหน้าชุมชน หมู่บ้าน ภาคประชาชน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ รวมทั้งจัดตั้งหน่วยสนับสนุนและบริการประชาชนระดับพื้นที่เพื่อเป็นการให้บริการประชาชนในการต้องเดินทาง ท่านนายกรัฐมนตรีแสดงความคิดเห็นว่า โดยสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุนั้นจะเกิดจากรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะการเมาแล้วขับ ซึ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในจังหวัดต่างๆ ดูแลประเด็นนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเส้นทางสายรอง และยานพาหนะคือ รถจักรยานยนต์
ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า มีการประชุมระดับผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับการเตรียมแผนป้องกันต่างๆ และจัดให้มียามหมู่บ้านคอยควบคุมการดื่มสุราในหมู่บ้านคอยควบคุมการดื่มสุราในหมู่บ้าน การให้งดดื่มสุราคงเป็นไปไม่ได้ แต่จัดให้ชาวบ้านหรือในชุมชนช่วยกันดูแลในเรื่องของการดื่มสุราให้อยู่ในวงจำกัด แล้วแบ่งกลุ่มงานเป็น 3-4 จังหวัดให้ดูแลร่วมกัน ไม่ใช่ป้องกันเฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เช่น จังหวัดทางภาคอีสาน เช่น จ.ขอนแก่น ให้ดูจังหวัดในกลุ่มเดียวกันที่อยู่รอบๆ 2-3 จังหวัด และดูแลร่วมกัน เป็นกลุ่มจังหวัด ส่วนของกระทรวงพลังงาน แจ้งให้ทราบว่า วันที่ 10 เมษายน จะมีพิธีเปิดโครงการรณรงค์ปรับแต่งและดูแลเครื่องยนต์ ที่ปั๊ม ปตท. 50 แห่งทั่วประเทศ และปั๊มบางจาก ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในส่วนของกระทรวงแรงงาน จะมีการจัดตั้งเต็นท์เพื่อตรวจสภาพรถยนต์ระหว่างเดินทางทั้งไปและกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในส่วนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อาจจะมีการมอบเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ให้กับตำรวจนำไปใช้ เป็นการป้องกันคนที่เมาแล้วขับ
กระทรวงคมนาคม มีแผนรองรับการเดินทางของประชาชน ซึ่ง ครม.เห็นชอบ เช่น แผนด้านการบริการและอำนวยความสะดวก โดยการจัดตั้งพาหนะต่างๆ ให้เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ทาง บขส. ทางรถไฟ ทางการบินไทย เพิ่มเที่ยวบิน รวมทั้ง ขสมก.ด้วย ในส่วนการอำนวยความสะดวกด้านจราจร กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ได้ขอความร่วมมือบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างให้หยุดงานก่อสร้างระหว่างเทศกาลสงกรานต์ และคืนพื้นที่ผิวการจราจร รวมทั้งติดตั้งป้ายแนะนำ แผนที่แนะนำ เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางต่างๆ โดยเฉพาะหลีกเลี่ยงเส้นทางที่กำลังมีการก่อสร้าง นอกจากนี้แล้วยังจะมีการจัดตั้ง ศูนย์วิทยุและโทรศัพท์สายด่วน โดยมีศูนย์ปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานประสานงานการปฏิบัติงานกับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ผ่านหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนการอำนวยการด้านการรักษาความปลอดภัย จัดให้มีเจ้าหน้าที่อยู่เวรยาม เพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามสถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ และท่าอากาศยานต่างๆ
ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีแผนให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเตรียมความพร้อมและดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าต่างๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย
ครม.เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์ 5จว.ใต้
นางศุภรัตน์ แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่มีการประชุมคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เสนอเกี่ยวกับกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรงนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามกรอบยุทธศาสตร์ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา โดยกรอบแนวคิดตรงนี้ได้น้อมนำแนวยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ในการแก้ปัญหา และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับการพัฒนาพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จ.สงขลา สตูล จะเป็นศูนย์เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าภายในและระหว่างประเทศ จ.สงขลา เป็นศูนย์กลางยางพาราโลก ศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกีฬาระดับสากล จ.ปัตตานี เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ศูนย์กลางอิสลามศึกษานานาชาติ จ.ยะลา เป็นศูนย์กลางการเกษตรและตลาดสินค้าเกษตร จ.นราธิวาส เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ด้านตะวันออกของมาเลเซีย
มาตรการด้านเศรษฐกิจ 9 มาตรการ เช่น การสร้างโรงงานอุตสาหกรรมทหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรการในการรักษาผู้ประกอบการในพื้นที่ให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ เป็นการเห็นชอบตามกรอบที่เสนอมา จากการประชุมคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้
