xs
xsm
sm
md
lg

CPF เดินหน้า 5 โครงการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ตั้งเป้ารับซื้อ 2 ล้านกก.นำไปผลิตเป็นปลาป่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ CPF เร่งเดินหน้า “5 โครงการ" ต่อเนื่อง ตั้งเป้ารับซื้อจำนวน 2 ล้านกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 15 บาท เพื่อนำไปผลิตเป็นปลาป่น


ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ วันนี้ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านหลากหลายกิจกรรม โดยเฉพาะการเร่งจับปลาออกจากระบบในทุกจังหวัดที่พบปลาชนิดนี้ หนึ่งในองค์กรที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ คือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ที่เร่งเดินหน้า 5 โครงการเชิงรุกบูรณาการความร่วมมือกับทั้งกรมประมง โรงงานปลาป่น และสถาบันการศึกษาชั้นนำ เพื่อเร่งกำจัดปลาหมอคางดำให้ได้มากที่สุด 

นับตั้งแต่ โครงการแรก ความร่วมมือกับกรมประมง สนับสนุนการรับซื้อปลาหมอคางดำจากทุกจังหวัดทั่วประเทศที่พบปลาชนิดนี้ ตั้งเป้ารับซื้อจำนวน 2 ล้านกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 15 บาท เพื่อนำไปผลิตเป็นปลาป่น ภายใต้ความร่วมมือกับโรงงานปลาป่น บริษัท ศิริแสงอารำพี จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร โดยรับซื้อปลาจากชาวประมงในสมุทรสาครไปแล้วมากกว่า 6 แสนกิโลกรัม และบริษัทได้ขยายจุดรับซื้ออีกหลายจังหวัดต่อไป 

โครงการที่ 2 สนับสนุนปลานักล่า จำนวน 200,000 ตัว เพื่อปล่อยสู่ลงแหล่งน้ำตามแนวทางของกรมประมง เพื่อกำจัดลูกปลาที่เหลือออกจากระบบนิเวศน์ให้มากที่สุด จนถึงปัจจุบันบริษัทได้ส่งมอบปลากะพงขาวปลานักล่าไปแล้ว 54,000 ตัว ให้กับประมงจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และจันทบุรี จากการดำเนินการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ปรากฎผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ล่าสุด ประมงจังหวัดสมุทรสาคร ยืนยันว่าจังหวัดสามารถกำจัดปลาหมอคางดำไปแล้วกว่า 800,000 ตัว สอดคล้องกับชาวประมงจังหวัดสมุทรสาครที่ให้ข้อมูลว่า จำนวนปลาหมอคางดำในพื้นที่ลดลงถึง 80% 

โครงการที่ 3 สนับสนุนภาครัฐ ชุมชน และภาคประชาสังคม จัดกิจกรรมจับปลา อย่างเช่นกรมประมงเปิดปฏิบัติการ “ลงแขกลงคลอง” โดยบริษัทสนับสนุนอุปกรณ์จับปลาและกำลังคน รวมทั้ง อาหารและน้ำดื่มให้แก่ผู้ร่วมงานในทุกพื้นที่ ซึ่งบริษัทได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมจับปลาแล้วใน 6 จังหวัด สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี ชลบุรี นครปฐม และฉะเชิงเทรา ยังได้เดินหน้าร่วมกิจกรรมกับประมงจังหวัดที่ประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุด บริษัทขยายความร่วมมือกับสนับสนุนโครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนำถังพลาสติกใช้แล้วขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 200 ใบ จากโรงงานผลิตอาหารสัตว์ มอบแก่สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัด เพื่อส่งต่อให้กับการยางแห่งประเทศไทย สำหรับใช้เป็นถังบรรจุน้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำ โดทยอยส่งมอบให้สำนักงานพัฒนาที่ดินฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ฯลฯ จนครบต่อไป

โครงการที่ 4 พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากปลาหมอคางดำ โดยมีสถาบันการศึกษาแสดงความสนใจร่วมดำเนินการ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ม.เกษตรฯ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ม.ขอนแก่น) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่ได้ศึกษาวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ร่วมพัฒนาเมนูอาหารจากปลาหมอคางดำ ทั้งปลาร้าทรงเครื่อง ผงโรยข้าวญี่ปุ่น และน้ำพริกปลากรอบ 

และโครงการที่ 5 ร่วมทำวิจัยกับผู้เชี่ยวชาญ ในการหาแนวทางควบคุมประชากรปลาหมอคางดำในระยะยาว โดย สจล. และ ม.เกษตรฯ ได้แสดงเจตจำนงร่วมมือกับบริษัทในการบูรณาการเพื่อพัฒนาแนวทางที่จะบรรเทาปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และบริษัทยินดีที่จะร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม ล่าสุด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แสดงความสนใจเข้าร่วมด้วย 

ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการบูรณาการการทำงานร่วมกันนี้ เพื่อเป้าหมายเดียวในการแก้ปัญหาหมอคางดำให้หมดไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน








กำลังโหลดความคิดเห็น