เรื่องการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะนักบริหาร คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการ ให้สำนักงาน ก.พ.ร.เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและบังเกิดผลที่จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบราชการ ปีละ 1 รุ่น รุ่นละประมาณ 60 คน เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เป็นต้นไป ให้สำนักงาน ก.พ.ร.ไปทำความตกลงกับสำนักงบประมาณในเรื่องของงบประมาณดำเนินการโครงการต่อไป
ครม.พิจารณาปัญหาราคาปุ๋ย
ด้านน.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า คณะรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าในเรื่องของมาตรการจะใช้ในการแก้ไขปัญหาราคาปุ๋ย ซึ่งตอนนี้ถือได้ว่าเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่ง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพี่น้องเกษตรกร หลังจากที่มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยเมื่อวันอังคารที่แล้ว วันนี้ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานถึงการพูดคุยหารือกับกระทรวงพาณิชย์ถึงแนวทางแก้ไขปัญหา หลังจากที่ได้มีการเชิญผู้ประกอบการมาพูดคุยกัน จะมีการปรับลดราคาปุ๋ยลงมาตามสัดส่วนที่เหมาะสม เป็นคำยืนยันจากผู้ประกอบการค้าปุ๋ย แต่สาระสำคัญในวันนี้ที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติออกมา คือ มีมติอนุมัติงบประมาณ 300 ล้านบาท ให้แก่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการนำไปใช้แก้ไขปัญหาราคาปุ๋ย โดยจะมีการสั่งนำเข้าปุ๋ยจากประเทศอินโดนีเซียล๊อตใหญ่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรโดยตรง ปรับลดราคาปุ๋ยลงมา และที่สำคัญคือ จะมีการตรวจสอบราคานำเข้าปุ๋ยที่แท้จริงว่า จริงๆ แล้วราคาที่แท้จริงที่นำเข้ามาเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ เพราะขณะนี้ราคาปุ๋ยสูงมาก แต่ลักษณะที่เราทำร่วมกับอินโดนีเซีย ไม่ใช่ลักษณะบราเธอร์ แต่เป็นเคาท์เตอร์เทรด คืออินโดนีเซียจะสั่งซื้อข้าวจากไทย ขณะที่รัฐบาลไทยจะนำเข้าปุ๋ยจากประเทศอินโดนีเซียล๊อตใหญ่ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเกษตร เนื่องจากราคาต้นทุนการผลิตต่ำกว่าปุ๋ยเคมี โดยมีแนวความคิดจะไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ ในส่วนของปุ๋ยอินทรีย์ที่คณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญ เนื่องจากจะเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในการช่วยลดต้นทุนในการผลิต ที่สำคัญคือ จะส่งผลดีต่อระบบนิเวศวิทยาอีกด้วย
เป็นมาตรการแก้ไขปัญหาราคาปุ๋ยล่าสุดที่ออกมา ณ ตอนนี้ แต่ในส่วนของงบประมาณ 300 ล้านบาท คณะรัฐมนตรีมีนโยบายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปหารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง
ครม.เห็นชอบโอนคืนไนท์ซาฟารีให้ อพท.
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า เรื่องการถ่ายโอนโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นการหยิบยกประเด็นเรื่องการขอให้มีการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 และเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 เข้ามาหารือ สืบเนื่องจาก รองนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางไปตรวจราชการที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา และมีการประชุมหารือข้อราชการกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยที่ประชุมหยิบยกโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขึ้นมาหารือ และที่ประชุมมีมติเห็นควรว่า ควรยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 ในส่วนการทำงานของคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มีการประชุม เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา พิจารณาเรื่องการโอนโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ให้กับองค์การสวนสัตว์ โดยให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดย กพท. เห็นว่า โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นโครงการสำคัญของรัฐบาลที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 แล้ว และใช้งบประมาณลงทุนไปแล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลการดำเนินการภายใต้ความรับผิดชอบขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประสบความสำเร็จด้วยดี วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จึงมีมติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 เพื่อให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการโครงกานี้ต่อไป
ครม.ตั้ง “พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา” เป็นเลขาสมช.
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า เรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สืบเนื่องจากกระทรวงกลาโหมประสงค์จะขอตัว พล.ท.ศิริพงศ์ บุญพัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้โอนกลับไปรับราชการเป็นข้าราชการทหาร ที่กระทรวงกลาโหม และขอให้พิจารณาแต่งตั้ง พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ข้าราชการทหาร ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ทางคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่มีการหยิบยกเข้าเสนอสู่ที่ประชุม แต่งตั้ง พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ข้าราชการทหาร ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้มีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อีก 4 ท่าน ประกอบด้วย นายประสาร เรืองสุขอุดม นายไพศาล ชโนวรรณ นายสุรชัย ทิณเกิด นายชาญ คราประยูร
ครม.พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายขรก.หลายตำแหน่ง
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า ต่อด้วยเรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการบริหารโครงการเงินสนับสนุนจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อการพัฒนากีฬาของชาติ ทั้งนี้เพื่อที่จะให้คณะกรรมการบริหารโครงการสามารถบริหารโครงการต่อไปด้วยความเรียบร้อยเหมาะสม รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทยก็จะได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานตามข้อบังคับของ กกท.ว่าด้วยการจัดแบ่งส่วนงาน และหน้าที่ของส่วนงาน ในปี พ.ศ.2551 จึงเห็นสมควรที่จะปรับปรุงคณะกรรมการบริหารโครงการชุดเดิม และแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการเงินสนับสนุนจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อการพัฒนากีฬาของชาติชุดใหม่ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป มีรายชื่อดังต่อไปนี้ นายสมบัติ คุรุพันธ์ เป็นประธานกรรมการ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นรองประธานกรรมการ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายส่งเสริมกีฬา เป็นกรรมการ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นกรรมการ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เป็นกรรมการ ประธานกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ ผู้แทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นกรรมการ ผู้แทนสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ นายสมชาย ประเสริฐศิริพันธ์ เป็นกรรมการ นายสมพงษ์ ชาตะวิถี เป็นกรรมการ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ผู้อำนวยการฝ่ายการคลัง การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ได้เสนอมา
นอกจากนี้ มีเรื่องของการยืนยันองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หลังจากที่ได้มีการมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่ ครม.แต่งตั้งว่าสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติ ครม.เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2551 หรือไม่ กระทรวงพาณิชย์ได้ตรวจสอบองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายข้าวแล้ว ปรากฏว่าสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 265 และมาตรา 267 และมติ ครม.เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2551 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงได้ยกเลิกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 133/2550 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าว และให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า กขช. มีองค์ประกอบอำนาจหน้าที่ดังนี้
นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นกรรมการ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ ผู้แทนสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ ผู้แทนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย เป็นกรรมการ นายปราโมทย์ วานิชชานนท์ เป็นกรรมการ นายสมพร อิศวิลานนท์ เป็นกรรมการ นายอภิชาติ พงษ์ศรีหดุลชัย เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการและเลขานุการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ อธิบดีกรมการข้าว เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
คณะกรรมการชุดนี้จะมีหน้าที่เสนอนโยบายและยุทธศาสตร์ต่อ ครม.เกี่ยวกับข้าวในระยะสั้นและระยะยาวให้สอดรับกันทั้งระบบ และจะอนุมัติแผนงานโครงการ และมาตรการเกี่ยวกับการผลิตและการตลาดข้าว ที่คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต และคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ได้เสนอ นอกจากนี้ จะทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อการพัฒนาและผลิตตลาดข้าว พิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงสีข้าว ผู้ค้าข้าว และผู้ส่งออกข้าว เพื่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมสูงสุด และให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย นี่เป็นอำนาจหน้าที่โดยรวมของคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งผ่านมติ ครม.วันนี้
นอกจากนี้ มีการอนุมัติแต่งตั้งนายสุขจิตต์ ประยูรหงษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นักบริหาร 10 สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอให้มีการแต่งตั้งนายเสน่ห์ ขาวโต ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักวิชาการศึกษา 9 สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ได้เสนอมา
นอกจากนี้ มีการแต่งตั้งในส่วนของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย เสนอโดยกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายมาจิด มิสมาร์ก ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทนนายมุห์ซิน พอก อออีน โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ก็มีการแต่งตั้งมนตรีฝ่ายไทยคนใหม่ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นมนตรีฝ่ายไทยประจำมูลนิธิเอเชีย-ยุโรป
กระทรวงการต่างประเทศได้เสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติแต่งตั้งนายสวนิต คงศิริ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนของประเทศไทยในคณะมนตรี ASEF - Asia Europe Foundation แทนนายสาโรช ชวนะวิรัตน์ และขอให้นำเสนอ ครม. วันนี้ ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ได้เสนอ
มีการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ วันนี้มีมติแต่งตั้งรัฐมนนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ และ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ทำหน้าที่เป็นรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ในเรื่องของศาสนา เสนอโดยกระทรวงวัฒนธรรม เสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลผู้สมควรเป็นอะมีรุ้ลฮัจญ์ หรือ รออิสบิซาติลฮัจญ์ อัลรัสมียะห์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ทางการ) เนื่องจากว่าในเทศกาลฮัจญ์ประจำปี 2551 จุฬาราชมนตรี ไม่ประสงค์จะเดินทางไปเป็นอะมีรุ้ลฮัจญ์ หรือ รออิสบิซาติลฮัจญ์ อัลรัสมียะห์ ซึ่งคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้พิจารณานำเสนอชื่อบุคคลเพื่อให้ ครม.มีมติแต่งตั้งผู้แทนในครั้งนี้ เมื่อพิจารณาแล้ว ครม.แต่งตั้งนายพิเชษฐ สถิรชวาล ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ทางการ ปฏิบัติหน้าที่แทนจุฬาราชมนตรี ในการไปร่วมเทศกาลฮัจญ์ประจำปี 2551
ครม.อนุมัติหลักการร่างพ.ร.ฎ.ควบคุมการส่งยุทธภัณฑ์ออกนอกประเทศ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้การสงคราม (ฉบับที่ ... ) พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ เรื่องนี้ ก.กลาโหม เสนอว่า สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้การสงคราม พ.ศ. 2535 เพื่อให้การควบคุมอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม สอดคล้องกับประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่องกำหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2550 ลงวันที่ 30 พ.ย.2550 โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และอาวุธเคมี ทั้งในส่วนของการนำเข้าและส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ก็ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตลอดจนเป็นไปตามมาตรฐานของออนุสัญญาระหว่างประเทศ และมีความเหมาะสมกับสภาวะการณ์มากยิ่งขึ้น จึงได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญหลักๆ ของร่าง ก.ม.ฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้การสงคราม พ.ศ. 2535 นั่นเอง
ครม.เห็นชอบร่างระเบียบกท.คลังว่าด้วยการเบิกเงินช่วยเหลือทหารพราน
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า ครม.ก็เห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และเงินช่วยเหลืออาสาสมัครทหารพราน กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอและให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ ครม.ตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไป
เรื่องนี้ ก.คลัง เสนอต่อที่ประชุม ครม.ว่าเพื่อให้ อส.ทพ. กระทรวงกลาโหม ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมกรณีถูกปลด พิการ และทุพพลภาพ ตามนัยมติ ครม.22 ม.ค.2551 จึงเห็นควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลืออาสาสมัครทหารพรานกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงได้เสนอร่างระเบียบดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญมีการเปลี่ยนข้อความส่วนหนึ่ง เป็นการยกเลิกข้อความในข้อ 21 ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลืออาสาสมัครทหารพรานกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2548 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน "ให้อาสาสมัครทหารพรานที่ครบเกษียณอายุ หรือออกจากงานด้วยเหตุปลดพิการและทุพพภาพ หรือทายาทในกรณีอาสาสมัครทหารพรานถึงแก่ความตาย มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนเท่ากับเงินค่าตอบแทนเดือนสุดท้าย คูณด้วยเวลาทำงาน" นี่คือข้อความที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในร่างกฎหมายฉบับนี้
ครม.รับทราบการจัดสรรเงินรางวัลเพิ่มพิเศษสำหรับขรก.ระดับผู้บริหาร
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า ครม.รับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอในการจัดสรรเงินรางวัลสำหรับหน่วยงานและผู้ปฏิบัติ และเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2550 ก็เป็นข่าวดีสำหรับข้าราชการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ดังที่เรียนให้ทราบแล้ว ครม.เห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอทั้ง 3 ข้อดังนี้
1. การสรุปคะแนนผลการประเมินการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2550 ของส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ 2. การจัดสรรเงินรางวัลประจำปีให้ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัดที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการในปีงบประมาณ 2550 และมีผลการประเมินที่ครบถ้วนทุกตัวชี้วัด และผ่านเกณฑ์การประเมินผล ซึ่งเป็นการจ่ายครั้งเดียว ในวงเงินงบประมาณที่จะจัดสรรทั้งหมด 5,550 ล้านบาท นอกจากนี้ ให้นำเงินร้อยละ 50 ของผู้บริหารที่มีสิทธิได้รับเงินเติมพิเศษไปสมทบกับเงินรางวัลที่จะจัดสรรให้กับกลุ่มผู้ปฏิบัติด้วย โดยเป็นการใช้เงินงบกลางสำหรับจ่ายเป็นเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหารก็เป็นจำนวนเงินงบประมาณ ประมาณ 642.5 ล้านบาท เพื่อนำไปสมทบและจัดสรรเป็นเงินรางวัลให้กลุ่มผู้ปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร และเงินรางวัลสำหรับหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2550 ส่วนแนวทางในการดำเนินงานซึ่งระบุไว้เป็นข้อที่ 3 ที่สำนักงาน ก.พ.ร.ได้เตรียมการสรุปไว้ บอกว่า ให้ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด มีตัวชี้วัดจำนวนมาก โดยเฉพาะตัวชี้วัดเพื่อประมวลผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล ขออนุญาตยกตัวอย่างสัก 1 ตัวอย่าง เช่น ตัวชี้วัดที่เกี่ยวกับระดับความสำเร็จของการดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ก็จะมีส่วนราชการที่เป็นเจ้าภาพหลักก็คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างนี้เป็นต้น รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้และทุกเรื่องที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักฯ จะสำเนาแจ้งสื่อมวลชนที่สนใจในแต่ละประเด็นต่อไป
ครม.รับทราบรายงานกท.พาณิชย์กรณีการค้าระหว่างประเทศ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า อีกเรื่องหนึ่งเป็นรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ เรื่องเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 2 เดือนแรก ในปี 2551 นั่นคือมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ครม.รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 2 เดือนแรก ซึ่งสรุปสาระสำคัญที่น่าสนใจได้ดังนี้ การส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 12,991.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับระยะเดียวกันในปีที่แล้ว ก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 เป็นการขยายตัวในอัตราสูงต่อเนื่องเมื่อคิดในรูปเงินบาท การส่งออกมีมูลค่าถึง 427,547.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 การส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกหมวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งเพิ่มขึ้นชัดเจนถึงร้อยละ 21.1 ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ และสินค้าอื่นๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 และ 27.5 ตามลำดับ การส่งออกในระยะ 2 เดือนแรก ของปี 2551 เมื่อสรุปประมวลกันแล้วมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 26,951.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ถึงร้อยละ 24.6 และเมื่อคิดเป็นรูปเงินบาท มูลค่าการส่งออกมีทั้งสิ้นถึง 894,505.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15.7 การส่งออกก็เช่นเดิม เพิ่มขึ้นในอัตราสูงในทุกหมวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31 สินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าอื่นๆ ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 และ 32.5 ตามลำดับ
ในส่วนของการนำเข้า การนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2551 มีมูลค่าถึง 13,680.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.13 โดยกลุ่มสินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง ร้อยละ 66.4 สินค้าทุน ร้อยละ 23.4 สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 27.2 สินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 30.9 และสินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ร้อยละ 34.1 ส่วนสินค้าอาวุธยุทธปัจจัยและสินค้าอื่นๆ ก็ปรากฏว่ามีมูลค่าการนำเข้าลดลง ร้อยละ 95.8 เมื่อมองข้อมูลการนำเข้าในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2551 นำมารวมกันแล้ว มูลค่าการนำเข้าก็ 28,293.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.9 โดยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิง ร้อยละ 69.5 สินค้าทุน ร้อยละ 44.7 สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 29.5 สินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 42.4 สินค้ายานพาหนะ และอุปกรณ์การขนส่ง ร้อยละ 42.7 ส่วนสินค้าอาวุธยุทธปัจจัยและสินค้าอื่นๆ ก็นำเข้าลดลงร้อยละ 93.5
ดุลการค้าเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ปรากฏว่าประเทศไทยขาดดุลการค้า 688.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2551 ขาดดุลการค้ารวม 1,342.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากที่เกินดุลการค้า 1,560.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระยะเดียวกันของปี 2550
แนวโน้มการส่งออกและการนำเข้าในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป กระทรวงพาณิชย์ศึกษาและสรุปรายงานข้อมูลว่า สถานการณ์การส่งออกของไทยยังมีปัจจัยบวกสนับสนุน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สินค้าจีนถูกต่อต้านด้านคุณภาพ ทำให้สินค้าไทยได้รับความสนใจมากขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลจีนประกาศยกเลิกการอุดหนุนผู้ส่งออกด้วยการงดคืนภาษี 15 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีผลกระทบต่อผู้ส่งออกของจีน โดยผู้ส่งออกและผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเน้นการผลิตสินค้าที่ขายดีไซน์และคุณภาพทดแทนการแข่งขันด้วย ราคา รวมทั้งการเจาะตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมก็จะต้องมีการพยายามสร้างจุดแข็งในเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ระดับราคาน้ำมันที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูง และเงินบาทที่แข็งค่าก็อาจทำให้ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ใช้วัตถุดิบสูง ทำให้ผู้ส่งออกไม่สามารถกำหนดราคาที่เหมาะสมได้ ก็อย่างที่ทราบกันว่าราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน ยังคงเป็นปัจจัยหลัก อุปสรรคสำคัญสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเราอยู่
แนวโน้มการนำเข้าและดุลการค้าจากสถานการณ์การส่งออกที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการแข็งค่าของค่าเงินบาท รวมทั้งการวางแผนเพื่อการผลิต ก็คาดการณ์กันว่าการนำเข้าในกลุ่มทุน เช่น เครื่องจักรกล และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้ากลุ่มวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป อุปกรณ์ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการผลิตและการส่งออกโดยตรง จะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการผลิต การส่งออก ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ในเรื่องของการกำหนดนโยบายในการกระตุ้นการส่งออกปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเน้นการเจาะตลาดใหม่ ให้มีสัดส่วนการส่งออกสูงขึ้น เพื่อทดแทนตลาดหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น โดยเพิ่มกิจกรรมในประเทศที่มีเป้าหมายการส่งออกสูง เช่น จีน อินเดีย ยุโรปตะวันออก แอฟริกา และปรับปรุงให้บริการผู้ส่งออกและผู้นำเข้าให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น
ครม.พิจารณาแผนเรื่องความปลอดภัยช่วงสงกรานต์
นางศุภรัตน์ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีการพิจารณาเรื่องความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีเห็นความสำคัญว่า ในส่วนการจะป้องกันและลดอุบัติเหตุนั้นจะทำอย่างไร คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และมอบหมายให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบต่อไป โดยเป้าหมายของเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ รัฐบาลชุดนี้ไม่มีการกำหนดเป้าหมายว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะต้องไม่เกินกี่คน จำนวนผู้บาดเจ็บจะต้องไม่เกินกี่คน แต่เป้าหมายคือ จะต้องมีจำนวนผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และจำนวนอุบัติเหตุลดน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2550 แต่ไม่มีเป้าหมายกำหนดเป็นตัวเลขชัดเจนว่าจะต้อง ตายเท่าไหร่ เจ็บเท่าไหร่ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้กำหนดเป้าหมายอย่างนั้น ในส่วนของมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน มีการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านวิศวกรรมการจราจร ด้านการให้ความรู้ การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม ด้านการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ด้านการประเมินผลและระบบสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาดำเนินการในช่วง 7 วันอันตราย คือวันที่ 11-17 เมษายน 2551 จะมีแผนปฏิบัติการเข้มข้นตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติทางถนน ภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก 5 ด้าน อย่างที่กล่าวไปแล้ว โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นอกจากนี้จะมีการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจร่วมแบบบูรณาการบนถนนสายหลักและสายรอง มีการตั้งจุดสกัดกั้นชุมชนหมู่บ้าน โดยมอบหมายให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหัวหน้าชุมชน หมู่บ้าน ภาคประชาชน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ รวมทั้งจัดตั้งหน่วยสนับสนุนและบริการประชาชนระดับพื้นที่เพื่อเป็นการให้บริการประชาชนในการต้องเดินทาง ท่านนายกรัฐมนตรีแสดงความคิดเห็นว่า โดยสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุนั้นจะเกิดจากรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะการเมาแล้วขับ ซึ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในจังหวัดต่างๆ ดูแลประเด็นนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเส้นทางสายรอง และยานพาหนะคือ รถจักรยานยนต์
ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า มีการประชุมระดับผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับการเตรียมแผนป้องกันต่างๆ และจัดให้มียามหมู่บ้านคอยควบคุมการดื่มสุราในหมู่บ้านคอยควบคุมการดื่มสุราในหมู่บ้าน การให้งดดื่มสุราคงเป็นไปไม่ได้ แต่จัดให้ชาวบ้านหรือในชุมชนช่วยกันดูแลในเรื่องของการดื่มสุราให้อยู่ในวงจำกัด แล้วแบ่งกลุ่มงานเป็น 3-4 จังหวัดให้ดูแลร่วมกัน ไม่ใช่ป้องกันเฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เช่น จังหวัดทางภาคอีสาน เช่น จ.ขอนแก่น ให้ดูจังหวัดในกลุ่มเดียวกันที่อยู่รอบๆ 2-3 จังหวัด และดูแลร่วมกัน เป็นกลุ่มจังหวัด ส่วนของกระทรวงพลังงาน แจ้งให้ทราบว่า วันที่ 10 เมษายน จะมีพิธีเปิดโครงการรณรงค์ปรับแต่งและดูแลเครื่องยนต์ ที่ปั๊ม ปตท. 50 แห่งทั่วประเทศ และปั๊มบางจาก ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในส่วนของกระทรวงแรงงาน จะมีการจัดตั้งเต็นท์เพื่อตรวจสภาพรถยนต์ระหว่างเดินทางทั้งไปและกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในส่วนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อาจจะมีการมอบเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ให้กับตำรวจนำไปใช้ เป็นการป้องกันคนที่เมาแล้วขับ
กระทรวงคมนาคม มีแผนรองรับการเดินทางของประชาชน ซึ่ง ครม.เห็นชอบ เช่น แผนด้านการบริการและอำนวยความสะดวก โดยการจัดตั้งพาหนะต่างๆ ให้เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ทาง บขส. ทางรถไฟ ทางการบินไทย เพิ่มเที่ยวบิน รวมทั้ง ขสมก.ด้วย ในส่วนการอำนวยความสะดวกด้านจราจร กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ได้ขอความร่วมมือบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างให้หยุดงานก่อสร้างระหว่างเทศกาลสงกรานต์ และคืนพื้นที่ผิวการจราจร รวมทั้งติดตั้งป้ายแนะนำ แผนที่แนะนำ เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางต่างๆ โดยเฉพาะหลีกเลี่ยงเส้นทางที่กำลังมีการก่อสร้าง นอกจากนี้แล้วยังจะมีการจัดตั้ง ศูนย์วิทยุและโทรศัพท์สายด่วน โดยมีศูนย์ปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานประสานงานการปฏิบัติงานกับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ผ่านหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนการอำนวยการด้านการรักษาความปลอดภัย จัดให้มีเจ้าหน้าที่อยู่เวรยาม เพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามสถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ และท่าอากาศยานต่างๆ
ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีแผนให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเตรียมความพร้อมและดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าต่างๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย
ครม.เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์ 5จว.ใต้
นางศุภรัตน์ แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่มีการประชุมคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เสนอเกี่ยวกับกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรงนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามกรอบยุทธศาสตร์ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา โดยกรอบแนวคิดตรงนี้ได้น้อมนำแนวยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ในการแก้ปัญหา และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับการพัฒนาพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จ.สงขลา สตูล จะเป็นศูนย์เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าภายในและระหว่างประเทศ จ.สงขลา เป็นศูนย์กลางยางพาราโลก ศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกีฬาระดับสากล จ.ปัตตานี เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ศูนย์กลางอิสลามศึกษานานาชาติ จ.ยะลา เป็นศูนย์กลางการเกษตรและตลาดสินค้าเกษตร จ.นราธิวาส เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ด้านตะวันออกของมาเลเซีย
มาตรการด้านเศรษฐกิจ 9 มาตรการ เช่น การสร้างโรงงานอุตสาหกรรมทหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรการในการรักษาผู้ประกอบการในพื้นที่ให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ เป็นการเห็นชอบตามกรอบที่เสนอมา จากการประชุมคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้
เรื่องการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะนักบริหาร คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการ ให้สำนักงาน ก.พ.ร.เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและบังเกิดผลที่จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบราชการ ปีละ 1 รุ่น รุ่นละประมาณ 60 คน เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เป็นต้นไป ให้สำนักงาน ก.พ.ร.ไปทำความตกลงกับสำนักงบประมาณในเรื่องของงบประมาณดำเนินการโครงการต่อไป
ครม.พิจารณาปัญหาราคาปุ๋ย
ด้านน.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า คณะรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าในเรื่องของมาตรการจะใช้ในการแก้ไขปัญหาราคาปุ๋ย ซึ่งตอนนี้ถือได้ว่าเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่ง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพี่น้องเกษตรกร หลังจากที่มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยเมื่อวันอังคารที่แล้ว วันนี้ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานถึงการพูดคุยหารือกับกระทรวงพาณิชย์ถึงแนวทางแก้ไขปัญหา หลังจากที่ได้มีการเชิญผู้ประกอบการมาพูดคุยกัน จะมีการปรับลดราคาปุ๋ยลงมาตามสัดส่วนที่เหมาะสม เป็นคำยืนยันจากผู้ประกอบการค้าปุ๋ย แต่สาระสำคัญในวันนี้ที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติออกมา คือ มีมติอนุมัติงบประมาณ 300 ล้านบาท ให้แก่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการนำไปใช้แก้ไขปัญหาราคาปุ๋ย โดยจะมีการสั่งนำเข้าปุ๋ยจากประเทศอินโดนีเซียล๊อตใหญ่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรโดยตรง ปรับลดราคาปุ๋ยลงมา และที่สำคัญคือ จะมีการตรวจสอบราคานำเข้าปุ๋ยที่แท้จริงว่า จริงๆ แล้วราคาที่แท้จริงที่นำเข้ามาเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ เพราะขณะนี้ราคาปุ๋ยสูงมาก แต่ลักษณะที่เราทำร่วมกับอินโดนีเซีย ไม่ใช่ลักษณะบราเธอร์ แต่เป็นเคาท์เตอร์เทรด คืออินโดนีเซียจะสั่งซื้อข้าวจากไทย ขณะที่รัฐบาลไทยจะนำเข้าปุ๋ยจากประเทศอินโดนีเซียล๊อตใหญ่ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเกษตร เนื่องจากราคาต้นทุนการผลิตต่ำกว่าปุ๋ยเคมี โดยมีแนวความคิดจะไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ ในส่วนของปุ๋ยอินทรีย์ที่คณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญ เนื่องจากจะเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในการช่วยลดต้นทุนในการผลิต ที่สำคัญคือ จะส่งผลดีต่อระบบนิเวศวิทยาอีกด้วย
เป็นมาตรการแก้ไขปัญหาราคาปุ๋ยล่าสุดที่ออกมา ณ ตอนนี้ แต่ในส่วนของงบประมาณ 300 ล้านบาท คณะรัฐมนตรีมีนโยบายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปหารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง
ครม.เห็นชอบโอนคืนไนท์ซาฟารีให้ อพท.
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า เรื่องการถ่ายโอนโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นการหยิบยกประเด็นเรื่องการขอให้มีการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 และเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 เข้ามาหารือ สืบเนื่องจาก รองนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางไปตรวจราชการที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา และมีการประชุมหารือข้อราชการกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยที่ประชุมหยิบยกโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขึ้นมาหารือ และที่ประชุมมีมติเห็นควรว่า ควรยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 ในส่วนการทำงานของคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มีการประชุม เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา พิจารณาเรื่องการโอนโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ให้กับองค์การสวนสัตว์ โดยให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดย กพท. เห็นว่า โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นโครงการสำคัญของรัฐบาลที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 แล้ว และใช้งบประมาณลงทุนไปแล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลการดำเนินการภายใต้ความรับผิดชอบขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประสบความสำเร็จด้วยดี วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จึงมีมติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 เพื่อให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการโครงกานี้ต่อไป
ครม.ตั้ง “พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา” เป็นเลขาสมช.
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า เรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สืบเนื่องจากกระทรวงกลาโหมประสงค์จะขอตัว พล.ท.ศิริพงศ์ บุญพัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้โอนกลับไปรับราชการเป็นข้าราชการทหาร ที่กระทรวงกลาโหม และขอให้พิจารณาแต่งตั้ง พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ข้าราชการทหาร ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ทางคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่มีการหยิบยกเข้าเสนอสู่ที่ประชุม แต่งตั้ง พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ข้าราชการทหาร ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้มีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อีก 4 ท่าน ประกอบด้วย นายประสาร เรืองสุขอุดม นายไพศาล ชโนวรรณ นายสุรชัย ทิณเกิด นายชาญ คราประยูร
ครม.พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายขรก.หลายตำแหน่ง
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า ต่อด้วยเรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการบริหารโครงการเงินสนับสนุนจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อการพัฒนากีฬาของชาติ ทั้งนี้เพื่อที่จะให้คณะกรรมการบริหารโครงการสามารถบริหารโครงการต่อไปด้วยความเรียบร้อยเหมาะสม รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทยก็จะได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานตามข้อบังคับของ กกท.ว่าด้วยการจัดแบ่งส่วนงาน และหน้าที่ของส่วนงาน ในปี พ.ศ.2551 จึงเห็นสมควรที่จะปรับปรุงคณะกรรมการบริหารโครงการชุดเดิม และแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการเงินสนับสนุนจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อการพัฒนากีฬาของชาติชุดใหม่ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป มีรายชื่อดังต่อไปนี้ นายสมบัติ คุรุพันธ์ เป็นประธานกรรมการ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นรองประธานกรรมการ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายส่งเสริมกีฬา เป็นกรรมการ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นกรรมการ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เป็นกรรมการ ประธานกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ ผู้แทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นกรรมการ ผู้แทนสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ นายสมชาย ประเสริฐศิริพันธ์ เป็นกรรมการ นายสมพงษ์ ชาตะวิถี เป็นกรรมการ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ผู้อำนวยการฝ่ายการคลัง การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ได้เสนอมา
นอกจากนี้ มีเรื่องของการยืนยันองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หลังจากที่ได้มีการมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่ ครม.แต่งตั้งว่าสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติ ครม.เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2551 หรือไม่ กระทรวงพาณิชย์ได้ตรวจสอบองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายข้าวแล้ว ปรากฏว่าสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 265 และมาตรา 267 และมติ ครม.เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2551 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงได้ยกเลิกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 133/2550 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าว และให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า กขช. มีองค์ประกอบอำนาจหน้าที่ดังนี้
นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นกรรมการ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ ผู้แทนสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ ผู้แทนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย เป็นกรรมการ นายปราโมทย์ วานิชชานนท์ เป็นกรรมการ นายสมพร อิศวิลานนท์ เป็นกรรมการ นายอภิชาติ พงษ์ศรีหดุลชัย เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการและเลขานุการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ อธิบดีกรมการข้าว เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
คณะกรรมการชุดนี้จะมีหน้าที่เสนอนโยบายและยุทธศาสตร์ต่อ ครม.เกี่ยวกับข้าวในระยะสั้นและระยะยาวให้สอดรับกันทั้งระบบ และจะอนุมัติแผนงานโครงการ และมาตรการเกี่ยวกับการผลิตและการตลาดข้าว ที่คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต และคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ได้เสนอ นอกจากนี้ จะทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อการพัฒนาและผลิตตลาดข้าว พิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงสีข้าว ผู้ค้าข้าว และผู้ส่งออกข้าว เพื่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมสูงสุด และให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย นี่เป็นอำนาจหน้าที่โดยรวมของคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งผ่านมติ ครม.วันนี้
นอกจากนี้ มีการอนุมัติแต่งตั้งนายสุขจิตต์ ประยูรหงษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นักบริหาร 10 สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอให้มีการแต่งตั้งนายเสน่ห์ ขาวโต ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักวิชาการศึกษา 9 สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ได้เสนอมา
นอกจากนี้ มีการแต่งตั้งในส่วนของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย เสนอโดยกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายมาจิด มิสมาร์ก ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทนนายมุห์ซิน พอก อออีน โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ก็มีการแต่งตั้งมนตรีฝ่ายไทยคนใหม่ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นมนตรีฝ่ายไทยประจำมูลนิธิเอเชีย-ยุโรป
กระทรวงการต่างประเทศได้เสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติแต่งตั้งนายสวนิต คงศิริ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนของประเทศไทยในคณะมนตรี ASEF - Asia Europe Foundation แทนนายสาโรช ชวนะวิรัตน์ และขอให้นำเสนอ ครม. วันนี้ ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ได้เสนอ
มีการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ วันนี้มีมติแต่งตั้งรัฐมนนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ และ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ทำหน้าที่เป็นรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ในเรื่องของศาสนา เสนอโดยกระทรวงวัฒนธรรม เสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลผู้สมควรเป็นอะมีรุ้ลฮัจญ์ หรือ รออิสบิซาติลฮัจญ์ อัลรัสมียะห์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ทางการ) เนื่องจากว่าในเทศกาลฮัจญ์ประจำปี 2551 จุฬาราชมนตรี ไม่ประสงค์จะเดินทางไปเป็นอะมีรุ้ลฮัจญ์ หรือ รออิสบิซาติลฮัจญ์ อัลรัสมียะห์ ซึ่งคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้พิจารณานำเสนอชื่อบุคคลเพื่อให้ ครม.มีมติแต่งตั้งผู้แทนในครั้งนี้ เมื่อพิจารณาแล้ว ครม.แต่งตั้งนายพิเชษฐ สถิรชวาล ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ทางการ ปฏิบัติหน้าที่แทนจุฬาราชมนตรี ในการไปร่วมเทศกาลฮัจญ์ประจำปี 2551